ผลสำรวจยูนิโคล่ คนกรุงเทพฯ เทนัด-คุณภาพงานลด เพราะความร้อน และอากาศแปรปรวน

สภาพอากาศที่ไม่แน่นอนในเมืองใหญ่กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเครียดในการแต่งกายของผู้คน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นสูงตลอดทั้งปี การเลือกเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เหนียวเหนอะหนะ และเพิ่มความเครียดในชีวิตประจำวัน
KEY
POINTS
- 82% ของชาวกรุงเทพฯ รู้สึกเหนียวตัวและไม่สบายใจจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
- 86% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าสภาพอากาศในท้องถิ่นของตนมีความไม่แน่นอน
- 56% ต้องยกเลิกแผนการเดินทางหรือกิจกรรมต่างๆ เพราะความไม่สบายใจจากเครื่องแต่งกาย
- 42% ยอมรับว่าเวลาอึดอัดกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ คุณภาพงานของพวกเขาจะลดลง
- แนวคิด "Capsule Wardrobe" กำลังได้รับความนิยม จัดระเบียบตู้เสื้อผ้า เลือกเสื้อผ้าจำนวนจำกัดที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์กันได้หลากหลายลุค
งานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเยล ระบุว่า เมืองต่างๆ มีแนวโน้มร้อนขึ้นเร็วกว่าพื้นที่ชนบทถึง 29% โดยเฉลี่ย ซึ่งเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ Urban Heat Island (UHI) ที่เกิดจากโครงสร้างพื้นผิวเมือง เช่น คอนกรีตและถนนยางมะตอย ที่ดูดซับและปล่อยความร้อนมากกว่าพื้นที่ธรรมชาติ ส่งผลให้เมืองใหญ่เผชิญกับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ McKinsey & Company เปิดเผยว่า ประชากรโลกประมาณ หนึ่งในหก หรือราว 1.4 พันล้านคน อาจเผชิญกับความเครียดจากความร้อนในระดับรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นแบบเฉียบพลัน (เช่น คลื่นความร้อนที่มีความชื้นสูง) หรือแบบเรื้อรัง (เช่น สูญเสียชั่วโมงการทำงานที่มีประสิทธิภาพ) หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 2.0°C จากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมภายในปี 2050
ล่าสุด ยูนิโคล่ ร่วมมือกับ Dynata พันธมิตรด้านการวิจัยระดับโลก เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้คนกว่า 7,000 คน อายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 7 เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวของผู้คนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนและความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อวิถีชีวิตและการเลือกเสื้อผ้าในแต่ละวัน
ทั้งนี้ การสำรวจดำเนินการระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2024 ถึง 3 มกราคม 2025 โดยมีตัวอย่างประชากรดังนี้
- ลอนดอน 1,002 คน
- ปารีส 1,000 คน
- นิวยอร์ก 1,001 คน
- เซี่ยงไฮ้ 1,037 คน
- โซล 1,000 คน
- กรุงเทพฯ 1,000 คน
- โตเกียว 1,012 คน
ตัวอย่างประชากรผู้ตอบแบบสำรวจแสดงความคิดเห็นต่อ 20 ประเด็น ซึ่งประกอบไปด้วย เรื่องผลกระทบของสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์และภาพลักษณ์ ความรู้สึกไม่สบายตัวที่เกิดจากเหงื่อ สิ่งที่ผู้คนให้ความใส่ใจเมื่อต้องแต่งตัวสำหรับการเดินทาง และปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกซื้อชุดชั้นในหรือเสื้อซับใน รวมถึงความถี่ในการสวมใส่เสื้อผ้าเหล่านี้
ความรู้สึกและไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
ดร. ไดออน เทอร์เรลองจ์ นักจิตวิทยา เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนและความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมีอิทธิพลต่อการออกแบบเมืองและส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึก การใช้ชีวิต และการแต่งกายของผู้คน ผลการวิจัยชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงลึกที่สภาพอากาศแปรปรวนและความไม่แน่นอนของสิ่งแวดล้อมมีต่อประชากรเมืองทั่วโลก
การสำรวจล่าสุดพบว่า 86% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าสภาพอากาศในท้องถิ่นของตนมีความไม่แน่นอน ขณะที่ 65% เผชิญปัญหาในการรักษาความสบายตลอดวัน และกลุ่มคนอายุ 25-34 ปี กว่า 72% วิตกกังวลเกี่ยวกับคราบเหงื่อบนเสื้อผ้า ซึ่งส่งผลให้ 56% ต้องยกเลิกแผนการเดินทางหรือกิจกรรมต่างๆ เพราะความไม่สบายใจจากเครื่องแต่งกาย
"ความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนกำลังนำไปสู่ระดับความเครียดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ ความไม่แน่นอนนี้ไม่เพียงส่งผลต่อความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังทำให้การเลือกเสื้อผ้าเป็นความท้าทาย สิ่งที่เราสวมใส่เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่เราสามารถควบคุมได้ และอาจช่วยสร้างความมั่นใจในช่วงเวลาที่หลายสิ่งหลายอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุม"
Capsule Wardrobe จัดตู้เสื้อผ้าให้เหลือเท่าที่จำเป็น
ดร. เทอร์เรลองจ์ กล่าวด้วยว่า ผู้บริโภคเมืองกำลังปรับตัวด้วยการให้ความสำคัญกับการเลือกเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และได้ยกตัวอย่างการสำรวจผลิตภัณฑ์ AIRism (แอริซึ่ม) ของยูนิโคล่ ที่ระบุว่า แนวคิด "Capsule Wardrobe" หรือการจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าโดยการคัดเลือกเสื้อผ้าจำนวนจำกัดที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์กันได้หลากหลายลุค กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากผู้บริโภคมองหาสินค้าที่มีฟังก์ชันครบครัน ใส่สบาย และช่วยป้องกันความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ
ข้อมูลสำคัญในตลาดไทย
สรุปข้อมูลสำคัญในตลาดไทย การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในแง่ของการเดินทางและการเลือกเสื้อผ้า
- 82% ของชาวกรุงเทพฯ รู้สึกเหนียวตัวและไม่สบายใจจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
- 79% กังวลเกี่ยวกับคราบเหงื่อและกลิ่นตัวในช่วงอากาศร้อน
- 62% ระบุว่าให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้ตลอดทั้งปี มากกว่าสินค้าแฟชั่นตามเทรนด์
- 50% เผยว่ามีอารมณ์แปรปรวนหากต้องเดินทางไปทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น
- 80% ระบุว่าพวกเขาเผชิญผลกระทบเชิงลบที่เกี่ยวกับความร้อนในปัจจุบันมากกว่าที่เคยเป็น (เช่น ปวดหัว อ่อนเพลีย มีอาการชา หรือนอนได้ไม่ต่อเนื่อง)
- 42% ยอมรับว่าเวลาอึดอัดกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ คุณภาพงานของพวกเขาจะลดลง
ผลการสำรวจอื่นๆ ในกลุ่มตัวอย่างประชากรทั้งหมด
ผลการสำรวจครั้งนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการปรับตัวของผู้บริโภคในเมืองที่ให้ความสำคัญกับแฟชั่นเพื่อความสะดวกสบายและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
- 76% ให้ความสำคัญกับสไตล์การแต่งตัวและเสื้อผ้าที่มีประสิทธิภาพ (โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 25–44 ปี ร้อยละ 80)
- 70% เลือกซื้อเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายเมื่อเดินทาง
- 65% รู้สึกว่าอากาศร้อนเกินไปทำให้ช่วงเวลาสังสรรค์สนุกน้อยลง
- 59% กังวลเรื่องกลิ่นตัว
- 32% ระบุว่าอากาศที่ไม่แน่นอนเพิ่มความเครียดในการใช้ชีวิตในเมือง
- 23% กล่าวว่าการเข้าสังคมในเมืองยากขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน
AIRism ตัวช่วยในทุกสภาพอากาศ
คานาโกะ ทาเคโนะอุจิ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ หัวหน้าแผนก Women's Intimate Apparel ของยูนิโคล่ กล่าวว่า เหงื่อเป็นสาเหตุหนึ่งของความเครียดที่เกิดขึ้นกับทุกคนทั่วโลก โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ยูนิโคล่คือผู้บุกเบิกชุดชั้นในเปี่ยมประสิทธิภาพ ที่ช่วยลดความไม่สบายตัวจากเหงื่อ และตั้งแต่ที่ AIRism เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2012 เราได้พัฒนาไอเทมต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามาโดยตลอด
ยูกิฮิโระ คัตสึตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด และ ประธานฝ่าย R&D ของยูนิโคล่ เสริมว่า เนื่องจากช่วงที่อากาศอบอุ่นในฤดูหนาวและช่วงอากาศร้อนจัดจากคลื่นความร้อนยาวนานมากขึ้นทั่วโลก เราจึงเชื่อว่าชุดชั้นในเปี่ยมประสิทธิภาพอย่าง AIRism จะเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ LifeWear ของเราต่อไปเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตประจำวันอย่างสบายและรื่นรมย์ในทุกสภาพอากาศ







