‘ออสเตรเลีย’ เดินหน้ากำจัด ‘แมวจรจัด’ หวังรักษา ‘สัตว์พื้นเมือง’

‘ออสเตรเลีย’ เดินหน้ากำจัด ‘แมวจรจัด’ หวังรักษา ‘สัตว์พื้นเมือง’

ผู้เชี่ยวชาญยิงแมวจรจัดนับร้อยตัวทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อปกป้องสายพันธุ์พื้นเมือง แต่กลุ่มนักอนุรักษ์กล่าวว่านี่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะกำจัดแมว

KEY

POINTS

  • ในปี 2024 ทีมควบคุมแมวจรจัดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ทำการการุณยฆาตแมวจรไปแล้วกว่า 400 ตัว
  • เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าไม่มีทางกำจัดแมวออกไปจากสิ่งแวดล้อมได้ทั้งหมด แต่การลดจำนวนแมวอาจช่วยให้สัตว์ใกล้สูญพันธุ์สามารถอยู่รอดได้
  • ในแต่ละคืนแมวล่าสัตว์ประมาณ 5-35 ตัว และพวกมันไม่ได้ฆ่าเพื่อเป็นอาหารอีกทั้งแมวเหล่านี้สามารถแพร่เชื้อโรคท็อกโซพลาสโมซิสไปสู่สัตว์ต่าง ๆ ได้อีก

แมว” เป็นสัตว์ที่คนทั่วโลกหลงรัก แต่แมวก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นนักล่า ไม่ว่าจะเป็นแมวเลี้ยงหรือแมวจรกำลังคุกคาม “สัตว์พื้นเมือง” ของออสเตรเลีย จนทำให้รัฐบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ออกมาตรการกำจัดแมวจร เพื่อรักษาชีวิตของสัตว์พื้นเมืองเอาไว้

ทีมควบคุมแมวจรจัดของรัฐนิวเซาท์เวลส์เริ่มภารกิจกำจัดแมวจรจัดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 โดยใช้กล้องหลายร้อยตัวและการถ่ายภาพความร้อนเข้าช่วยหาแมวเหล่านี้ ทำให้ในปีที่แล้วได้ทำการการุณยฆาตแมวจรไปแล้วกว่า 400 ตัว

ส่วนในปี 2025 มีรายงานว่าทีมได้กำจัดแมวจรไปแล้ว 62 ตัว โดยมี 42 ตัวที่บุกเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติทูเรล เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ดาร์เรน พิตต์ ผู้อำนวยการกรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่าแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์สาขาตะวันตก กล่าวว่าโครงการนี้ได้ช่วยชีวิตสัตว์พื้นเมืองไปแล้วหลายแสนตัว

องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าออสเตรเลียระบุว่า จากการตรวจสอบชิ้นเนื้อในกระเพาะอาหารของแมวแสดงให้เห็นว่า ในแต่ละคืนแมวล่าสัตว์ประมาณ 5-35 ตัว และพวกมันไม่ได้ฆ่าเพื่อเป็นอาหาร

“แมวจรจัดตัวเดียวสามารถฆ่าสัตว์พื้นเมืองได้อย่างน้อย 700 ตัวต่อปี ดังนั้นการกำจัดแมว 400 ตัวอาจช่วยให้สัตว์ 280,000 ตัวรอดพ้นจากการถูกล่าโดยแมวจรจัด” พิตต์กล่าว

จากการศึกษาของอาเรียน วอลลัค นักวิจัยด้านนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ และเอริค ลันด์เกรน นักวิจัยหลังปริญญาเอกด้านนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่า 80% ของสัตว์ที่ถูกคุกคามนั้นมาจากแมว โดยแมวถูกจัดอยู่ในกลุ่มภัยคุกคามระดับสูงต่อพอสซัมแคระภูเขาและพ็อตโตรูจมูกยาว

ดร.แคเธอรีน โมสบี นักนิเวศวิทยาสัตว์ป่าจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ กำลังสืบสวนหาสาเหตุการตายของสัตว์พื้นเมือง และพบว่าหลักฐานดีเอ็นเอแสดงให้เห็นว่าแมวอาจฆ่าสัตว์ได้มากกว่าที่เคยคาดไว้

“แมวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์พื้นเมืองตาย ซากสัตว์บางตัวที่เราพบยังอยู่ในสภาพสภาพสมบูรณ์ ไม่ได้ถูกกินด้วยซ้ำ แต่เมื่อเราทำการชันสูตรก็พบว่าแมวเป็นฆาตกรจริง ๆ” ดร.โมสบีกล่าว

อาเล็ด ฮอกเกตต์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของ Australian Wildlife Conservancy องค์กรปกป้องสัตว์พื้นเมือง กล่าวว่า การกำจัดแมวด้วยการยิงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมแมวจรจัด หลังจากลองใช้วิธีอื่น ๆ แล้วไม่ได้ผลเท่าที่ควร

“แมวจรจัดระมัดระวังตัวมาก และซ่อนตัวเก่งมาก โดยธรรมชาติแล้วพวกมันหลีกเลี่ยงปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ และพวกมันมักจะเลือกกินอย่างพิถีพิถัน ดังนั้นการใช้เหยื่อล่อจึงใช้ไม่ได้ผลกับแมวจรมากนัก” ฮอกเกตต์กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าไม่มีทางกำจัดแมวออกไปจากสิ่งแวดล้อมได้ทั้งหมด แต่การลดจำนวนแมวในพื้นที่เป้าหมายอาจช่วยให้สัตว์ใกล้สูญพันธุ์สามารถอยู่รอดได้ เพราะไม่ใช่สัตว์ทุกชนิดที่จะสามารถรรับมือกับแมวจรจัดได้ดีเหมือนกับที่โอพอสซัมและควอลล์ทำ 

นกกราสเรน” ซึ่งเป็นนกใกล้สูญพันธุ์ เป็นสัตว์อีกชนิดที่ถูกแมวคุกคาม เนื่องจากพวกมันทำรังบนพื้นดินและอาศัยอยู่ในพุ่มไม้เตี้ย ทำให้นกชนิดนี้ถูกแมวโจมตีได้ง่าย 

แมวจรจัดไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นพาหะแพร่โรคในปสุสัตว์ได้อีกด้วย โดยบาร์บารา ลินลีย์ ผู้เลี้ยงแกะเมอริโนกล่าวว่า แมวจรจัดเป็นภัยคุกคามที่อันตรายสำหรับแกะของเธอ

แมวเหล่านี้สามารถแพร่เชื้อโรคท็อกโซพลาสโมซิส ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากปรสิตที่พบในอุจจาระหรือปัสสาวะของแมวที่ติดเชื้อ โดยโรคนี้สามารถยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด รวมถึงมนุษย์ด้วย

“มีครั้งหนึ่งที่เราทำแท้งแกะบ่อยมาก และฉันก็อยากรู้เสมอว่าทำไม เราจึงได้ชันสูตรพลิกศพและพบว่าเป็นโรคท็อกโซพลาสโมซิส” ลินลีย์กล่า

ลินลีย์มีแกะประมาณ 2,000 ตัวในฝูง และ 10% ตายจากโรคนี้ ถือว่าเป็นการสูญเสียรายได้ครั้งใหญ่ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากโรคที่มาจากแมวเป็นพาหะ มีมูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์เพียงรัฐเดียว

นอกจากรัฐบาลจะต้องลดจำนวนแมวจรจัดแล้ว ยังจำเป็นต้องให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลแมวเลี้ยงแก่เจ้าของอีกด้วย

สมาชิกรัฐสภาของรัฐนิวเซาท์เวลส์กำลังพิจารณาถึงวิธีรับมือกับจำนวนแมวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงความสำคัญของการให้ความรู้แก่เจ้าของแมวอีกด้วย ปัจจุบันสภาพันธุ์ต่างถิ่นรุกรานคาดว่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์มีแมวเลี้ยงประมาณ 1.6 ล้านตัวอาศัยอยู่ และคาดว่าจำนวนแมวทั้งออสเตรเลียอยู่ที่ 4.9 ล้านตัว

จอห์น คาโนวสกี้ เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของสภาพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน กล่าวว่า ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่าแมวที่พวกเขาเลี้ยงกำลังคุกคามสัตว์ป่าในออสเตรเลียจนเกือบสูญพันธุ์

เพื่อช่วยหยุดการแพร่กระจายของโรคและช่วยคุ้มครองพันธุ์พื้นเมือง จาอานา ดีเลนเบิร์ก ผู้จัดการสภาความหลากหลายทางชีวภาพแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ แนะนำให้เจ้าของแมวจำเป็นต้องทำหมันแมวเลี้ยงเมื่ออายุได้ 4 เดือน และเลี้ยงไว้ในบ้าน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มดูแลสวัสดิภาพสัตว์ เช่น Four Paws เรียกร้องให้ใช้ความรอบคอบมากขึ้นในการควบคุมประชากรแมว โดยให้เหตุผลว่าแมวกลายเป็น “แพะรับบาป” ในเรื่องนี้ทั้งที่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าแมวเป็นต้นเหตุที่ทำให้สัตว์สูญพันธุ์จริง ๆ 


ที่มา: AAP, ABCThe Conversation9News