'อสังหาริมทรัพย์' ปรับตัวอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว?

'อสังหาริมทรัพย์' ปรับตัวอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว?

ภายใต้กระแสเศรษฐกิจที่ผันผวน ต้นทุนที่พุ่งสูง และความต้องการของผู้บริโภคที่ซับซ้อนขึ้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับยุคสมัย

บ้านไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยอีกต่อไป แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่รองรับไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร ทั้งความสะดวกสบาย เทคโนโลยี และความยั่งยืน ผู้พัฒนาโครงการต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อก้าวทันโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานการอภิปรายเรื่อง " Disrupt ห่วงโซ่คุณค่าอสังหาฯ เพื่อความท้าทายใหม่ที่ชั่งยืน "  จัดโดย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ว่า  การพลิกโฉมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในยุคเปลี่ยนผ่านความท้าทายและโอกาสใหม่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิม

พื้นที่ที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการมีจำกัดมากขึ้น

ในขณะที่ราคากลับพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้มองหาบ้านที่เป็นเพียงที่อยู่อาศัยอีกต่อไป แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งความสะดวกสบาย ความยั่งยืน และเทคโนโลยีที่ช่วยให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปัญหาด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย

เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ อัตราการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยลดลงอย่างต่อเนื่องจากมาตรการเข้มงวดของสถาบันการเงิน ลูกค้าหลายกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้รายได้ไม่แน่นอน หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดภาวะชะลอการซื้อหรือแม้แต่การยกเลิกการจองซื้อโครงการ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องเร่งแก้ไข

เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในยุคที่ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงต้องคิดใหม่และหาแนวทางปรับตัวที่เหมาะสม เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างความแตกต่างและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ การใช้ Big Data และ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคในเชิงลึก กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

ระบบ Smart Dashboard ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่กระบวนการก่อสร้าง การขาย ไปจนถึงการบริการหลังการขาย นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา Smart Application ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการและข้อมูลโครงการได้อย่างสะดวกมากขึ้น

โมเดลทางการเงินแบบใหม่

เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ โครงการ “เช่าออมบ้าน” เป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาด้านเครดิตสามารถสะสมเงินเช่าเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อในอนาคต ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงการเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดอัตราการยกเลิกจองซื้อโครงการได้อีกด้วย

อีกหนึ่งกระแสสำคัญที่กำลังเปลี่ยนแปลงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ แนวคิดเรื่องความยั่งยืนและการลดการปล่อยคาร์บอน โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เช่น การติดตั้ง Solar Energy ในโครงการที่อยู่อาศัย หรือการออกแบบบ้านที่มี Zero Energy House (ZEH) ซึ่งสามารถผลิตและใช้พลังงานได้อย่างสมดุล

นอกจากนี้ เทรนด์ของรถยนต์ไฟฟ้าทำให้หลายโครงการต้องเตรียมความพร้อมรองรับระบบ EV Charging Station และโซลูชันการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

SENA Ecosystem เป็นตัวอย่างของแนวทางการบูรณาการระบบธุรกิจที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การพัฒนาโครงการไปจนถึงการบริหารจัดการพลังงานและเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Panasonic และ Macnica เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตไม่สามารถพึ่งพาโมเดลธุรกิจแบบเดิมได้อีกต่อไป การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การปรับโครงสร้างทางการเงินให้ยืดหยุ่น และการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ผู้พัฒนาโครงการที่สามารถปรับตัวได้เร็วและนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริงเท่านั้น ที่จะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมนี้