ซไนเดอร์ เร่งเครื่องลูกค้าสู่ 'Net Zero' ด้วยพลังเทคโนโลยี ลดคาร์บอนทั่วโลกทะลุ 679 ล้านตัน

ซไนเดอร์ เร่งเครื่องลูกค้าสู่ 'Net Zero' ด้วยพลังเทคโนโลยี ลดคาร์บอนทั่วโลกทะลุ 679 ล้านตัน

ซไนเดอร์ อิเล็ตทริค ประกาศกลยุทธ์ปี 68 เน้นลูกค้าเป็นที่หนึ่ง ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์ด้วยสูตรสำเร็จ "เทคโนโลยีดิจิทัลผสานระบบไฟฟ้า" สร้าง Impact Makers ลดช่องว่างสีเขียว พร้อมโชว์ผลงานปี 67 รายได้ 74% จากธุรกิจรักษ์โลก ตอกย้ำความสำเร็จเบอร์หนึ่ง Global 100 สองสมัยซ้อ

KEY

POINTS

  • กลยุทธ์หลักปี 2568 Schneider Electric มุ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กับระบบไฟฟ้า เพื่อเร่งให้ลูกค้าและพันธมิตรบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ผ่านโซลูชันล้ำสมัย
  • ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 38,153 ล้านยูโร โดย 74% มาจากธุรกิจที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นถึงบทบาทขององค์กรในฐานะ “Impact Makers”
  • Schneider Electric ใช้แนวคิดการวางกลยุทธ์ การใช้เทคโนโลยีแบบครบวงจร และการลดคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำองค์กรสู่ความยั่งยืน
  • Schneider Electric มุ่งเน้นตลาดหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ อาคาร บ้านพักอาศัย ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านโซลูชั่นอย่าง EcoStruxure และระบบจัดการพลังงาน AI

ซไนเดอร์ อิเล็ตทริค ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ ประกาศยุทธศาสตร์สำคัญประจำปี 2568 มุ่งเน้นการขับเคลื่อนลูกค้าและพันธมิตรให้ก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืนอย่างรวดเร็ว ด้วยสูตรสำเร็จอันเป็นเอกลักษณ์ "เทคโนโลยีดิจิทัลผนวกกับระบบไฟฟ้า" กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนระบบนิเวศอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการที่ล้ำสมัย เพื่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด

ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนจากผลประกอบการปี 2567 ทั่วโลก ที่มีรายได้รวมสูงถึง 38,153 ล้านยูโร โดย 74 % ของรายได้มาจากการผลักดันธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Schneider Electric ในการเป็น "Impact Makers" และช่วยลด "Green Impact Gap" ให้กับลูกค้า

มงคล ตั้งศิริวิช ประธาน Schneider Electric ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ประเทศไทย ลาว และเมียนมา กล่าวว่า "ในฐานะ Impact Makers ที่ประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตามเป้าหมาย เราตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความยั่งยืนทั้งภายในองค์กรและพร้อมส่งต่อความมุ่งมั่นนี้ไปยังพันธมิตรของเรา เพื่อร่วมกันเป็น Impact Makers ด้วยแนวคิด 3 แกนหลักคือ Strategize (วางแผนกลยุทธ์) Digitize (ใช้เทคโนโลยีตั้งแต่ต้นจนจบ) และ Decarbonize (ลงมือทำอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีวิเคราะห์ขั้นสูง)"

ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง

ตั้งแต่ปี 2561 - 2567 Schneider Electric สามารถช่วยลูกค้าทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 679 ล้านตัน เทียบเท่า และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินงานของซัพพลายเออร์ชั้นนำได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ความสำเร็จนี้ส่งผลให้ Schneider Electric เป็นองค์กรเดียวที่ครองอันดับ 1 ใน Global 100 จาก Corporate Knights ถึงสองครั้ง

ด้วยความต้องการด้านความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการทั่วโลกของ  เติบโต โดยในปี 2567 มีรายได้เติบโต 8 % (Organic) จากปีก่อนหน้า ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมสูงถึง 74 เปอร์เซ็นต์

สำหรับปีนี้ Schneider Electric มองว่า 3 เมกะเทรนด์หลักจะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจ ได้แก่

  • 1. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเอเชียอย่างมีนัยสำคัญ 
  • 2. การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและ AI ที่ทำให้ความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นมหาศาล และ 
  • 3. การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ที่ธุรกิจหันมามองหาพลังงานสะอาดมากขึ้น

เพื่อตอบสนองต่อเมกะเทรนด์เหล่านี้ Schneider Electric มุ่งมั่นที่จะผลักดันองค์กรจำนวนมากให้ก้าวสู่การเป็น Impact Makers โดยได้ทำการสำรวจ Green Impact Gap ร่วมกับ Milieu Insight พบว่า 95 % ของบริษัทใน 9 ประเทศเอเชียมีเป้าหมายด้านความยั่งยืน แต่มีเพียง 47% ที่ดำเนินการอย่างครอบคลุม สำหรับประเทศไทย พบว่า 98 % มีเป้าหมาย แต่ดำเนินการตามกลยุทธ์เพียง 48 % เท่านั้น

หัวใจสำคัญ

"เทคโนโลยีดิจิทัล + ระบบไฟฟ้า = ยั่งยืน" Schneider Electric เชื่อมั่นว่าการผสานพลังของเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบไฟฟ้าคือ กุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ทั้งในด้านอุปสงค์และการลดคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเฉพาะใน 4 กลุ่มตลาดหลักคือ อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรม และระบบโครงสร้างพื้นฐาน

  1. อาคาร: เทคโนโลยีอาคารและการจัดการพลังงานสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการดำเนินงานได้ถึง 77 เปอร์เซ็นต์ ด้วยโซลูชั่นของ Schneider Electric
  2. บ้านพักอาศัย: โซลูชั่น Home Energy Management Solutions (HEMS) ผสาน AI ช่วยบริหารจัดการการผลิต จัดเก็บ และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรม และระบบโครงสร้างพื้นฐาน: Schneider Electric มีบริการด้านพลังงานและความยั่งยืน ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่น EcoStruxure เพื่อนำลูกค้าสู่ Net Zero

เพื่อเป็นการยกย่ององค์กรที่มุ่งมั่นสร้างความยั่งยืน Schneider Electric ได้มอบรางวัล Sustainability Impact Awards 2024ให้แก่ 5 บริษัทชั้นนำของไทย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) และบริษัท คอมพลีท อิเล็คทริเคิล โซลูชั่นส์ จำกัด รางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน และเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในระดับโลก