เปิดลิสต์ ‘แร่หายาก’ ใน ‘ยูเครน’ ที่ทรัมป์หวังใช้คานอำนาจจีน

ยูเครนเป็นประเทศที่มีแร่ธาตุจำนวนมาก และบังเอิญว่าเป็นแร่หายากที่สหรัฐต้องการใช้คานอำนาจ และลดการพึ่งพาจีน
KEY
POINTS
- ยูเครนเป็นประเทศที่มีแร่ธาตุจำนวนมาก และบังเอิญว่าแร่ธาตุที่ยูเครนมีดันเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐมากกว่า 20 ชนิด จากทั้งหมด 50 ชนิด
- ทางการยูเครน กล่าวว่า ทรัพยากรแร่ธาตุที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในประเทศมีมูลค่านับล้านล้านดอลลาร์
- สหรัฐนำเข้าแร่หายากจากจีนคิดเป็น 70% ของการนำเข้าทั้งหมด ดังนั้นการเข้าถึงแหล่งแร่ของยูเครนอาจช่วยให้สหรัฐลดการพึ่งพาแร่ธาตุจากจีนได้
ในที่สุด สหรัฐ และยูเครน ได้เห็นชอบ “ข้อตกลงแร่หายาก” แลกกับการคุ้มครองจากสหรัฐ ซึ่งประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน จะเยือนสหรัฐวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.2568 เพื่อลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่ร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ตามข้อตกลงเบื้องต้นที่มีข้อมูลออกมา สหรัฐ และยูเครนจะจัดตั้งกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟู รวบรวม และจัดเก็บรายได้จากการลงทุนในทรัพยากรธรรมชาติของยูเครนทั้งแร่หายาก ไฮโดรคาร์บอน และแร่ธาตุอื่นๆ โดยยูเครนจะนำรายได้จากการลงทุนแร่หายาก 50% ที่หักค่าใช้จ่ายการดำเนินงานแล้ว นำไปเข้ากองทุนดังกล่าว และสมทบทุนเรื่อยๆ จนกองทุนมีเงินทุน 500,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่สหรัฐให้คำมั่นสนับสนุนการเงินระยะยาว เพื่อความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจของยูเครน โดยไม่รวมกับเงินสนับสนุนที่สหรัฐให้แก่ยูเครนในช่วงสงครามที่ผ่านมาแล้วกว่า 350,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงอาวุธการทหารที่ยูเครนใช้ป้องกันประเทศ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ผลักดันข้อตกลงดังกล่าว เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่อง “ภาวะโลกร้อน” และไม่เห็นความสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว รวมถึงพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล แล้วทำไมทรัมป์ถึงต้องการ “แร่หายาก” ที่เป็นส่วนประกอบของพลังงานสะอาด
แร่หายากของยูเครน
ยูเครนเป็นประเทศที่มีแร่ธาตุจำนวนมาก และบังเอิญว่าแร่ธาตุที่ยูเครนมีดันเป็นแร่ธาตุที่กระทรวงมหาดไทยของสหรัฐกำหนดไว้ว่า เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์มากกว่า 20 ชนิด จากทั้งหมด 50 ชนิด
ไม่ว่าจะเป็น “ไทเทเนียม” ที่ใช้ทำปีกเครื่องบิน เรือดำน้ำ และการผลิตยานอวกาศอื่นๆ รวมถึงใช้ในกระบวนการทางเคมี และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศยูเครน ทำให้ยูเครนเป็นประเทศที่มีแร่ไทเทเนียมสำรองมากที่สุดในยุโรป ซึ่งอาจสามารถตอบสนองความต้องการของสหรัฐ และสหภาพยุโรปได้เป็นเวลา 25 ปี
ประเทศนี้ยังมี “กราไฟต์” สำรองมากถึง 6% จากที่มีทั้งหมดในโลก ทำให้ยูเครนมีกราไฟต์มากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป สำหรับกราไฟต์เป็นโลหะที่มีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน นอกจากนี้ยังใช้ในงานต่างๆ ตั้งแต่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไปจนถึงดินสออีกด้วย
รวมถึงยูเครนมี “ยูเรเนียม” อยู่ประมาณ 2-4% ของโลก ซึ่งแร่ชนิดนี้ใช้สำหรับพลังงานนิวเคลียร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และผลิตอาวุธ ที่ชาติตะวันตกกำลังต้องการ เพราะในปัจจุบันรัสเซีย และจีนจัดหายูเรเนียม 55% ของทั่วโลก เมื่อชาติตะวันตกเลิกซื้อเชื้อเพลิงจากรัสเซียทำให้ขาดแร่ยูเรเนียมไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ ยังมี “ลิเทียม” ประมาณ 500,000 เมตริกตัน คิดเป็น 1-2% ของทั้งโลก ถือว่าเป็นแร่ที่เป็นกุญแจสำคัญของเทคโนโลยีแบตเตอรี่หลายชนิดในปัจจุบัน รวมถึงผลิตเซรามิกและแก้ว ตลอดจนแมงกานีสซึ่งใช้ในแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะไฟฟ้าด้วย
ทางการยูเครน กล่าวว่า ทรัพยากรแร่ธาตุที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในประเทศมีมูลค่านับล้านล้านดอลลาร์ แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่า นักลงทุนอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำกำไรได้มาก
ทอม มอเรนเฮาต์ รองศาสตราจารย์ประจำคณะการต่างประเทศ และกิจการสาธารณะ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย กล่าวว่า ข้อมูลทางธรณีวิทยาของยูเครนยังไม่สมบูรณ์ เพราะแผนที่แร่ธาตุในยูเครนจัดทำไว้ตั้งแต่สมัยที่ยูเครนยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ดังนั้น จึงไม่ชัดเจนว่าจะขุดเอาแร่ขึ้นมาได้ง่ายหรือยากเพียงใด
ปัจจุบันทรัพยากรโลหะของยูเครนประมาณ 40% อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ตามการประมาณการของ We Build Ukraine กลุ่มวิจัยด้านยุทธศาสตร์ของยูเครน และสถาบันแห่งชาติเพื่อการศึกษากลยุทธ์ โดยอ้างอิงข้อมูลจนถึงครึ่งแรกของปี 2024
รัสเซียยึดครองแหล่งลิเทียมของยูเครนอย่างน้อย 2 แห่งระหว่างสงคราม แห่งหนึ่งอยู่ในโดเนตสก์ และอีกแห่งในภูมิภาคซาโปริซเซียทางตะวันออกเฉียงใต้
มอเรนเฮาต์ กล่าวถึงข้อตกลงดังกล่าวว่า “ข้อตกลงนี้ระบุถึงวิธีการจัดการการสกัดแร่ และรายได้ของแร่เหล่านี้เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การสกัดแร่ และการดำเนินการขุดแร่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้รับประกันเรื่องนี้”
สหรัฐต้องการแร่หายาก
“แร่โลหะหายาก” หรือ “แร่หายาก” (Rare Earth) เป็นกลุ่มย่อยของแร่ธาตุที่สำคัญ มีทั้งหมด 17 ชนิด และมีชื่อเรียกด้วยคำยากๆ ที่ไม่คุ้นหู แต่มีความสำคัญต่อเทคโนโลยี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายประเภท รวมถึงการรักษาทางการแพทย์ การทหาร การบินและอวกาศ และพลังงานสะอาด ซึ่งแน่นอนว่ายูเครนก็มีแร่หายากด้วยเช่นกัน
สถาบันธรณีวิทยาระบุว่ายูเครนมีแร่ธาตุหายาก เช่น แลนทานัม และซีเรียม แร่ที่ใช้ในโทรทัศน์ แบตเตอรี่ เลนส์แว่นตา และเลนส์กล้อง ตลอดจนในการกลั่นปิโตรเลียม ขณะที่นีโอดิเมียม ใช้ในกังหันลม และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเออร์เบียม และอิตเทรียม ที่ได้นำไปใช้งานตั้งแต่พลังงานนิวเคลียร์ไปจนถึงเลเซอร์อินฟราเรด ปฏิกิริยาเคมี แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ และไฟเบอร์ออปติก
อันที่จริงแร่ธาตุหายากไม่ได้หายากตามชื่อเรียก แต่แร่ธาตุหายากที่พบมักมีความเข้มข้นต่ำ ทำให้การแปรรูปมีความซับซ้อน อุปกรณ์ทางทหารเพียงชิ้นเดียวอาจต้องใช้แร่ธาตุหายากหลายร้อยปอนด์ ซึ่งจีนเป็นประเทศที่เก่งด้านการแปรรูปแร่หายาก และเป็นผู้ผลิตแร่ธาตุหายากรายใหญ่ที่สุดในโลก
สหรัฐก่อตั้งอุตสาหกรรมแร่ธาตุหายากตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และนักวิทยาศาสตร์ทางการทหารของสหรัฐ ได้พัฒนาแม่เหล็กแร่ธาตุหายากประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันสหรัฐมีเหมืองแร่ธาตุหายากเพียงแห่งเดียว และไม่มีศักยภาพในการแปรรูปแร่ธาตุหายาก สวนทางกับจีนที่อุตสาหกรรมนี้ค่อย ๆ เติบโตขึ้นจนสามารถควบคุมภาคส่วนทั้งหมดได้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
สหรัฐนำเข้าแร่หายากจากจีนคิดเป็น 70% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมด ตามรายงานปี 2025 ของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ดังนั้นการเข้าถึงแหล่งแร่ของยูเครน อาจช่วยให้สหรัฐลดการพึ่งพาแร่ธาตุจากจีนได้
“รัฐบาลทรัมป์ให้ความสำคัญกับแร่ธาตุที่สำคัญมากมาโดยตลอด เพราะพวกเขารู้ดีว่าพึ่งพาจีนมาก และความสำคัญของรัฐบาลทรัมป์ไม่เปลี่ยนแปลงเลย เพราะรัฐบาลทรัมป์ไม่ค่อยใส่ใจการใช้พลังงานสะอาดในอนาคตมากนัก” มอเรนเฮาต์ กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์