‘สหรัฐ’ ขาดแคลน ‘นักพยากรณ์อากาศ’ หลัง ‘ทรัมป์’ สั่งลดขนาดองค์กร

กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐขาดแคลนนักอุตุนิยมวิทยาและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ อย่างรุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อการพยากรณ์อากาศ
KEY
POINTS
-
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ ถูกลดจำนวนพนักงานเกือบ 200 คน ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามลดขนาดหน่วยงานของรัฐบาลกลางของทรัมป์
-
ทำให้จำเป็นต้องลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ ยกเลิกการทดสอบวิธีการและเทคโนโลยีการพยากรณ์อากาศใหม่ ๆ อีกด้วย
-
ในบางพื้นที่หากมีอัตราว่างงาน 25% จะลดการปล่อย “บอลลูนตรวจอากาศ” ซึ่งทำหน้าที่วัดข้อมูลบรรยากาศชั้นบนเหลือวันละครั้ง แต่ก็มีหลายรัฐที่ขาดเจ้าหน้าที่จนไม่มีการปล่อยบอลลูนตรวจอากาศเลยสักครั้ง
ตั้งแต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ ก็มีพนักงานของสำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติ หรือ NOAA ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านภูมิอากาศและทางทะเล ถูกปลดออกหรือลาออกไปแล้วมากกว่า 500 คน
NOAA ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ ให้บริการพยากรณ์อากาศพื้นฐานแก่ผู้ให้บริการเอกชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งในจำนวนพนักงานที่ออกจากงานเกือบ 200 คนเป็นพนักงานในสำนักงานพยากรณ์อากาศ
การตัดงบประมาณของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดขนาดหน่วยงานของรัฐบาลกลางของทรัมป์ เช่นเดียวกับหน่วยงานวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ที่ถูกลดจำนวนพนักงาน ลดงบประมาณ รวมถึงเป้าหมายด้านความหลากหลายและความเท่าเทียม
รัฐบาลทรัมป์ออกกฎการหยุดจ้างพนักงานในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถจ้างพนักงานในตำแหน่งที่ว่างได้ จากนั้นจึงส่งเสริมให้พนักงานเกษียณอายุหรือลาออกมากขึ้น แต่ก็มีพนักงานบางส่วนได้กลับมาทำงานชั่วคราวหลังจากคำตัดสินของศาล ทั้งนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าจะมีพนักงานถูกปลดอีกประมาณ 300 คน
ข้อตกลงที่ลงนามเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ระหว่างสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและสหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของพนักงาน ระบุว่ากำลังเร่งหาทางแก้ปัญหาขาดแคลนนักพยากรณ์อากาศและพนักงานตำแหน่งอื่น ๆ รวมถึงอาจลดหรือระงับการปล่อยบอลลูนตรวจอากาศ เพื่อรวบรวมข้อมูล และยกเลิกการทดสอบวิธีการและเทคโนโลยีการพยากรณ์อากาศใหม่ ๆ อีกด้วย
ในอนาคตสำนักงานอุตุนิยมวิทยาในเขตพื้นที่ต่าง ๆ อาจขาดพนักงานมากถึง 35% เมื่อเทียบกับระดับพนักงานปัจจุบัน ตามข้อมูลของสหภาพแรงงานระบุว่า อันที่จริงในบางหน่วยงานก็มีพนักงานน้อยกว่าโควตาที่ได้รับอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่ทรัมป์จะพยายามลดต้นทุน และหากมีนักอุตุนิยมวิทยาเกษียณอายุหรือลาออกมากขึ้น อนุญาตให้หน่วยงานบริการอุตุนิยมวิทยาให้บริการประชาชนน้อยลงได้
การตัดงบประมาณของรัฐบาลทรัมป์กระทบต่อการทำงานของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยา 122 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมการสังเกตการณ์สภาพอากาศและออกคำเตือนในระหว่างที่มีเหตุการณ์สภาพอากาศเลวร้ายเป็นอย่างมาก
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโซอี ลอฟเกรน สมาชิกอาวุโสจากพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ อวกาศ และเทคโนโลยีของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกำกับดูแลหน่วยงานบริการอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่ารัฐบาลของทรัมป์กำลังทำให้ภารกิจช่วยชีวิตของประชาชนตกอยู่ในอันตราย พรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการได้มอบสำเนาเอกสารดังกล่าวให้กับเดอะนิวยอร์กไทมส์
“การไล่ออกที่วุ่นวายและผิดกฎหมาย การบีบบังคับให้ลาออก การลดจำนวนพนักงาน กำลังทำลายขวัญกำลังใจของคนของหน่วยงานบริการอุตุนิยมวิทยาที่ทุ่มเท ทำให้กำลังพวกเขามีภาระงานมากจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เหมือนอย่างเคย” ลอฟเกรนกล่าวในแถลงการณ์
ขณะที่ทอม ฟาฮี ที่ปรึกษากฎหมายของสหภาพ องค์กรพนักงานบริการอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของพนักงาน
“ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา เราสูญเสียพนักงานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และสำนักงานของเราก็กำลังดิ้นรนเพื่อรักษาการดำเนินงาน” ฟาฮีกล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติไม่ได้แสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐเท็กซัส ไบรอัน บาบิน จากพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นผู้นำคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ได้ตอบรับเช่นกัน
ตามปรกติแล้ว ในแต่ละวันสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของภูมิภาคจะออกพยากรณ์อากาศหลายฉบับ โดยพิจารณาจากสภาพการณ์ ความเชี่ยวชาญของนักอุตุนิยมวิทยา และผลลัพธ์จากแบบจำลองคอมพิวเตอร์ แต่ด้วยสถานการณ์พนักงานที่ลดลงอย่างมาก ทำให้จำเป็นต้องปรับพยากรณ์อากาศเฉพาะกิจเหลือเพียงวันละครั้ง
หรือไม่ก็ใช้ข้อมูลจากแบบจำลองจากคอมพิวเตอร์ในการพยากรณ์อากาศโดยไม่ต้องปรับแต่งเอง ซึ่งคล้ายกับแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศมักจะนำเสนอข้อมูลว่าเมฆฝนจะเคลื่อนตัวไปที่ใดในชั่วโมงข้างหน้า ถึงข้อมูลเหล่านี้อาจแม่นยำ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าข้อมูลเหล่านี้อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายหากไม่มีผู้เชี่ยวชาญร่วมตัดสินใจด้วย
ภายใต้ข้อตกลงระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยาและสหภาพจะลดการปล่อย “บอลลูนตรวจอากาศ” ซึ่งทำหน้าที่วัดข้อมูลบรรยากาศชั้นบน เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ความเร็วและทิศทางของลม เหลือวันละครั้ง หากมีอัตราว่างงาน 25% ในสำนักงานพยากรณ์อากาศ จากเดิมที่ปล่อยวันละ 2 ครั้ง เวลา 8.00 น. และ 20.00 น. ซึ่งในปัจจุบันมีหลายพื้นที่ปล่อยบอลลูนเพียงวันละรอบแล้ว เช่น รัฐโคโลราโด มิชิแกน เนแบรสกา เซาท์ดาโคตา วิสคอนซิน และไวโอมิง
แต่สำหรับใน ในเนแบรสกา เซาท์ดาโคตา และอะแลสกา ปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่รุนแรงมาก จนต้องระงับการปล่อยบอลลูนตรวจอากาศไปก่อน
บอลลูนตรวจอากาศของสหรัฐ
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ
บอลลูนตรวจอากาศให้ข้อมูลเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศด้วยความละเอียดสูงสุดซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถจำลองได้ด้วยดาวเทียมหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ดังนั้นการที่ไม่มีบอลลูนเหล่านี้ในหลายพื้นที่จะทำให้นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสภาพภูมิอากาศจะเป็นอย่างไร
“สิ่งที่น่าเสียดายจริง ๆ ก็คือ บอลลูนเหล่านี้หายไปแล้วในบริเวณ เทือกเขาร็อคกี้ ทั้งในฝั่งรัฐโคโลราโด และรัฐไวโอมิง รวมถึงที่ราบสูงทางตอนเหนือและตอนกลางของประเทศ ซึ่งมีสภาพอากาศเลวร้ายบ่อยครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน และเป็นที่เกิดพายุจำนวนมากที่จะส่งผลกระทบต่อเกรตเลกส์และภาคตะวันออกของสหรัฐเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก” คริส วาแกสกี ผู้จัดการโครงการวิจัย Wisconet เครือข่ายสถานีตรวจสอบสภาพอากาศและดินกล่าว
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติได้หยุดให้บริการแปลภาษาของคำเตือนพายุและข้อมูลอื่น ๆ เนื่องจากสัญญาการใช้บริการเอไอที่ช่วยการส่งการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินในภาษาต่าง ๆ ได้สิ้นสุดลง และยังไม่ได้ต่อสัญญา
สำหรับมาตรการการแก้ปัญหาขาดแคลนพนักงานที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การลดจำนวนกะที่นักพยากรณ์อากาศทำงานต่อวันและรวมสำนักงานเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจทำให้มีการออกประกาศลดลง และรายงานเฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น
ที่มา: NBC News, The Guardian, The New York Times