ภารกิจ “60 ปี วิถีสยามพิวรรธน์” พัฒนาใจกลางกรุง สู่เมืองเติบโตยั่งยืน

ตลอด 60 ปี สยามพิวรรธน์พัฒนาพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้เป็นจุดหมายสำคัญที่เปิดกว้างต่อผู้คนทุกภาคส่วน ทั้งด้านการค้า วัฒนธรรม และการใช้ชีวิต มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ในขอบเขตที่ 1 และ 2 ภายในปี 2050 โดยมี "วิถีสยามพิวรรธน์" เป็นกรอบพันธกิจหลัก
KEY
POINTS
- ตลอด 60 ปี สยามพิวรรธน์พัฒนาพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้เป็นจุดหมายสำคัญที่เปิดกว้างต่อผู้คนทุกภาคส่วน ทั้งด้านการค้า วัฒนธรรม และการใช้ชีวิต
- โครงการอย่างสยามเซ็นเตอร์, สยามพารากอน, สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และคุณภาพชีวิตในเมือง
- บริษัทมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ในขอบเขตที่ 1 และ 2 ภายในปี 2050 โดยมี "วิถีสยามพิวรรธน์" เป็นกรอบพันธกิจหลัก
ตลอดกว่า 60 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาพื้นที่กลางเมืองให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของกรุงเทพฯ ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนจากหลากหลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ไม่เพียงแค่ในแง่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ แต่ยังเป็นเวทีของการใช้ชีวิต การพบปะ และกิจกรรมทางวัฒนธรรม ก้าวสู่การเป็นผู้บุกเบิกที่ยกระดับมาตรฐานของวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกไทย
จากโครงการสยามเซ็นเตอร์ สู่สยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของสยามพิวรรธน์ในการกำหนดทิศทางของการพัฒนาเมือง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัทได้พยายามบูรณาการแนวคิดการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ โดยมุ่งหวังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรวมถึงเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ (Net Zero) ให้เป็นศูนย์ในขอบเขตที่ 1 และ 2 ภายในปี 2050 โดยมีกรอบพันธกิจ “วิถีสยามพิวรรธน์” ที่ชัดเจนเพื่อสนับสนุนเป้าหมายนั้นๆ
วัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและชดเชย 100%
สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เป็นศูนย์การค้าแห่งแรกของไทยที่ ได้รับการรับรองเครื่องหมายการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset & Carbon Neutral) ในกิจกรรมชดเชยคาร์บอนประเภทองค์กร (Carbon Neutral of CFO) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.
โดยทำการชดเชยคาร์บอน 100% จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรปี 2023 ในขอบเขตที่ 1 และ 2 รวมทั้งสิ้น 23,092 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากถึง 2,430,736 ต้น ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์ยังเดินหน้าพัฒนาระบบบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
จัดการขยะครบวงจร 360°
สยามพิวรรธน์เดินหน้าสู่เป้าหมาย "ขยะฝังกลบเป็นศูนย์" (Zero Waste to Landfill) ภายในปี 2040 ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรนำนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้ในหลายโครงการ อาทิ นวัตกรรม Waste to Value ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร นำขยะเศษอาหารไปแปรสภาพเป็นอาหารสัตว์ หรือการร่วมมือกับพันธมิตรนำขยะในศูนย์การค้าไปรีไซเคิลและอัพไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ วางจำหน่ายในพื้นที่ ECOTOPIA พร้อมขยายแนวคิดสู่ผู้เช่า ลูกค้า และชุมชน และโครงการ Waste to Energy ร่วมมือกับ กทม. และวงษ์พาณิชย์ นำขยะไปรีไซเคิลและผลิตเป็นพลังงาน
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการลดปัญหา Food Waste เพื่อให้เหลือขยะอาหารน้อยที่สุด โดย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยามเป็นศูนย์การค้าแรกที่เข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” กับกรุงเทพมหานคร
เพื่อสร้างต้นแบบให้อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มใน 4 ศูนย์การค้าเข้าร่วม 100% รวมทั้งการส่งเสริมจิตสำนักสิ่งแวดล้อมในชุมชน เช่น โครงการขยะเติมสุข รักษ์คลองที่คลองสาน การแจกชุดถังขยะส่งเสริมการคัดแยกขยะอย่างถูกต้อง การอบรมให้ความรู้แก่ผู้เช่า พนักงาน โรงเรียน และชุมชน รวมทั้งสนับสนุนการแข่งขัน SPOGOMI WORLD CUP การแข่งขันเก็บขยะระดับโลก
เร่งเปลี่ยนสู่พลังงานหมุนเวียน 100%
สยามพิวรรธน์ตั้งเป้าการใช้พลังงานหมุนเวียน 30% ภายในปี 2026 และ 100% ภายในปี 2030 สำหรับพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการทั้งหมด ปัจจุบันได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่ ICONSIAM และ Siam Premium Outlets Bangkok รวมกว่า 18,000 ตารางเมตร ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 5,024 เมกะวัตต์-ชั่วโมง/ปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 2,512 ตัน CO₂e หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 264,000 ต้น และในปีนี้จะมีติดเพิ่มเติมที่สยามพารากอนอีก 3,500 ตารางเมตร ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1,044 เมกะวัตต์-ชั่วโมง/ปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 438 ตัน CO₂e หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 49,500 ต้น
บริษัทเดินหน้าศึกษาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง ผ่านการใช้ไฟฟ้าสีเขียวโครงการ Utility Green Tariff (UGT) โดยได้สมัครเข้าร่วมโครงการของภาครัฐ พร้อมขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่สยามพารากอน และพัฒนาระบบปรับอากาศอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
เติมเต็มเมืองด้วยพื้นที่สีเขียว
จากแนวคิดที่ว่าเมืองจะเติบโตได้ต้องเติบโตอย่างสมดุล สยามพิวรรธน์เดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างจริงจัง รวมกว่า 38,400 ตารางเมตรในทุกศูนย์การค้า และบนดาดฟ้าของอาคารจอดรถสยามมีศูนย์อนุบาลต้นไม้ฟาร์มออร์แกนิกขนาด 4,000 ตารางเมตร ใช้แนวทางธรรมชาติ 100% ปราศจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมี รวมทั้งมีการจัดการขยะอินทรีย์แบบครบวงจร ด้วยการใช้สารปรับปรุงดิน จากขยะอินทรีย์และปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ การนำกากกาแฟมาผลิตเป็นปุ๋ยธรรมชาติ และการผลิต น้ำหมักชีวภาพจากเปลือกผลไม้เพื่ออนุบาลและบำรุงต้นไม้
นอกจากนี้ ยังได้ทำงานร่วมกับ บริษัท ไบร์ท แมเนจเม้นท์ คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน เพื่อวางแผน Net Zero Roadmap ที่รัดกุมและท้าทาย แผนการนี้จะนำทางเราไปสู่เป้าหมายสำคัญ คือการ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้คือการสานต่อพันธกิจของ “วิถีสยามพิวรรธน์” ที่มุ่งมั่นในการสร้างเมืองให้กลายเป็นพื้นที่ของชีวิตที่เติบโตอย่างสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม







