เลี้ยง ‘ปลากะพง’ นอกโลก ใช้เป็นแหล่งอาหารให้นักบินอวกาศ

เลี้ยง ‘ปลากะพง’  นอกโลก ใช้เป็นแหล่งอาหารให้นักบินอวกาศ

เลี้ยง “ปลากะพงขาว” นอกโลก เพื่อเป็นอาหารให้นักบินอวกาศ เพิ่มโปรตีนรักษามวลกล้ามเนื้อ ด้วยน้ำแข็งจากบนดวงจันทร์

KEY

POINTS

  • เตรียมเลี้ยงปลานอกโลก เพื่อให้นักบินอวกาศมีปลาสด ๆ เอาไว้กินเพิ่มโปรตีน โดยใช้น้ำจากน้ำแข็งที่พบในหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ 
  • นักวิจัยคำนวณไว้จะต้องใช้ปลากะพงประมาณ 200 ตัว ถึงจะเพียงพอสำหรับนักบินอวกาศ 7 คนที่ทำภารกิจนาน 16 สัปดาห์
  • น้ำเสียจากการเลี้ยงปลาจะนำมาใช้ผลิตสาหร่ายขนาดจิ๋ว (Microalgae) ซึ่งสามารถใช้เป็นอาหารของสัตว์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ ส่วนขี้ปลากะพงจะใช้เป็นอาหารสำหรับกุ้งและหนอนที่จะใช้เลี้ยงปลากะพงต่อไป

ตอนนี้เริ่มมีการทดลองเพาะปลูกผักชนิดต่าง ๆ เช่น มะเขือเทศ ผักกาดหอม และมันฝรั่ง บนสถานีวิกาศนานาชาติแล้ว เพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารของนักบินอวกาศได้ ขั้นต่อไปนักวิจัยกำลังหาทางให้นักบินอวกาศมีปลาสด ๆ เอาไว้กินเพื่อเพิ่มโปรตีน

ปลากะพงขาว” ที่ถูกเลี้ยงในศูนย์วิทยาศาสตร์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส จะถูกปล่อยสู่อวกาศ เพื่อทดสอบว่าสามารถนำไปเลี้ยงบนอวกาศและใช้เป็นแหล่งโปรตีนสำหรับนักบินอวกาศที่จะไปทำภารกิจบนดาวอังคารและดวงจันทร์ได้หรือไม่ ตามโครงการ “Lunar Hatch

โครงการ Lunar Hatch เป็นผลงานของดร.ซิริลล์ ปริซิบิลา นักวิจัยด้านชีววิทยาทางทะเลจากสถาบันวิจัยมหาสมุทรแห่งชาติของฝรั่งเศส โดยเขากล่าวว่า ปลาเป็นแหล่งโปรตีนที่ยอดเยี่ยม มีโอเมก้า 3 และวิตามินบีที่สำคัญ เหมาะสำหรับให้นักบินอวกาศกินเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ แต่คำถามที่สำคัญคือ จะสามารถเลี้ยงปลาในอวกาศได้อย่างไร?

นักวิทยาศาสตร์จะส่งไข่ปลาขึ้นสู่ห้วงอวกาศ และจะฟักออกมาเมื่อเดินทางไปถึงสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) หลังจากนั้นทำการสังเกตและดูสุขภาพปลา ก่อนที่จะแช่แข็งปลาและส่งกลับมายังโลก ซึ่งหากวิธีนี้ประสบความสำเร็จก็จะสามารถเพาะเลี้ยงปลาบนดวงจันทร์ โดยดร.ปริซิบิลามั่นใจว่านั่งบินอวกาศจะสามารถได้กินปลากะพงขาวอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง

การส่งปลาขึ้นสู่ห้วงอวกาศไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 1973 ปลามัมมิช็อก (Mummichog) 2 ตัว ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรในภารกิจอะพอลโล จากนั้น 3 ปีต่อมานักบินอวกาศของโซเวียตนำตู้ปลาหางนกยูงขึ้นไปทดลองบนห้องปฏิบัติการอวกาศซัลยุ

ในปี 2015 ปลาม้าลายถูกส่งไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ เพื่อศึกษาว่าสภาวะไร้น้ำหนักทำให้กล้ามเนื้อฝ่อได้อย่างไร ถัดมาในเดือนเมษายน 2024 จีนก็ได้ส่งปลาม้าลายไปยังสถานีอวกาศเทียนกงเช่นกัน 

นอกจากนี้ยังมีปลาอีกหลายชนิดถูกส่งขึ้นไปทำภารกิจต่าง ๆ นอกโลก เช่น ปลาคางคก ปลาสอดหางดาบ ปลาซิวข้าวสารญี่ปุ่น ปลาหางนกยูง และปลาทอง แต่โครงการ Lunar Hatch เป็นครั้งแรกที่ทดลองเพื่อหาวิธีเลี้ยงปลาและนำมาใช้เป็นแหล่งอาหารปกติสำหรับนักบินอวกาศได้จริง

ดร.ปริซิบิลา กล่าวว่าเป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้ คือการสร้าง “ห่วงโซ่อาหารแบบปิด” โดยใช้ทรัพยากรจากนอกโลก โดยจะใช้น้ำจากน้ำแข็งที่พบในหลุมอุกกาบาตที่ขั้วของดวงจันทร์ 

น้ำเสียจากการเลี้ยงปลาจะนำมาใช้ผลิตสาหร่ายขนาดจิ๋ว (Microalgae) ซึ่งสามารถใช้เป็นอาหารของสัตว์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ เช่น หอยสองฝา หรือแพลงก์ตอนสัตว์ที่ทำหน้าที่ช่วยเก็บสิ่งปฏิกูล ส่วนขี้ปลากะพงจะใช้เป็นอาหารสำหรับกุ้งและหนอนที่จะใช้เลี้ยงปลากะพงต่อไป

“เป้าหมายของ Lunar Hatch คือการทำให้ขยะเป็นศูนย์ ทุกอย่างถูกรีไซเคิลผ่านระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่จะต้องเป็นอิสระ โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน” ดร.ปริซิบิลากล่าว

นักวิจัยคำนวณไว้จะต้องใช้ปลากะพงประมาณ 200 ตัว ถึงจะเพียงพอสำหรับนักบินอวกาศ 7 คนที่ทำภารกิจนาน 16 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังจะส่งไข่ปลากะพงที่ปฏิสนธิแล้ว 200 ตัวที่ส่งไปยังอวกาศด้วยเช่นกัน 

โครงการนี้ใช้เวลาเกือบสิบปีในการสร้างสรรค์ โดย ดร.ปริซิบิลาเสนอแนวคิดนี้ครั้งแรกในปี 2016 เมื่อสำนักงานอวกาศยุโรป (ESA) เปิดรับแนวคิดสำหรับโครงการสร้างหมู่บ้านบนดวงจันทร์ โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนครั้งแรกจาก CNES หน่วยงานอวกาศแห่งชาติของฝรั่งเศส เมื่อปลายปี 2018 

ในที่สุดโครงการนี้ก็ถูกคัดเลือกเป็นหนึ่งใน 100 โครงการสุดท้ายสำหรับภารกิจลงจอดยาน Argonaut บนดวงจันทร์ของ ESA ที่จะเริ่มขึ้นในปี 2034 โดยยานลำนี้สามารถขนส่งอุปกรณ์ได้มากถึง 1.8 ตันไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ รวมถึงไข่ปลากะพงที่มีขนาดเล็กแต่มีค่า

การทดลองของโครงการนี้ เริ่มต้นจากการตรวจสอบว่าไข่ปลาที่ได้รับการผสมพันธุ์สามารถทนต่อการสั่นสะเทือน ที่เกิดขึ้นระหว่างการปล่อยยานอวกาศได้หรือไม่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์อวกาศของมหาวิทยาลัยมงต์เปลลิเย่ร์ ในการจำลองการขับเคลื่อนจรวด ซึ่งพบว่าแรงสั่นสะเทือนไม่ส่งผลต่อการพัฒนาของไข่ปลา

นอกจากนี้ นักวิจัยยังตรวจสอบปัจจัยอื่น ๆ อย่างเช่น รังสีคอสมิก และแรงโน้มถ่วงสูงที่เกิดจากการเร่งความเร็ว ที่อาจจะรบกวนการพัฒนาเซลล์ปลาในระหว่างการเดินทาง พบว่าปัจจัยเหล่านี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อไข่ปลา ซึ่งยังจำเป็นต้องนำไปทดลองจริง

“เราทำการจำลองสถานการณ์ทั้งหมดที่เป็นไปได้บนพื้นดินแล้ว เป้าหมายตอนนี้คือภารกิจในอวกาศเพื่อยืนยันข้อมูลดังกล่าว และตรวจสอบความแตกต่างบนพื้นโลกกับอวกาศ” ดร.ปริซิบิลากล่าว

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังต้องรอให้ CNES และศูนย์อวกาศเคนเนดีของนาซาจัดหาสถานที่สำหรับทดสอบทฤษฎีของดร.ปริซิบิลา ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่หวังว่าจะเกิดขึ้นภายในอนาคตอันใกล้นี้

นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการ Lunar Hatch นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนก็เปิดเผยว่าพวกเขากำลังทำการทดลองในลักษณะเดียวกัน ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในสถานีอวกาศได้ ดังนั้นนี่จึงถือว่าการแข่งขันทางอวกาศได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

หาก Lunar Hatch ประสบความสำเร็จ โครงการนี้อาจกลายเป็นต้นแบบของระบบช่วยชีวิตที่ยั่งยืน ทั้งในอวกาศและบนโลกที่เผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหารที่เพิ่มขึ้น และยังเป็นวิธีการแก้ปัญหาด้านอาหารสำหรับนักบินอวกาศที่อยู่ห่างไกลจากโลก

ในตอนนี้ ปลากะพงยังคงเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ และวนเวียนไปมา โดยไม่รู้ว่าลูกหลานของมันอาจช่วยให้มนุษยชาติก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ครั้งต่อไปได้ในอนาคต


ที่มา: BBCInteresting EngineeringThe GuardianZME Science