กรมบัญชีกลาง เร่งปฏิรูปจัดซื้อภาครัฐ ดัน Green Procurement เข้า ครม. ก.ย.

กรมบัญชีกลาง เร่งปฏิรูปจัดซื้อภาครัฐ ดัน Green Procurement เข้า ครม. ก.ย.

กรมบัญชีกลาง ผลักดันภาครัฐสีเขียว ด้วยแนวทาง "2C 2G 2D" ยั่งยืน กรมบัญชีกลาง ผลักดันภาครัฐสีเขียว ด้วยแนวทาง "2C 2G 2D" ยั่งยืน

KEY

POINTS

  • การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการผลิต-บริโภคที่รับผิดชอบ และสอดคล้องกับหลัก ESG
  • กรมบัญชีกลางผลักดัน 6 กลยุทธ์ ได้แก่ Customer Centric, Collaboration, Good Governance, Green Procurement, Digital Transformation และ Data Driven
  • ร่วมมือกับ Open Contracting Partnership ปรับปรุงระเบียบกว่า 400 ฉบับ เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสของระบบจัดซื้อจัดจ้าง
  • จัดทำบัญชีสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำร่อง 12 รายการในปีแรก และพัฒนาเครื่องมือวัดผลร่วมกับธนาคารโลกและกรมควบคุมมลพิษ

การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีมูลค่าประมาณ 7% ของ GDP ประเทศไทย ซึ่งสามารถช่วยขับเคลื่อนการผลิตและขยายตลาดสินค้า อย่างไรก็ตาม การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน เป็นกลไกสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการผลิตและบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ และสอดคล้องกับหลักการ ESG (Environmental, Social, and Governance) ช่วยผลักดันนวัตกรรมในห่วงโซ่อุปทาน เสริมสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ชุมชน และโลกในระยะยาว

ล่าสุด องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ได้จัดงานสัมมนาเรื่อง “Net Zero ด้วยการจัดซื้อจัดจ้างที่ยั่งยืน” โดยหนึ่งในวิทยากรของงาน “แพตริเซีย มงคลวนิช” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงการเดินหน้าผลักดันภาครัฐสีเขียว ด้วยแนวทาง "2C 2G 2D" สู่ความยั่งยืน ว่า กรมบัญชีกลางมีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนภาครัฐสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะการผลักดันแนวทาง Green Procurement หรือการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และ Net Zero Emissions ในปี 2065 ของประเทศไทย

แนวทาง "2C 2G 2D" สู่ความยั่งยืน

เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ กรมบัญชีกลางได้นำเสนอแนวทาง "2C 2G 2D" ซึ่งประกอบด้วย

  • C: Customer Centric – ให้ความสำคัญกับลูกค้า เช่น ส่วนราชการ บุคลากรภาครัฐ และผู้ประกอบการ โดยมุ่งลดความยุ่งยากและอุปสรรคในการทำงาน เพื่อให้บริการที่สะดวกและรวดเร็ว
  • C: Collaboration – สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ
  • G: Good Governance – ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน โดยเน้นความโปร่งใส เปิดเผย และคุ้มค่าในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
  • G: Green & Sustainable Procurement – ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลและผลักดันให้ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ
  • D: Digital – มุ่งสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลภายในปี 2570 โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐ ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย
  • D: Data Driven – ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อบริหารทรัพยากรของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น

กรมบัญชีกลางยังได้ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ฉบับ เพื่อรองรับการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้ร่วมมือกับ Open Contracting Partnership (OCP) เพื่อยกระดับความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล”

“ภาครัฐสีเขียว” ลดต้นทุนประเทศ

“แพตริเซีย” กล่าวด้วยว่า กรมบัญชีกลางประกาศเป้าหมายสำคัญในการผลักดันภาครัฐให้เป็น “ภาครัฐสีเขียว” ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนของประเทศในระยะยาว โดยเน้นย้ำว่าแนวทางด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารงบประมาณสามารถเดินหน้าไปพร้อมกันได้ หากหน่วยงานรัฐเริ่มปรับเปลี่ยนแนวคิดและนำแนวทางสีเขียวมาใช้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต พร้อมทั้งเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับระบบราชการไทย ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน กรมบัญชีกลางยังเดินหน้าปรับปรุง

กระบวนการและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพื่อให้การประสานงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและคุ้มค่า เช่น กรณีการโอนเงินเพียง 750 บาท ที่ใช้เวลาดำเนินการนานถึง 6 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงความไม่คุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร ทั้งนี้ กรมฯ ได้ริเริ่มสร้างเกณฑ์กลางในการอนุมัติ เพื่อเร่งรัดขั้นตอนและยกระดับประสิทธิภาพโดยรวม

สำหรับแนวทางการพัฒนาภาครัฐสีเขียว กรมบัญชีกลางได้ศึกษาตัวอย่างจากประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างเกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจน เช่น การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ทั้งนี้จะมีการกำหนดรายการสินค้าบริการและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งออกมาตรการที่กำหนดให้หน่วยงานรัฐต้องปฏิบัติตาม

"Green Procurement" มุ่งสร้างเศรษฐกิจยั่งยืน

แพตริเซีย กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยเร่งผลักดันนโยบาย การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอย่างยั่งยืน (Green Procurement) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้จ่ายภาครัฐให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุ

กรมบัญชีกลางร่วมมือกับกระทรวงการคลังในการวางแนวทางดำเนินการ โดยให้ความสำคัญกับ การเริ่มต้นอย่างรอบคอบ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีความพร้อมในการเป็นต้นแบบ ก่อนขยายผลไปยังส่วนอื่นๆ

หนึ่งในมาตรการหลักคือการจัดทำ บัญชีสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Product List) ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐเลือกใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน พร้อมกำหนดกรอบแนวทางชัดเจนเพื่อให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของนโยบายนี้อยู่ที่ ระบบการติดตามและประเมินผล ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำและสามารถสะท้อนผลลัพธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดในระยะยาว

ในระยะเริ่มต้น กรมบัญชีกลางเตรียม บังคับใช้กับหน่วยงานที่มีความพร้อม โดยเน้นการคัดเลือกสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบงบประมาณที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการได้โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของรัฐ

เริ่มปีงบประมาณหน้า นำร่องกระทรวงการคลัง-BOI

กรมบัญชีกลางร่วมกับกระทรวงการคลังเตรียมวางระบบการเปลี่ยนผ่านอย่างรอบคอบ เพื่อขับเคลื่อนให้ภาครัฐเป็นผู้นำในการใช้สินค้าและบริการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเริ่มจากหน่วยงานที่มีความพร้อมเป็นลำดับแรก

แพตริเซีย กล่าวว่า กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการจัดทำ “รายการสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ซึ่งจะถูกใช้เป็นแนวทางในการจัดซื้อของหน่วยงานภาครัฐ โดยในปีที่ 1 ของการดำเนินงานจะมีสินค้า 4 ประเภท รวม 12 รายการ และจะขยายเพิ่มเติมเป็น 3 ประเภท 5 รายการในปีที่ 2 และอีก 2 ประเภท 3 รายการในปีที่ 3 ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะเป็นหน่วยงานนำร่องในการใช้งานจริง

หนึ่งในความท้าทายของโครงการคือการติดตามและประเมินผล ซึ่งไม่เพียงแค่ตรวจสอบการดำเนินงานตามระเบียบเท่านั้น แต่ต้องมีระบบการรวบรวมข้อมูลที่แม่นยำและต่อเนื่อง โดยกรมบัญชีกลางได้จับมือกับธนาคารโลกและกรมควบคุมมลพิษเพื่อพัฒนาเครื่องมือเฉพาะทางสำหรับภารกิจนี้

คาดว่าแนวทาง Green Procurement จะถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีภายในปีงบประมาณนี้ (ปีงบประมาณเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 กันยายน) และจะเริ่มใช้งานจริงในปีงบประมาณถัดไป แม้อาจมีความล่าช้าในบางขั้นตอน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าเต็มที่เพื่อให้การดำเนินงานเริ่มต้นได้ทันตามแผน

สำหรับผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถลงทะเบียนกับกรมควบคุมมลพิษเพื่อเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการเข้าถึงตลาดภาครัฐ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทย

เผชิญหลายความท้าทาย

แพตริเซีย กล่าวในตอนทายว่า นโยบาย Green Procurement ยังต้องเผชิญกับหลายความท้าทาย เช่น การป้องกันการ Greenwashing หรือการอ้างว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยไม่มีหลักฐานรองรับ รวมถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างความเข้าใจและสนับสนุนผู้ประกอบการ

โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่อาจมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรและองค์ความรู้
ภาครัฐจึงมุ่งเน้นการสร้าง ความร่วมมือกับภาคเอกชน ควบคู่กับการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้าถึงตลาดจัดซื้อของภาครัฐ รวมถึงการสนับสนุนให้สามารถขยายสู่ตลาดต่างประเทศในอนาคต

ท้ายที่สุด การปลูกฝังวัฒนธรรมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคม ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม ที่จะนำพาประเทศไทยก้าวสู่การเป็นสังคมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง