สาระ9ข้อร่างพ.ร.บ.โซลาร์เซลล์เปิดรับฟังความคิดเห็นถึง30 พ.ค.

สาระ9ข้อร่างพ.ร.บ.โซลาร์เซลล์เปิดรับฟังความคิดเห็นถึง30 พ.ค.

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (Public Hearing)

เกี่ยวกับ “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ....” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใช้เองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยโดยลดขั้นตอนการดำเนินงานตามกฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบัน

      ทั้งนี้กำหนดเปิดรับความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 15 – 30 พ.ค. 2568 สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ พพ.www.dede.go.thและทาง ลิงก์https://www.law.go.th/listeningDetailsurvey_id=NTMyN0RHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=

ข้อมูลจากเวบไซด์ระบบกฎหมายกลางระบุว่า  ประเทศไทยมีนโยบายที่จะพัฒนาและส่งเสริมให้มีการผลิตและการใช้พลังงานทางเลือกเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ตามมาตรา 72 (5) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นทางเลือกที่สำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งยังอาจช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศที่มีราคาผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นด้วย ซึ่งในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่27 ก.ย. 2565 จึงได้มีมติส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนดำเนินการติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop)

 อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งจะเป็นกฎหมายกลาง ทำให้ประชาชนที่ประสงค์จะติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลายฉบับเพื่อให้มาซึ่งใบอนุญาตตามกฎหมายนั้น ๆ ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กฎหมายว่าด้วยโรงงาน และกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการพลังงาน เป็นต้น กรณีเช่นนี้จึงส่งผลให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมทั้งยังก่อให้เกิดความล่าช้า และไม่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ประสงค์จะติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

สำหรับหลักการหรือประเด็นสำคัญของกฎหมาย ได้แก่ 1.การบังคับใช้สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง 2.กำหนดการติดตั้ง ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันรวมถึงไม่ต้องขออนุญาตขนานไฟกับหน่วยงานการไฟฟ้า

3.การติดตั้งจะต้องแจ้งให้อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนการติดตั้ง

4.การตรวจสอบการติดตั้ง จะต้องแจ้งอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานทราบเพื่อสั่งการให้มีการดำเนินการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งเดียว และต้องแจ้งให้เจ้าของสถานที่ติดตั้งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน

5.กำหนดให้ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายในกิจการของสถานที่ติดตั้งเท่านั้น 6. การจำหน่าย ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน หรือให้กระแสไฟฟ้าได้เฉพาะแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือองค์กรที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราค่าไฟฟ้าที่เห็นชอบโดยรัฐมนตรี

7.การจัดตั้งสถานรวบรวมซากอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือสถานกำจัดซากอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ จะต้องยื่นขออนุญาตต่ออธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน 8. พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจเข้าไปในสถานที่ติดตั้งเพื่อตรวจสอบการติดตั้งกรณีที่ทราบ หรือได้รับแจ้งว่าการติดตั้งไม่เป็นไปตามที่กำหนดหรืออาจก่อให้เกิดอันตราย และ9.ผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนี้มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกินสามปีหรือปรับสูงสุดไม่เกินหนึ่งแสนบาทตามแต่กรณี