นักวิจัยไทยไปแอนตาร์กติก วิจัยโลกร้อน ช็อก! หิมะตก พอถึงพื้นแล้วละลายทันที

นักวิจัยไทยไปแอนตาร์กติก วิจัยโลกร้อน ช็อก! หิมะตก พอถึงพื้นแล้วละลายทันที

ทีมนักวิจัยไทยถึงแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) พบน้ำแข็งละลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต เนื่องจากผลกระทบของโลกร้อน

KEY

POINTS

  • นักวิจัยไทยศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก
  • ปีนี้น้ำแข็งละลายมากกว่าปีก่อนๆ อย่างน่าตกใจ
  • ถึงแม้จะมีหิมะตก แต่เมื่อหิมะเหล่านั้นตกถึงพื้นก็จะละลายกลายเป็นน้ำ
  • อุณหภูมิบริเวณแอนตาร์กติกสูงขึ้นกว่าปกติ
  • วัดปริมาณของมลพิษต่างๆ รวมทั้งจุลินทรีย์ในมูล เพื่อดูว่าสัตว์เหล่านั้นได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนหรือไม่

แอนตาร์กติกาเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการวิจัยเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีความแตกต่างอย่างมากจากพื้นที่อื่นๆ บนโลก ทั้งยังมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่สูง

การละลายของน้ำแข็งในแอนตาร์กติกายังส่งผลกระทบต่อระดับน้ำทะเลทั่วโลก และนักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาเรื่องราวของสภาพภูมิอากาศในอดีตจากแกนน้ำแข็ง ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในอดีตและเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ทีมคณะสำรวจไทย ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เดินทางถึงสถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station) ที่แอนตาร์กติก และเริ่มเก็บตัวอย่างดินตะกอนเพื่อขยายผลศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก พบว่าปีนี้น้ำแข็งละลายมากกว่าปีก่อนๆ อย่างน่าตกใจ

ที่ผ่านมามีนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยของประเทศไทยได้เดินทางไปศึกษาและทำวิจัยในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ จำนวน 34 คน จำแนกเป็นพื้นที่ขั้วโลกใต้ จำนวน 19 คน และพื้นที่ขั้วโลกเหนือ จำนวน 15 คน โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นคนไทยคนแรกที่เสด็จเยือนทวีปแอนตาร์กติก เมื่อพฤศจิกายน 2536

นักวิจัยไทยไปแอนตาร์กติก วิจัยโลกร้อน ช็อก! หิมะตก พอถึงพื้นแล้วละลายทันที

สำหรับในปี 2568 จะมีนักวิจัยไทย จำนวน 3 คน และช่างภาพ 1 คน ร่วมเดินทางกับคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีน คณะที่ 41 (CHINARE 41) ของสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (PRIC) ได้แก่ 

ผศ.ดร. สุจารี บุรีกุล อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายนิพัธ ปิ่นประดับ ผู้ช่วยนักวิจัย ภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ศ.ดร. สุชนา ชวนิชย์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ และอาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เป็นหัวหน้าทีม) และนายภคินัย ยิ้มเจริญ ช่างภาพจากสยามโสภา

เก็บตัวอย่าง ศึกษาผลกระทบ

ทีมไทยเดินทางถึงแอนตาร์กติกเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเริ่มทำการเก็บตัวอย่างทันที เพื่อศึกษาผลกระทบของขยะทะเล ไมโครพลาสติก และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อสัตว์ทะเล และระบบนิเวศทางทะเลโดยช่วงสองวันที่ผ่านมาได้ทำการเก็บตัวอย่างดิน และมูลของแมวน้ำและเพนกวินรวมทั้งวัดมลพิษทางอากาศของที่บริเวณแอนตาร์ติกด้วย

แอนตาร์ติกอากาศยังบริสุทธิ์

จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่าน้ำแข็งในหลายๆ ที่ของบริเวณแอนตาร์ติกได้ละลายและหายไป เมื่อเทียบกับ 11 ปีที่แล้วที่คณะไทยได้เคยมาทำการสำรวจ ส่วนมลพิษทางอากาศค่าที่ตรวจวัดได้พบว่า ที่แอนตาร์ติกอากาศยังบริสุทธิ์มากเมื่อเทียบกับอากาศบริเวณส่วนอื่นๆ ของโลก

นักวิจัยไทยไปแอนตาร์กติก วิจัยโลกร้อน ช็อก! หิมะตก พอถึงพื้นแล้วละลายทันที

หิมะตกถึงพื้นละลายกลายเป็นน้ำ

ด้าน ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ และรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นไปตามความคาดหมายที่คิดว่าโลกร้อนน่าจะมีพบกระทบอย่างมากต่อน้ำแข็งและหิมะที่นี้

แต่ก็ต้องตกใจเช่นกัน ที่เห็นน้ำแข็งและหิมะหายไปในหลายๆ พื้นที่ นอกจากนี้ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ถึงแม้จะมีหิมะตก แต่เมื่อหิมะเหล่านั้นตกถึงพื้นก็จะละลายกลายเป็นน้ำ นั้นแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิบริเวณแอนตาร์กติกสูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้หิมะที่ตกมาละลายกลายเป็นน้ำทันที

ศ.ดร.สุชนา ยังกล่าวว่า หลังจากนี้ นักวิจัยก็จะเริ่มทำการเก็บตัวอย่างมูลของเพนกวิน และแมวน้ำ เพื่อมาวัดปริมาณของมลพิษต่างๆ รวมทั้งจุลินทรีย์ในมูล เพื่อดูว่าสัตว์เหล่านั้นได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนหรือไม่

นักวิจัยไทยไปแอนตาร์กติก วิจัยโลกร้อน ช็อก! หิมะตก พอถึงพื้นแล้วละลายทันที

การมาครั้งนี้นอกจากจะทำการวิจัยแล้ว จะมีการเก็บภาพและวิดิโอ เพื่อใช้ในการจัดทำหนังสือและสารคดีเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยขั้วโลกของไทย เนื่องในโอกาสปี 2568 นี้ เป็นปีมหามงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 70 พรรษา พร้อมทั้งเป็นการครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย