‘ผีเสื้อ’ ในสหรัฐหายไป 22% จากยาฆ่าแมลง - โลกร้อน - ไร้ที่อยู่

‘ผีเสื้อ’ ในสหรัฐหายไป 22% จากยาฆ่าแมลง - โลกร้อน - ไร้ที่อยู่

“ผีเสื้อ” ในสหรัฐกำลังหายไปเนื่องจากยาฆ่าแมลง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย โดยผีเสื้อมีปีกสวยงามจำนวนลดลง 22% ตั้งแต่ปี 2000

KEY

POINTS

  • ผีเสื้อ” ในสหรัฐลดลง 22% ตั้งแต่ปี 2000 จากปัญหา “ยาฆ่าแมลง” ยิ่งเมื่อรวมกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยยิ่งทำให้จำนวนผีเสื้อลดลงฮวบฮาบ
  • ผีเสื้อจักรพรรดิ” มีจำนวนน้อยกว่า 10,000 ตัว ลดลงอย่างมาก จากปี 1997 ที่มีราว 1.2 ล้านตัว
  • สถานการณ์ผีเสื้อที่ลดลงในสหรัฐน่าจะเกิดขึ้นทั่วโลก และแมลงชนิดๆ อื่นก็น่าจะมีจำนวนลดลงทั่วโลกเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีการศึกษาที่เป็นรูปธรรม

ผีเสื้อ” ในสหรัฐกำลังหายไปเนื่องจากยาฆ่าแมลง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย โดยผีเสื้อปีกสวยงามจำนวนลดลง 22% ตั้งแต่ปี 2000 จากการศึกษาวิจัยใหม่

แมลงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ และไม่ค่อยได้รับการชื่นชม แต่มีบทบาทสำคัญในการหล่อเลี้ยงชีวิตบนโลก แมลงช่วยผสมเกสรพืช ย่อยสลายซากพืช และบำรุงดิน เป็นอาหารให้นก และสัตว์อื่นๆ มากมายในห่วงโซ่อาหาร โดยเฉพาะ “ผีเสื้อ

การวิเคราะห์เชิงระบบระดับประเทศ เกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ของผีเสื้อพบว่า จำนวนผีเสื้อใน 48 รัฐแผ่นดินใหญ่ลดลงโดยเฉลี่ย 1.3% ต่อปีนับตั้งแต่ต้นศตวรรษ 2000 โดยมีผีเสื้อ 114 ชนิดที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และมีเพียง 9 ชนิดเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น 

นิค แฮดดัด นักกีฏวิทยา จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท และผู้เขียนร่วมการศึกษาและเป็น กล่าวว่า “ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผีเสื้อมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง และเราไม่เห็นสัญญาณใดๆ มาก่อนว่าจำนวนผีเสื้อจะลดลง"

ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้รวมแบบสำรวจ 76,957 ชุดจากโปรแกรมตรวจสอบ 35 โปรแกรมตั้งแต่ปี 2000-2020 เข้าด้วยกัน เพื่อเปรียบเทียบหาจำนวนที่แน่นอน โดยนับผีเสื้อได้ 12.6 ล้านตัว ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา 

ส่วนการสำรวจจำนวน “ผีเสื้อจักรพรรดิ” ที่ถูกจัดไว้ในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของรัฐบาลกลาง ซึ่งมีเส้นทางอพยพระหว่างแคนาดา สหรัฐ และเม็กซิโก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 พบว่ามีจำนวนน้อยกว่า 10,000 ตัว ลดลงอย่างมาก จากปี 1997 ที่มีราว 1.2 ล้านตัว โดยผีเสื้อจักรพรรดิที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกของเทือกเขาร็อกกี มีจำนวนลดลงเกือบเป็นประวัติการณ์ในการนับจำนวนในปีนี้

ผีเสื้อจักรพรรดิ

ผีเสื้อจักรพรรดิ” ลดจำนวนลงอย่างมาก

สวนทางกับเม็กซิโก ที่มีผีเสื้อจักรพรรดิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการนับจำนวนในปีนี้ ตามข้อมูลของรัฐบาลเม็กซิโก และกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล โดยนักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า สาเหตุที่ผีเสื้อจักรพรรดิในเม็กซิโกมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะภัยแล้งตามแนวเส้นทางอพยพของผีเสื้อเริ่มจางหายไป ผีเสื้อจักรพรรดิเดินทาง 

คอลลิน เอ็ดเวิร์ดส์ และนักนิเวศวิทยา และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของกรมประมง และสัตว์ป่าแห่งรัฐวอชิงตัน หัวหน้าทีมวิจัย ระบุว่า สหรัฐมีผีเสื้อ 650 ชนิด แต่มี 96 ชนิดที่หายากมากจนไม่มีอยู่ในชุดข้อมูล และอีก 212 ชนิดไม่พบในจำนวนเพียงพอที่จะคำนวณแนวโน้มได้ ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์เป็นกังวลถึงจำนวนของผีเสื้อสายพันธุ์หายาก

ขณะที่ แฮดดัด ผู้เชี่ยวชาญด้านผีเสื้อหายาก กล่าวว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาพบผีเสื้อเซนต์ฟรานซิสแซเทียร์ ซึ่งเป็นชนิดใกล้สูญพันธุ์เพียง 2 ตัวเท่านั้น และพวกมันอาศัยอยู่เฉพาะบริเวณสนามทิ้งระเบิดในรัฐนอร์ทแคโรไลนาเท่านั้น ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่สายพันธุ์นี้อาจสูญพันธุ์ได้

‘ผีเสื้อ’ ในสหรัฐหายไป 22% จากยาฆ่าแมลง - โลกร้อน - ไร้ที่อยู่

ผีเสื้อเซนต์ฟรานซิสแซเทียร์
เครดิตภาพ: David Pavlik Photography

ไม่ใช่แค่ผีเสื้อหายากที่มีจำนวนลดลง เพราะผีเสื้อที่พบเห็นได้ทั่วไปบางชนิดมีจำนวนลดลงมาก เอ็ดเวิร์ดส์กล่าวว่า ผีเสื้อแดงอินเดีย ซึ่งเป็นมิตร และสามารถเกาะบนตัวคนได้มีจำนวนลดลง 44% ส่วนผีเสื้อแดงยุโรป ซึ่งมีจุดตาขนาดใหญ่สองจุดบนปีกหลังนั้นมีจำนวนลดลง 58% ขณะที่ผีเสื้อคอปเปอร์เฮอร์มีส ซึ่งเป็นผีเสื้อหายากที่พบในเขตซานดิเอโก ลดลงถึง 99.9%

แม้แต่ผีเสื้อหนอนกะหล่ำ ที่เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีที่สุด ก็มีจำนวนลดลง 50% และมีผีเสื้ออีกหลายสายพันธุ์ที่มีจำนวนลดลงมากกว่า 40%

อนุรักษ์ อัครวัลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผีเสื้อจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ กล่าวว่า หากผีเสื้อสูญพันธุ์ไปหมด มนุษย์จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลกระทบที่สุด

“การสูญเสียผีเสื้อ นกแก้ว และปลาโลมาเป็นสัญญาณร้ายสำหรับเรา ระบบนิเวศที่เราต้องการ และธรรมชาติที่เราชื่นชม เพราะแสดงให้เห็นว่าสุขภาพของทวีปของเราไม่ดีนัก ผีเสื้อเป็นตัวแทนของความงาม ความเปราะบาง และการพึ่งพากันของสายพันธุ์ต่างๆ ของธรรมชาติ พวกมันมีบางอย่างที่จะสอนเรา” อัครวัลย์ กล่าว

นักวิจัยระบุว่า สถานการณ์ผีเสื้อที่ลดลงในสหรัฐน่าจะเกิดขึ้นทั่วโลก และแมลงชนิดๆ อื่นก็น่าจะมีจำนวนลดลงทั่วโลกเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีการศึกษาที่เป็นรูปธรรม

ผีเสื้อมีจำนวนลดลงมากที่สุดในบริเวณรัฐที่แห้ง และอบอุ่นในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ เช่น แอริโซนา นิวเม็กซิโก เท็กซัส และโอคลาโฮมา ซึ่งมีจำนวนผีเสื้อลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งในรอบ 20 ปี นักวิจัยยังพบอีกว่าผีเสื้อสามารถเติบโตได้ดีกว่าในพื้นที่ ที่เย็นกว่า ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ

เอ็ดเวิร์ดส์ และฮัดดัด กล่าวว่า “ยาฆ่าแมลง” เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผีเสื้อลดลง ยิ่งเมื่อรวมกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยจากการพัฒนาที่ดินให้เป็นเมืองหรือทำเกษตรกรรม ยิ่งทำให้จำนวนผีเสื้อลดลงฮวบฮาบ

สอดคล้องกับ การศึกษาอื่นๆ ที่พบว่าภูมิภาคมิดเวสต์ และแคลิฟอร์เนีย มียาฆ่าแมลงกลุ่มคลอโรนิโคตินิล (chloronicotinyls) หรือ นีโอนิโคตินอยด์ จำนวนมาก ทั้งที่สารนี้ถูกห้ามใช้ในยุโรปตั้งแต่ปี 2018 อีกทั้งยังพบว่า ตัวอย่างที่เก็บได้ทุกชิ้นจากหุบเขาเซ็นทรัลของแคลิฟอร์เนียล้วนปนเปื้อนยาฆ่าแมลงทั้งสิ้น แม้ว่าเจ้าของที่ดินจะบอกว่าพวกเขาไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลงก็ตาม ยิ่งตอกย้ำได้ว่าสารเคมีลอยไปกับลมได้

อย่างไรก็ตาม มนุษย์ยังสามารถฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยได้ ดังนั้นจึงยังมีความหวังที่ผีเสื้อจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยการช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการควบคุมยาฆ่าแมลง ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการในระดับนโยบาย แต่ในระหว่างนี้ พวกเขาสนับสนุนให้ผู้คนสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับผีเสื้อ และแมลงอื่น ๆ โดยการปลูกดอกไม้ พุ่มไม้ และต้นไม้พื้นเมือง 


ที่มา: AP NewsBBCThe New York Times

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์ 

‘ผีเสื้อ’ ในสหรัฐหายไป 22% จากยาฆ่าแมลง - โลกร้อน - ไร้ที่อยู่ (ซ้าย) ผีเสื้อแดง
(ขวา) ผีเสื้อคอปเปอร์เฮอร์มีส