ธารน้ำแข็งใน ‘กรีนแลนด์’ แตกตัวเร็วขึ้น ถ้าละลายหมด ดันน้ำทะเลสูงขึ้น 7 เมตร

การศึกษาล่าสุดพบว่า รอยแยกขนาดใหญ่บนแผ่นน้ำแข็งใน “กรีนแลนด์” กำลังขยายกว้างขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มที่จะทำให้น้ำแข็งละลายเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น
KEY
POINTS
- รอยแตกในธารน้ำแข็งกรีนแลนด์ สามารถเติบโตได้กว้างกว่า 300 ฟุต ยาวหลายพันฟุต และลึกหลายร้อยฟุต
- รอยแตกของน้ำแข็งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่การศึกษาครั้งก่อนระบุว่าต้องใช้เวลาหลายสิบปี แต่ตอนนี้กลับเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 5 ปีเท่านั้น
- หากแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ทั้งหมดละลาย น้ำทะเลอาจสูงขึ้นถึง 7 เมตร
การศึกษาล่าสุดพบว่า รอยแยกขนาดใหญ่บนแผ่นน้ำแข็งใน “กรีนแลนด์” กำลังขยายกว้างขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มที่จะทำให้น้ำแข็งละลายเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น
รอยแยกบนแผ่นน้ำแข็งนี้ มีลักษณะเป็นรอยแยกรูปลิ่ม ซึ่งเป็นรอยแตกในธารน้ำแข็ง สามารถเติบโตได้กว้างกว่า 300 ฟุต ยาวหลายพันฟุต และลึกหลายร้อยฟุต โดยน้ำที่มาจากการละลายของหิมะสามารถไหลผ่านรอยแยกไปจนถึงฐานรากของน้ำแข็ง เมื่อมารวมกับกระแสน้ำที่ซ่อนอยู่ภายในธารน้ำแข็ง จะกลายเป็นระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ ส่งผลต่อความเร็วของธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็ง
การศึกษาพบว่ารอยแยกขยายตัวเร็วขึ้นกว่าที่เคยพบ น้ำที่ไหลผ่านแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ประมาณ 50-90% ไหลผ่านรอยแยก ซึ่งจะทำให้ส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำลึกของธารน้ำแข็งอุ่นขึ้น และเพิ่มการหล่อลื่นระหว่างฐานของแผ่นน้ำแข็งและชั้นหินแข็งที่น้ำแข็งไหลผ่าน เกิดเป็นรอยแยกขนาดหลายพันตารางกิโลเมตร
กลไกเหล่านี้สามารถเร่งการไหลของน้ำแข็งได้ โทมัส ชัดลีย์ นักธารน้ำแข็งวิทยาจากมหาวิทยาลัยเดอรัมในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้จัดทำการศึกษาใหม่นี้ กล่าวว่า
“รอยแยกกำลังขยายตัวเพื่อตอบสนองต่ออุณหภูมิของมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น และน้ำที่มาจากน้ำแข็งละลายจะยิ่งทำให้เกิดรอยแยกลึกลงไปในน้ำแข็งได้ แต่จนถึงตอนนี้ เรายังไม่มีข้อมูลว่าปรากฏการณ์นี้เกิดที่ใดบ้างในกรีนแลนด์และเกิดรวดเร็วเพียงใด”
เครดิตภาพ: REUTERS/Sarah Meyssonnier
นักวิจัยใช้แผนที่พื้นผิวสามมิติ 8,000 แผ่นจากภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ความละเอียดสูง เพื่อประเมินวิวัฒนาการของรอยแตกร้าวบนพื้นผิวแผ่นน้ำแข็งระหว่างปี 2016-2021 และพบว่ารอยแยกขยายกว้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“รอยแยกเหล่านี้ขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามการละลายของภูเขาน้ำแข็งและธารน้ำแข็ง โดยน้ำเหล่านี้จะไหลลงสู่มหาสมุทร ก็ถือว่าสมเหตุสมผลใช่ไหม ธารน้ำแข็งเคลื่อนที่เร็วขึ้นเนื่องจากอิทธิพลจากมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น เมื่อธารน้ำแข็งเคลื่อนที่เร็วขึ้น ธารน้ำแข็งก็จะไหลเร็วขึ้น” ชัดลีย์กล่าว
นักวิจัยต่างต้องประหลาดเมื่อพบว่า รอยแตกของน้ำแข็งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่การศึกษาครั้งก่อนแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหลายทศวรรษ แต่ตอนนี้กลับเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 5 ปีเท่านั้น
งานวิจัยพบว่าความเร็วของการไหลของธารน้ำแข็งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อขนาดของรอยแตกบริเวณขอบของแผ่นน้ำแข็ง ซึ่งเป็นจุดที่ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่มาบรรจบกับทะเล มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในบางส่วนรอยแยกขยายใหญ่ขึ้นถึง 25%
แต่ขณะเดียวกัน ธารน้ำแข็งจาคอบส์ฮาวน์ ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ไหลเร็วที่สุดในกรีนแลนด์ กลับมีรอยแยกที่เล็กลง และเคลื่อนตัวช้าลงชั่วคราวในช่วงเวลาที่ทำการศึกษา ส่งผลให้ขนาดของรอยแยกที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดทั่วทั้งแผ่นน้ำแข็งในช่วงเวลาที่ทำการศึกษาสมดุลกันที่ 4.3% โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนบวก/ลบ 5.9%
อย่างไรก็ตาม ความเร็วของการไหลของธารน้ำแข็งจาคอบส์ฮาวน์เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง บ่งชี้ว่าช่วงเวลาแห่งความสมดุลระหว่างการเติบโตของรอยแยกและการยุบตัวของแผ่นน้ำแข็งได้สิ้นสุดลงแล้ว
เครดิตภาพ: REUTERS/Sarah Meyssonnier
การละลายของแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ เป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นประมาณ 14 มิลลิเมตร ตั้งแต่ปี 1992 แต่ในปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นและน้ำทะเลอุ่นขึ้น ยิ่งทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น
ในปี 2020 นักวิจัยคำนวณว่าแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์สูญเสียน้ำประมาณ 9,000 ล้านตันต่อชั่วโมงทุกปี แต่ในปัจจุบันกรีนแลนด์สูญเสียน้ำแข็งมากกว่านี้ อาจทำให้การละลายของแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 30 เซนติเมตร - 1 เมตร ภายในปี 2100 และหากแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ทั้งหมดละลาย น้ำทะเลอาจสูงขึ้นถึง 7 เมตร
การคำนวณการละลายของน้ำแข็งในแต่ละปีของกรีนแลนด์ยังต้องพิจารณาถึงปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น แบบจำลองแสดงให้เห็นว่าภูเขาน้ำแข็งจะระบายลงสู่มหาสมุทรโดยตรงน้อยลง เมื่อธารน้ำแข็งถอยร่นจากชายฝั่ง นั่นจะช่วยชะลอการละลายของภูเขาน้ำแข็งที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
แต่การละลายแบบเดียวกันนี้ ยังทำให้ขอบของแผ่นน้ำแข็งลาดชันขึ้นด้วย ซึ่งจะทำให้แผ่นน้ำแข็งลอยน้ำถอยกลับจากทะเลสู่พื้นดิน เมื่อภูเขาน้ำแข็งละลายและแตกตัวมากขึ้นที่ขอบด้านที่ต่ำ จะทำให้แผ่นน้ำแข็งส่วนที่เหลือสึกกร่อนและเกิดรอยแยกที่กว้างและลึกกว่าเดิม กลายเป็นวงจรย้อนกลับที่อาจเร่งการสลายตัวของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์
“เราเชื่อมั่นว่ารอยแยกที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่เร็วขึ้นของแผ่นน้ำแข็ง เรารู้มาหลายปีแล้วว่าแผ่นน้ำแข็งเคลื่อนที่เร็วขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 1990 และเราเข้าใจโดยทั่วไปว่าสิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับการอุ่นขึ้นของมหาสมุทร” ชัดลีย์กล่าว
นักวิจัยจะสร้างแบบจำลองที่มีความละเอียดสูงต่อไปจนถึงอย่างน้อยปี 2032 ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์และทั่วอาร์กติกที่กว้างใหญ่ได้ นักวิจัยกล่าวว่าพวกเขาหวังว่าผลการค้นพบของพวกเขาจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์พฤติกรรมในอนาคตของแผ่นน้ำแข็งได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณขั้วโลกที่ต้องเจอกับภาวะโลกร้อนในอัตราที่เร็วกว่าพื้นที่อื่น ๆ บนโลก
ที่มา: Independent, Inside Climate News, The National News, The Guardian
เครดิตภาพ: REUTERS/Sarah Meyssonnier