ปิดหมู่เกาะสิมิลัน 'งดรับนักท่องเที่ยว' ฟื้นฟูทะเล-เข้มกฎรับฤดูใหม่

ปิดการท่องเที่ยวและพักแรม จำกัดเฉพาะพื้นที่หมู่เกาะสิมิลัน 16 พ.ค.– 14 ต.ค. 2568 ฟื้นฟูแนวปะการัง ดำน้ำสำรวจ บำรุงรักษาและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เก็บขยะชายหาด เฝ้าระวังทำผิดกฎหมาย
KEY
POINTS
- ปิดการท่องเที่ยวและพักแรม จำกัดเฉพาะพื้นที่หมู่เกาะสิมิลัน 16 พฤษภาคม – 14 ตุลาคม 2568
- ฟื้นฟูแนวปะการัง โดยดำน้ำสำรวจด้วยวิธี Line Transect ที่อ่าวเกือกและหินหัวเต่า (เกาะ 8)
- บำรุงรักษาและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น บ้านพัก อาคาร และอุปกรณ์ต่าง ๆ
- เก็บขยะและดูแลความสะอาดบริเวณชายหาดที่เกาะเมียง เกาะสิมิลัน และเกาะตาชัย
- เฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. อุทยานฯ อย่างเข้มงวด
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมเป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ถึง 14 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นการปิดประจำปีที่สอดคล้องกับช่วงฤดูมรสุมของทะเลอันดามัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ระบบนิเวศได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งซ่อมบำรุงและเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวในฤดูกาลถัดไป ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดพังงายังคงสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ
ฟื้นฟูธรรมชาติ-โครงสร้างพื้นฐาน
นายวราวุธ แสงทอง รักษาการหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เปิดเผยว่า แม้อุทยานฯ จะปิดการท่องเที่ยว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าดำเนินภารกิจสำคัญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ บำรุงรักษาพื้นที่ และพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้พร้อมสมบูรณ์ที่สุด
หนึ่งในภารกิจหลักคือการสำรวจระบบนิเวศใต้ทะเล โดยมีการดำน้ำสำรวจแนวปะการังบริเวณจุดดำน้ำลึก "อ่าวเกือก" และ "หินหัวเต่า" บริเวณเกาะสิมิลัน (เกาะ 8) ด้วยวิธี Line transect เพื่อเก็บข้อมูลการฟื้นตัวของแนวปะการังโดยปราศจากแรงกระทบจากกิจกรรมการท่องเที่ยว
ซ่อมแซม-ตรวจสอบ
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังดำเนินการซ่อมแซมบ้านพัก อาคารสำนักงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในพื้นที่อุทยานฯ รวมถึงการตรวจสอบความพร้อมของครุภัณฑ์ เช่น ยานพาหนะ เรือ และอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อฤดูกาลท่องเที่ยวเปิดอีกครั้ง
ด้านสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่เก็บขยะและดูแลความสะอาดบริเวณชายหาดต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่เกาะเมียง เกาะสิมิลัน และเกาะตาชัย เพื่อรักษาความงามและสมดุลของธรรมชาติให้คงอยู่
รับมือเหตุฉุกเฉิน-เข้มงวดกฎหมาย
อีกหนึ่งภารกิจสำคัญคือการฝึกซ้อมใช้งานอุปกรณ์กู้ชีพ-กู้ภัย เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการออกลาดตระเวนและเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ อย่างเข้มงวด โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการบุกรุกและทำลายทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่า
สื่อสารภารกิจผ่านช่องทางออนไลน์
นายวราวุธ ยังระบุว่า ในช่วงปิดการท่องเที่ยวนี้ อุทยานฯ ได้ใช้ช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Facebook Page อย่างต่อเนื่อง เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และภารกิจต่างๆ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับทราบอย่างใกล้ชิด
การดำเนินงานในช่วงปิดฤดูท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันในครั้งนี้ ถือเป็นแบบอย่างของการใช้เวลาหยุดพักให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในแง่ของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพในฤดูกาลถัดไป







