สถิติชี้ 'ยิ่งเรียนสูง ยิ่งหลุดพ้นความจน' แต่ 'ค่าเดินทาง' คืออุปสรรคใหญ่

สถิติชี้ 'ยิ่งเรียนสูง ยิ่งหลุดพ้นความจน' แต่ 'ค่าเดินทาง' คืออุปสรรคใหญ่

คนที่มีการศึกษาระดับสูงขึ้น มีโอกาสหลุดพ้นจากความยากจนมากกว่า มากกว่า 75% ของคนจน เรียนจบแค่ ประถมหรือต่ำกว่า ค่าเดินทางคือภาระหลักของเด็กยากจน โดยเฉลี่ยคิดเป็น 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน

KEY

POINTS

  • คนที่มีการศึกษาระดับสูงขึ้น มีโอกาสหลุดพ้นจากความยากจนมากกว่า
  • กลุ่มที่ “ไม่ได้รับการศึกษาเลย” มีสัดส่วนความยากจนสูงที่สุด (9.51%)
  • มากกว่า 75% ของคนจน เรียนจบแค่ ประถมหรือต่ำกว่า
  • ปี 2566 มีเด็กยากจนวัยเรียน (อายุ 3–21 ปี) ประมาณ 753,000 คน
  • ค่าเดินทางคือภาระหลักของเด็กยากจน โดยเฉลี่ยคิดเป็น 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน
  • ค่าเดินทางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในทุกระดับการศึกษา

จากรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ประจำปี 2566 โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเผยแพร่ช่วงปลายปี 2567 สะท้อนให้เห็นว่า การได้รับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นมีส่วนสำคัญในการช่วยลดปัญหาความยากจน

สัดส่วนคนจนในกลุ่มประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า ในปี 2566 กลุ่มที่ไม่ได้รับการศึกษาเลย มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 9.51 รองลงมาคือกลุ่มที่จบก่อนระดับประถมศึกษา ร้อยละ 6.24 ระดับประถมศึกษา ร้อยละ 4.93 และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 3.20 ขณะที่กลุ่มที่มีการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป มีสัดส่วนคนจนต่ำกว่าร้อยละ 2.00

เด็กยากจนเผชิญอุปสรรคเข้าถึงการศึกษาระดับสูง

จากข้อมูลพบว่า คนจนส่วนใหญ่ยังมีระดับการศึกษาต่ำ โดยกว่า 75% เรียนจบแค่ระดับประถมหรือต่ำกว่านั้น และมีเพียงประมาณ 15% ที่เรียนจบถึงระดับมัธยมต้น

ในปี 2566 มีเด็กวัยเรียน (อายุ 3–21 ปี) จากครัวเรือนยากจนประมาณ 753,000 คน มีอัตราการเข้าเรียนระดับประถมศึกษาค่อนข้างสูง (ประมาณ 91%) และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า แต่เมื่อเรียนถึงระดับมัธยม อัตราการเข้าเรียนกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับมัธยมต้น มีเด็กยากจนเข้าเรียนอยู่ที่ประมาณ 67% และลดเหลือเพียง 41% ในระดับมัธยมปลาย ส่วนในระดับมหาวิทยาลัย ตัวเลขยิ่งน้อยลงไปอีก โดยมีเพียง 4% ของเด็กยากจนเท่านั้นที่สามารถเรียนต่อได้

ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนยังมีโอกาสเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้น้อยมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนระหว่างฐานะทางการเงินของครอบครัวกับโอกาสทางการศึกษา

'ค่าเดินทาง' คืออุปสรรคใหญ่ของเด็กยากจน

ค่าเดินทางเป็นภาระใหญ่ของเด็กยากจน คิดเป็น 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา

เมื่อดูโครงสร้างค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของเด็กจากครอบครัวยากจน จะพบว่า ค่าเดินทาง เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วคิดเป็นประมาณ หนึ่งในสามของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ในระดับประถมศึกษา มัธยมต้น และมัธยมปลาย (รวมถึง ปวช.) สัดส่วนค่าเดินทางยังสูงที่สุดเช่นกัน ค่าใช้จ่ายรองลงมาคือ ค่าเล่าเรียน ค่าชุดนักเรียน และค่าอุปกรณ์การเรียน

สถิติชี้ 'ยิ่งเรียนสูง ยิ่งหลุดพ้นความจน' แต่ 'ค่าเดินทาง' คืออุปสรรคใหญ่

สัดส่วนค่าใช้จ่ายทางการศึกษาในแต่ละระดับ

ประถมศึกษา

  • ค่าเดินทาง 43.96%
  • ค่าเล่าเรียน 27.36%
  • ค่าชุดนักเรียน 19.32%
  • ค่าอุปกรณ์การเรียน 9.35%

มัธยมต้น

  • ค่าเดินทาง 41.72%
  • ค่าเล่าเรียน 30.45%
  • ค่าชุดนักเรียน 18.49%
  • ค่าอุปกรณ์การเรียน 9.34%

มัธยมปลาย (รวม ปวช.)

  • ค่าเดินทาง 40.01%
  • ค่าเล่าเรียน 32.95%
  • ค่าชุดนักเรียน 17.14%
  • ค่าอุปกรณ์การเรียน 9.90%

อุดมศึกษาขึ้นไป

  • ค่าเดินทาง 27.65%
  • ค่าเล่าเรียน 47.43%
  • ค่าชุดนักเรียน 14.79%
  • ค่าอุปกรณ์การเรียน 10.12%

สำหรับนักเรียนระดับอุดมศึกษา (มหาวิทยาลัย) โครงสร้างค่าใช้จ่ายจะแตกต่างออกไป โดย ค่าเล่าเรียนกลายเป็นค่าใช้จ่ายหลัก คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายทั้งหมด รองลงมาคือค่าเดินทาง ชุดนักศึกษา และอุปกรณ์การเรียน

นโยบายเรียนฟรี ยังไม่ครอบคลุมค่าเดินทาง

เหตุผลหลักที่ทำให้ค่าเล่าเรียนในระดับประถมถึงมัธยมไม่สูงนัก เป็นเพราะมี นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ที่ช่วยลดภาระให้กับครอบครัว ทำให้ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเอง (out of pocket) ส่วนใหญ่กลายเป็น “ค่าเดินทาง”

ขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายคนเลือกพักในหอพักหรือใกล้มหาวิทยาลัย ทำให้ค่าเดินทางลดลง แต่ค่าเล่าเรียนยังคงเป็นภาระหลัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน พบว่า สัดส่วนค่าเดินทางของเด็กยากจนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกระดับการศึกษา ขณะที่ค่าเล่าเรียนมีแนวโน้มลดลง

 

 

 

 

อ้างอิง : สศช.