กองทุนของ ‘เจฟฟ์ เบซอส’ ตัดงบช่วยองค์กรสิ่งแวดล้อม หวังเอาใจทรัมป์

กองทุนของ ‘เจฟฟ์ เบซอส’ ตัดงบช่วยองค์กรสิ่งแวดล้อม หวังเอาใจทรัมป์

“Bezos Earth Fund” กองทุนการกุศลมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ของ “เจฟฟ์ เบซอส” เลิกสนับสนุนโครงการ Science Based Targets หรือ SBTi องค์กรระหว่างประเทศที่ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นความพยายาม “เอาใจ” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ 

KEY

POINTS

  • Bezos Earth Fund” กองทุนการกุศลของ “เจฟฟ์ เบซอส”  ยกเลิกการสนับสนุนองค์กรสิ่งแวดล้อม เพื่อ “เอาใจ” โดนัลด์ ทรัมป์
  • นักวิทยาศาสตร์ต่างเป็นกังวลกับคำสั่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ซึ่งไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และตัดเงินช่วยเหลือด้านวิกฤติสภาพภูมิอากาศ
  • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสภาพอากาศต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้ท่าทีของบริษัทเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

Bezos Earth Fund” กองทุนการกุศลมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ของ “เจฟฟ์ เบซอส” ผู้ก่อตั้งแอมะซอนและบลูออริจิน ยกเลิกการสนับสนุนโครงการ Science Based Targets หรือ SBTi องค์กรระหว่างประเทศที่ประเมินว่าบริษัทต่าง ๆ กำลังลดการปล่อยคาร์บอนตามข้อตกลงปารีสหรือไม่ ซึ่งถือเป็นความพยายาม “เอาใจ” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ 

Bezos Earth Fund เป็นหนึ่งในสองผู้ให้ทุนหลักของ SBTi ร่วมกับ Ikea Foundation ซึ่งทั้งเงินทุนที่ทั้ง 2 มูลนิธินี้คิดเป็น 61% ของเงินทุนทั้งหมดเมื่อปี 2024 โดยโฆษกของ Earth Fund และ SBTi กล่าวว่าเงินช่วยเหลือ 18 ล้านดอลลาร์ โดยมีระยะเวลาสัญญาเวลา 3 ปี และสิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคม 2024 

โฆษกของกองทุน Bezos Earth Fund กล่าวว่าที่ผ่านมากองทุนได้ให้เงินช่วยเหลือ SBTi เป็นเวลา 3 ปี และปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตและกลายเป็นองค์กรอิสระด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่จนถึงตอนนี้ SBTi ยังไม่ได้ร้องขอเงินทุนเพิ่มเติม ด้วยเหตุนี้กองทุนจึงยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับเงินทุนเพิ่มเติม 

ศ.โดรีน สตาบินสกี ซึ่งอยู่ในสภาเทคนิคของ SBTi กล่าวว่า “เมื่อคุณมองไปที่เบซอสและผู้คนที่เขาคบหาด้วยในชมรมมหาเศรษฐี คุณจะรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของ SBTi เพราะเบซอสกำลังก้มหัวให้ทรัมป์ เหมือนกับมหาเศรษฐีคนอื่น”

เบซอสและบรรดาผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่น ๆ เช่น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กแห่ง Meta ต่างรีบเร่งสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลทรัมป์ เนื่องจากบริษัทของพวกเขาต้องการผ่อนแรงกดดันจากกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ข้อตกลงทางธุรกิจ และเอไอ

แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อ เปิดเผยกับ Financial Times ว่า การหยุดให้เงินทุนกับ SBTi เพราะเบซอส ไม่ต้องการทำให้ทรัมป์ไม่พอใจ โดยแหล่งข่าวระบุว่า “ก่อนหน้านี้มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีได้ก่อตั้งมูลนิธิขึ้นเป็นประจำ และหลายคนก็สนใจเรื่องสภาพอากาศ แต่ตอนนี้สถานการณ์ในสหรัฐ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเปลี่ยนไปแล้ว”

นักวิทยาศาสตร์ต่างเป็นกังวลกับคำสั่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ซึ่งไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และตัดเงินช่วยเหลือด้านวิกฤติสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังลดระดับความสำคัญของปัญหาของ “ภาวะโลกร้อน” ลงอีก

ก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 6 แห่งของสหรัฐได้ถอนตัวออกจาก Net Zero Banking Alliance หรือ NZBA กลุ่มพันธมิตรธนาคารที่มีเป้าหมายปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ

เคลลี สโตน นักวิเคราะห์นโยบายอาวุโสของ ActionAid USA กล่าวว่า การตัดสินใจที่จะไม่สนับสนุนเงินทุนให้กับ SBTi อีกต่อไปเป็นเรื่องน่าผิดหวังมาก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเป็นพิเศษในตอนนี้ เพราะองค์กรเริ่มละทิ้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม

“เรากำลังเห็นการถอนตัวครั้งใหญ่จากคำมั่นสัญญาเรื่องสภาพอากาศเหล่านี้ จากองค์กรธุรกิจและสถาบันการเงินรายใหญ่”

ขณะที่ ปีเตอร์ ริกส์ กรรมการบริหารขององค์กรไม่แสวงหากำไร Pivot Point กังวลว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนสีเขียวโดยทั่วไปและการลงทุนด้านการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพราะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่ารัฐบาลของทรัมป์ไม่ให้ความสำคัญด้านพลังงานหมุนเวียนและแนวทางการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ตลอดจนการปล่อยคาร์บอนต่ำประเภทอื่น ๆ

นอกจากนี้ ศ.สตาบินสกี้ยังกล่าวว่า การตัดสินใจของเบซอสไม่เหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้เบซอสเคยห้ามไม่ให้คณะบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่เขาเป็นเจ้าของ แสดงจุดยืนสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

เมื่อเดือนเมษายน 2024 SBTi ได้ประกาศแผนการที่จะอนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ ใช้การชดเชยคาร์บอนจากตลาดคาร์บอนแบบสมัครใจสำหรับลดการปล่อยก๊าซทางอ้อม ซึ่งบางคนเชื่อว่าได้รับอิทธิพลจากกองทุนของเบซอส ซึ่งทำให้พนักงานในองค์กรไม่พอใจ เนื่องจากไม่ได้มีการปรึกษาหารือกันก่อน และเตือนว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้เกิด “การฟอกเขียว

ริกส์ให้ความเห็นว่า แผนการของ SBTi ที่เกิดขึ้นนี้น่าจะถูกแทรกแซงมาจากกองทุน Bezos Earth Fund หรือไม่ก็จากตัวเจฟฟ์ เบซอสเอง และอีกปัจจัยหนึ่งมาจากบรรยากาศทางการเมืองของสหรัฐเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่ให้ความสำคัญกับคำสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมมากนัก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสภาพอากาศต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อย ๆ กองทุน Bezos Earth Fund ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้วเพื่อช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ นักเคลื่อนไหว และองค์กรพัฒนาเอกชนค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาสภาพอากาศและธรรมชาติ แต่ตอนนี้ท่าทีของบริษัทเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปแล้ว 

จุดเปลี่ยนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อแอนดรูว์ สเตียร์ Andrew Steer ประธานกองทุน Bezos Earth Fund ประกาศก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้ากองทุนเมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. 2025 หลังจากทำงานมาเกือบ 4 ปี ตามลูอิซ อามารัล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBTi ลาออกเมื่อปีที่แล้ว หลังจากมีการคัดค้านปัญหาเครดิตคาร์บอนภายในองค์กรมาหลายเดือน 


ที่มา: BloombergFinancial TimesThe Guardia