เด็กไทยไร้โอกาสเรียน เกือบ 1 ล้านชีวิต เพราะยากจน หลุดเข้าตลาดแรงงานก่อนวัย

มีเด็กและเยาวชนกว่า 980,000 คน ไม่มีชื่ออยู่ในระบบการศึกษาไทย ปัญหาหลักเกิดจากความยากจน เด็กจำนวนมากต้องออกจากระบบการศึกษาไปช่วยเหลือครอบครัว หาเลี้ยงชีพ ตั้งแต่อายุน้อย
KEY
POINTS
- มีเด็กและเยาวชนกว่า 980,000 คน ไม่มีชื่ออยู่ในระบบการศึกษาไทย
- มีเด็กหลุดจากระบบการศึกษาในปีที่ผ่านมา (2567) ถึง 391,747 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าตกใจและสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- ปัญหาเกิดจาก ความยากจน, รายได้ครอบครัวไม่แน่นอน, พ่อแม่อพยพทำงาน, ความห่างไกลของสถานศึกษา, คุณภาพการศึกษาที่ไม่เท่าเทียม
- เด็กจำนวนมากต้องออกจากระบบการศึกษาไปช่วยเหลือครอบครัว หาเลี้ยงชีพ ตั้งแต่อายุน้อย
- มูลนิธิศุภนิมิตฯ ทำงานร่วมกับเครือข่ายท้องถิ่นเพื่อช่วยให้เด็กเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาทักษะชีวิต
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เผยข้อมูลล่าสุด พบว่าประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนกว่า 980,000 คน ที่ไม่มีชื่ออยู่ในระบบการศึกษา โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ผ่านมา มีเด็กกลุ่มใหม่ที่ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาสูงถึง 391,747 คน
ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำและอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม เด็กยากจน เด็กในพื้นที่ห่างไกล และเด็กที่ต้องออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานช่วยเหลือครอบครัว หากไม่มีการแก้ไขที่เป็นระบบ เด็กเหล่านี้อาจสูญเสียโอกาสในการพัฒนาศักยภาพตนเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว
การศึกษา—รากฐานสำคัญ
รสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ นำตัวเลขดังกล่าวมาใช้เป็นข้อมูลตั้งต้น เพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกับเครือข่ายในท้องถิ่น ตามพันธกิจของมูลนิธิศุภนิมิตฯ กับบทบาทด้านพัฒนาเยาวชน ให้มีทักษะชีวิตและมีต้นทุนชีวิตที่ดี
พบว่าปัจจัยเสี่ยงหลักๆ ที่ทำให้เด็กไทยต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา คือ
- ปัญหาความยากจนและรายได้ครอบครัวที่ไม่แน่นอน
- การทำงานนอกถิ่นฐานของพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ซึ่งส่งผลต่อการเลี้ยงดูเด็ก
- ความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงสถานศึกษาที่อยู่ห่างไกล
คุณภาพของการศึกษาที่ไม่เท่าเทียม อาจส่งผลให้เด็กเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนลดลง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่ตามมาในแต่ละวัน ทำให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ ตัดสินใจออกจากโรงเรียน และเบนเข็มเข้าสู่ตลาดแรงงานก่อนวัยอันควรไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หยุดความยากจน ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
รสลิน กล่าวด้วยว่า เด็กและเยาวชนที่ต้องทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย มักจะขาดทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานที่มีคุณภาพในอนาคต วงจรความยากจน จึงถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมให้หยั่งรากลึกและรุนแรงยิ่งขึ้น
ท่ามกลางความท้าทายของสภาพเศรษฐกิจและสังคมในทุกวันนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ เราได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันปัญหาแรงงานเด็กที่เกิดจากการหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร
เราตระหนักดีว่า การสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมและทั่วถึงทุกพื้นที่ คือรากฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กอย่างยั่งยืน ซึ่งแนวทางการทำงานของเรา จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือให้เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงและคงอยู่ในระบบการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการหลักของมูลนิธิศุภนิมิตฯ นั่นคือ โครงการอุปการะเด็ก และกิจกรรมส่งเสริมทักษะอาชีพที่หลากหลาย
ตัวอย่างเช่น โครงการกลไกการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับกลุ่มเปราะบาง ที่เน้นการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนและแกนนำท้องถิ่น เน้นการเข้าถึงกลุ่มเปราะบาง และดำเนินตามมาตรการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
โครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเองและยั่งยืน โครงการนี้เราเน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพ พัฒนาศักยภาพเด็กให้เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต หากเด็กและเยาวชนจำเป็นต้องหลุดจากระบบการศึกษา จะได้มีทักษะวิชาชีพติดตัวไว้สร้างรายได้ต่อไป
สถิติแรงงานเด็กในประเทศไทย
ข้อมูลจาก TDA Report 2023 ระบุว่า
- เด็กอายุ 5–14 ปีที่ทำงาน: ร้อยละ 13.0 หรือประมาณ 1,302,267 คน
- เด็กที่ทำงานและเรียนไปพร้อมกัน: ร้อยละ 14.4 ของเด็กอายุ 7–14 ปี
- เด็กที่ทำงานในภาคเกษตรกรรม: การปลูกและเก็บเกี่ยวอ้อย การทำประมง และการทำงานบนเรือ
- เด็กที่ทำงานในอุตสาหกรรม: การผลิตเสื้อผ้า การทำงานในโรงงานปศุสัตว์ และการก่อสร้าง
- เด็กที่ทำงานในบริการ: การทำงานในบ้าน ร้านอาหาร ร้านซ่อมรถ ปั๊มน้ำมัน และการขายของบนถนน
ความพยายามแก้ไขของภาครัฐ
- การดำเนินคดี: รัฐบาลไทยได้ดำเนินคดีต่อบุคคล 197 คนที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก
- การลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติ: มีการออกมาตรการให้แรงงานข้ามชาติและเด็กของพวกเขาที่ไม่มีเอกสารสามารถลงทะเบียนและอยู่ในประเทศได้จนถึงกุมภาพันธ์ 2025
- การสร้างเครือข่ายการป้องกัน: มีการสร้างเครือข่ายการป้องกันแรงงานเด็กผ่านแอปพลิเคชัน Line ที่เชื่อมโยงสมาชิก 2,106 คนใน 33 จังหวัด







