ระดมกำลัง 544 นาย ดูแลชายฝั่ง ช่วงสงกรานต์ เที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ

ระดมกำลัง 544 นาย ดูแลชายฝั่ง ช่วงสงกรานต์ เที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ

ดร.เฉลิมชัย มอบกรมทะเลตั้งศูนย์ดูแลนักท่องเที่ยว 39 จุดทั่วชายฝั่งทะเล รับสงกรานต์ 12-16 เม.ย. พร้อมเชิญชวน "เที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ"

KEY

POINTS

  • จัดตั้ง “ศูนย์ดูแลนักท่องเที่ยว” รวมทั้งสิ้น 39 จุด ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้ง 4 ภูมิภาค
  • ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉิน แนะนำข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวทางทะเลอย่างถูกต้อง
  • แนวคิด “เที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ” โดยเน้นย้ำพฤติกรรมง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้
  • ปีงบประมาณ 2567 มีปริมาณขยะที่จัดเก็บได้กว่า 4,052,129 ชิ้น น้ำหนักรวม 327,143 กิโลกรัม

ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2568 คาดว่าประชาชนจำนวนมากจะเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั่วประเทศที่มีแนวโน้มจะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นเป็นพิเศษ

เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (กรมทะเล) ดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์ดูแลนักท่องเที่ยว” รวมทั้งสิ้น 39 จุด ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้ง 4 ภูมิภาคของประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย และให้บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้แก่

  • ภาคเหนืออ่าวไทย
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
  • ภาคตะวันออก

ศูนย์ฯ ดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ประจำการคอยให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉิน แจกแผ่นพับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวปลอดภัย รวมถึงแนะนำข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวทางทะเลอย่างถูกต้อง เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว

เที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ

พร้อมกันนี้ ดร.เฉลิมชัย ยังได้เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด “เที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ” โดยเน้นย้ำพฤติกรรมง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เช่น

  • ไม่ทิ้งขยะลงทะเลหรือชายหาด
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • งดเว้นพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลและระบบนิเวศ
  • ไม่รบกวนหรือจับสัตว์ทะเล
  • ไม่เหยียบปะการังหรือแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติ
  • เคารพกฎและข้อห้ามของพื้นที่อนุรักษ์

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบไม่เพียงช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยวรุ่นต่อไป และส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

ระดมกำลัง 544 นาย ดูแลชายฝั่ง ช่วงสงกรานต์ เที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ

ระดมกำลัง 544 นาย ดูแลนักท่องเที่ยว

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ขานรับนโยบายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสั่งการให้ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทั้ง 10 แห่ง ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล 23 จังหวัดทั่วประเทศ จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12–16 เมษายน 2568 รวมทั้งสิ้น 39 พื้นที่หลัก

สำหรับการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ปีนี้ กรม ทช. ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 544 นาย รถยนต์ 58 คัน เรือ 21 ลำ และอุปกรณ์ช่วยเหลือทางน้ำที่จำเป็น เพื่อให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน และอำนวยความปลอดภัยอย่างรอบด้านทั้งทางบกและทางทะเล

ดร.ปิ่นสักก์ ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น พร้อมประสานงานกับผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ และผู้ประกอบการเดินเรือให้ดำเนินการตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาล

ในขณะเดียวกัน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยังเร่งเดินหน้ารณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการ “งดทิ้งขยะลงแม่น้ำ ทะเล และชายหาด” ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ทะเลที่อาจกลืนกินพลาสติกโดยไม่รู้ตัว หรือระบบนิเวศชายฝั่งที่ถูกทำลายจนยากฟื้นฟู

สถิติ 2567 ขยะ 4,052,129 ชิ้น

จากสถิติขยะที่จัดเก็บได้จากกิจกรรมของกรม ทช. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีปริมาณขยะที่จัดเก็บได้กว่า 4,052,129 ชิ้น น้ำหนักรวม 327,143 กิโลกรัม โดยขยะที่พบมากเป็นอันดับหนึ่ง คือ ถุงพลาสติก รองลงมาเป็นขวดเครื่องดื่มพลาสติก และเศษโฟม

ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นจากขยะที่ถูกทิ้งบนชายหาดและบริเวณชายฝั่งจากกิจกรรมการท่องเที่ยว การทำประมง และจากระบบระบายน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ โดยขยะพลาสติกเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของการป่วยและเสียชีวิตของสัตว์ทะเล และยังเป็นการทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

เสียงเตือนจากธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหารุนแรงด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศทางทะเลและความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลอย่างต่อเนื่อง ดร. ปิ่นสักก์ สุรัสวดี ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาเร่งด่วน 5 ประการที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน

ปัญหาแรกคือ ปะการังฟอกขาว ซึ่งเกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติ ส่งผลให้ระบบนิเวศปะการังเสื่อมโทรมและสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ปะการังซึ่งเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตนับพันสายพันธุ์ กำลังเผชิญวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ประเด็นที่สองคือ การเสื่อมโทรมของหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญของพะยูน สัตว์ทะเลหายากที่กำลังลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วง การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้พะยูนต้องอพยพออกจากพื้นที่เดิมเพื่อหาแหล่งอาหารใหม่ กระทบต่อความมั่นคงของประชากรพะยูนในทะเลไทย

ประเด็นที่สามคือ ขยะทะเล โดยเฉพาะขยะพลาสติก ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสัตว์ทะเล ทั้งจากการกินพลาสติกโดยไม่รู้ตัว หรือการติดอยู่ในวัสดุต่าง ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของสัตว์ทะเลจำนวนมาก นอกจากนี้ ขยะเหล่านี้ยังเป็นภัยต่อความงามและคุณค่าทางเศรษฐกิจของแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลไทยอีกด้วย

ประเด็นที่สี่คือ น้ำทะเลเปลี่ยนสี ซึ่งส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดต่ำลงจนสัตว์น้ำจำนวนมากต้องตายลงในเวลาอันรวดเร็ว ปัญหานี้สะท้อนถึงความไม่สมดุลของระบบนิเวศที่เริ่มส่งผลกระทบในระดับกว้างมากขึ้น

และประการที่ห้าคือ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ที่รุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี สงขลา ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพื้นที่ชายฝั่งถูกน้ำทะเลรุกล้ำอย่างต่อเนื่อง ทำลายที่อยู่อาศัยของชุมชนชายฝั่งและพื้นที่ทางการเกษตร

ปัญหาทั้งหมดนี้ไม่สามารถแก้ไขได้โดยลำพัง จำเป็นต้องอาศัย ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน ในการร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน เพื่ออนาคตของท้องทะเลไทย และชีวิตของเราทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมันโดยตรงหรือโดยอ้อม

"กรม ทช. ในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เกิดความยั่งยืน จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเที่ยวทะเลอย่างรับผิดชอบ ให้เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ควบคู่ไปกับความใส่ใจสิ่งแวดล้อม" ดร.ปิ่นสักก์ กล่าว

หากพบสัตว์ทะเลได้รับบาดเจ็บหรือพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 หรือศูนย์ช่วยเหลือประชาชนของกรม ทช. ในแต่ละพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง