“Epson” ตอกย้ำองค์กรเพื่อความยั่งยืน เปิดนวัตกรรมการพิมพ์ รักษ์โลก

“Epson” ตอกย้ำองค์กรเพื่อความยั่งยืน เปิดนวัตกรรมการพิมพ์ รักษ์โลก

Epson ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Epson 25 Renewed ความยั่งยืนหลักสร้างธุรกิจ และพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต ตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นลบในปี 2050 เปิดตัว เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เพื่อธุรกิจครบทั้งไลน์ ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน

KEY

POINTS

  • "เอปสัน" ตั้งเป้าการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นลบและไม่มีการใช้ทรัพยากรใต้ดินให้ได้ภายในปี 2050 ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • พัฒนาเทคโนโลยี Heat-Free และโซลูชันรีไซเคิลกระดาษ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจของเอปสัน ลดการใช้พลังงานได้มากกว่า เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์น้อยลง และปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยกว่า
  • เทรนด์ของตลาดที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ล่าสุดเปิดตัว รุ่น AM-C400 ,รุ่น AM-C550 

Epson ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Epson 25 Renewed ความยั่งยืนหลักสร้างธุรกิจ และพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต ตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นลบในปี 2050 เปิดตัว เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เพื่อธุรกิจครบทั้งไลน์ ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน

ความยั่งยืน” กลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรในการทำธุรกิจในยุคนี้ เนื่องจากผู้บริโภค และหน่วยงานต่างๆ เริ่มใส่ใจในเรื่องนี้มากขึ้น ทำให้องค์กรไม่สามารถทำธุรกิจเพียงเพื่อแสวงหากำไรได้อีกต่อไป แต่ต้องมีนโยบาย กลยุทธ์ และกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนร่วมด้วย

เอปสัน (Epson) เดินหน้ากลยุทธ์ทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในหลายแง่มุม เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้า โดยเฉพาะกับกลุ่มเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์ให้ใช้พลังงานลดลง รวมถึงให้ทางเลือกลูกค้าในการนำเครื่องมาเปลี่ยนอะไหล่ หรือทำการ Refurbish เครื่องให้กลับมาใช้งานได้ในประสิทธิภาพใกล้เคียงเดิม

มร.จุนคิชิ โยชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เอปสันกำลังอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าทั่วโลก โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับวิสัยทัศน์ขององค์กร โดยใช้ชื่อว่า Epson 25 Renewed ซึ่งระบุถึงการร่วมสร้างความยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชุมชน ผ่านการเชื่อมโยงผู้คน สิ่งของ และข้อมูล

โดยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมอันแข็งแกร่งของเอปสัน ที่มีทั้งประสิทธิภาพ ขนาดกะทัดรัด และความแม่นยำ ผสานกับเทคโนโลยีดิจิทัล เอาไว้ด้วยกัน กุญแจสู่ความสำเร็จตามวิสัยทัศน์นี้ประกอบด้วยสิ่งแวดล้อม กระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) และกระบวนการร่วมคิดร่วมสร้าง โดยเอปสันให้ความสำคัญกับด้านการมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้ ซึ่งเป็นบ้านที่มีค่าที่สุดของพวกเราทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

‘เอปสัน’ ดันกลยุทธ์ ‘New 5’ ท้าทายตลาดเครื่องพิมพ์

ก้าวใหม่ ‘เอปสัน’ เปลี่ยนเกมธุรกิจ ดัน ‘อิงค์เจ็ท’ หนุนวิชั่นความยั่งยืน

พัฒนาผลิตภัณฑ์ องค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นลบ

เป้าหมายของเอปสันคือ การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นลบ และไม่มีการใช้ทรัพยากรใต้ดินให้ได้ภายในปี 2050 โดยจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และตลอดซัพพลายเชน รวมทั้งนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนเข้ามาใช้ และลงทุนกับกระบวนการใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย

  1. Decarbonization หรือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในโรงงานผลิตของเอปสันทั่วโลกภายในปี 2023
  2. การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าด้วย Closed Resource Loop หรือการใช้ทรัพยากรแบบวงปิด โดยลดขนาดและน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ เน้นใช้วัสดุรีไซเคิล และยืดอายุการใช้งาน
  3. การช่วยให้ลูกค้าลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ของเอปสันที่ถูกออกแบบให้กินไฟน้อยลง ลดจำนวนวัสดุสิ้นเปลืองและชิ้นส่วนประกอบ
  4. ด้วยการลดของเสียที่เกิดจากการใช้เครื่องพิมพ์ระบบอนาล็อก โดยหันมาใช้เครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัล ทั้งในสำนักงาน ในเชิงพาณิชย์ หรือระดับอุตสาหกรรม และบริษัท ลงทุนมากที่สุด ก็คือ การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม

“Epson” ตอกย้ำองค์กรเพื่อความยั่งยืน เปิดนวัตกรรมการพิมพ์ รักษ์โลก

เอปสันเดินหน้าสร้างความยั่งยืนธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

สำหรับแนวทางสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต เอปสันได้วางวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าองค์กรเป็นหลัก เอปสันจะไม่เพียงนำเสนอสินค้าหรือบริการที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่จะต้องสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ซึ่งเอปสันในฐานะผู้นำเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับโลก ได้นำเสนอเทคโนโลยี Heat-Free ที่เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไม่ใช้ความร้อน เพื่อช่วยลดการปลดปล่อยความร้อนรวมถึงก๊าซคาร์บอนฯ ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานในสำนักงานได้อีกด้วย

“จากผลการสำรวจต่อปริมาณการใช้พลังงานของสำนักงานทั่วไปพบว่าการใช้เครื่องพิมพ์นั้นบริโภคพลังงานมากเป็นอันดับ 4 รองจากเครื่องปรับอากาศ ไฟส่องสว่าง และคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการนำเทคโนโลยี Heat-Free ที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ได้มากถึง 85% จะช่วยให้องค์กรธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นอย่างมาก” มร.จุนคิชิ กล่าว

เอปสัน ได้ตัดสินใจยุติการจำหน่าย และกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ และหันไปทุ่มเทในการพัฒนาเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้มากกว่า ซึ่งในวันนี้ เอปสันมั่นใจในผลิตภัณฑ์ และบริการที่สามารถครอบคลุมความต้องการงานพิมพ์ในตลาดได้อย่างครบถ้วน

“Epson” ตอกย้ำองค์กรเพื่อความยั่งยืน เปิดนวัตกรรมการพิมพ์ รักษ์โลก

ยกระดับเทคโนโลยี ลดปล่อยก๊าซคาร์บอน

มร.ซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 1982 เอปสันได้ขยายเครือข่าย และศักยภาพทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาก ปัจจุบัน มีสำนักงานเปิดอยู่ใน 10 ประเทศ ภายใต้การดูแลของเอปสัน สิงคโปร์ ทั้งยังมีศูนย์โซลูชัน 6 แห่ง และโรงงานผลิต 7 แห่ง ในด้านการดำเนินนโยบายเชิงสิ่งแวดล้อม

นอกจากวิสัยทัศน์ในการเป็นองค์กรที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นลบ และปราศจากการใช้ทรัพยากรจากใต้ดินภายในปี 2050 แล้ว บริษัทยังมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ลงเพื่อให้สอดคล้องกับการรณรงค์จำกัดการเพิ่มอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2030 อีกทั้งบริษัทยังได้ให้การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติด้วยเช่นกัน

“วิสัยทัศน์สู่อนาคตที่ยั่งยืนตามที่กล่าวมายังมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเทคโนโลยี Heat-Free และโซลูชันรีไซเคิลกระดาษ ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจของเอปสันที่เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์แล้ว สามารถลดการใช้พลังงานได้มากกว่า จึงเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้กับลูกค้า ทั้งยังมีชิ้นส่วนประกอบภายในเครื่องน้อยกว่า ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์น้อยลง และปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยกว่า

“Epson” ตอกย้ำองค์กรเพื่อความยั่งยืน เปิดนวัตกรรมการพิมพ์ รักษ์โลก

ในขณะที่ PaperLab ของเอปสัน ก็เป็นระบบผลิตกระดาษแบบแห้งระบบแรกของโลก ที่เปลี่ยนกระดาษใช้แล้วให้เป็นกระดาษใหม่ด้วยเทคโนโลยี Dry Fiber ของเอปสัน เป็นโซลูชันแบบออนดีมานด์ที่ทำให้บริษัทธุรกิจลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยการรีไซเคิลกระดาษที่ใช้ในสำนักงาน

“เอปสันจึงขอประกาศยุติการจำหน่าย และกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในสิ้นเดือนธันวาคมปี 2023 และจะมุ่งมั่นกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบหัวพิมพ์ Heat-Free และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนจากนี้ไป และในวันนี้ บริษัทยังจะเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ในกลุ่มเครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจ ที่จะช่วยเพิ่มทางเลือกสำหรับการพิมพ์คุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงาน และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจอีกด้วย” มร.ซิ่ว จิน เกียด กล่าว

เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท นวัตกรรมความยั่งยืน

ด้าน นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของเอปสันที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Free ได้รับความนิยมอย่างมากจากทุกตลาดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ จนครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทมากเป็นอันดับหนึ่งในปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของตลาดที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย

ในส่วนของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจของเอปสันมีสินค้าหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ระดับความเร็ว 24 หน้าต่อนาที ไปจนถึง 100 หน้าต่อนาที ทั้งแบบขาวดำและสี สำหรับ Epson WorkForce Enterprise AM-Series ที่เปิดตัวในวันนี้ เป็นเครื่องระดับกลาง ความเร็วขนาด 40-60 หน้าต่อนาที เหมาะกับสำนักงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณการพิมพ์ต่อเดือนประมาณ 10,000-20,000 แผ่น ซึ่งการเปิดตัวในวันนี้ ทำให้เอปสันสามารถครอบคลุมความต้องการใช้งานขององค์กรธุรกิจได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจ Epson WorkForce Enterprise AM-Series รุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วย รุ่น AM-C4000 ที่พิมพ์เร็ว 40 หน้าต่อนาที รุ่น AM-C5000 ที่พิมพ์เร็ว 50 หน้าต่อนาที และรุ่น AM-C6000 ที่พิมพ์เร็ว 60 หน้าต่อนาที ซึ่งทั้งหมดเป็นเครื่องมัลติฟังก์ชันแบบ 4 สี รองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่สุดได้ถึง A3

โดยเครื่องพิมพ์ทั้ง 3 รุ่น ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Heat-Free ซึ่งไม่ใช้ความร้อน ใช้พลังงานต่ำ และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ รวมถึงใช้วัสดุสิ้นเปลืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์

นอกจากนี้ยังถูกออกแบบระบบภายในให้สามารถใช้งานและบำรุงรักษาง่าย เพราะมีชิ้นส่วนอะไหล่ที่ต้องดูแลรักษาน้อย ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงมีการออกแบบหน้าจอการใช้งาน (User Interface) แบบใหม่ และยังรองรับการตรวจสอบและบำรุงรักษาจากระยะไกลผ่าน Epson Remote Services (ERS) หรือระบบจัดการอุปกรณ์ผ่านระบบคลาวด์ของเอปสันอีกด้วย

นายยรรยง กล่าวเสริมว่า บริษัทจะเน้นการทำตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่าย ทั้งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าไอที และผู้จำหน่ายหลากหลายหมวดสินค้า อีกทั้งจะขยายช่องทาง ไปยังกลุ่ม Office Automation ที่จำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน

“Epson WorkForce Enterprise AM-Series ทั้ง 3 รุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ จะทำให้ไลน์สินค้าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจของเอปสันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งเครื่องพิมพ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบใหม่ตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของเอปสันในการที่จะก้าวต่อไปด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์อิงค์เจ็ท ที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรของลูกค้าเอปสันได้ดีกว่า ด้วยความความเร็วและคุณภาพงานพิมพ์ และความคุ้มค่าในการลงทุน”

เปิดตัวเครื่องพิมพ์ล่าสุด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบไฮบริด

จากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ของเอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้มีหน้าที่ตัดสินใจซื้ออุปกรณ์สำนักงาน และผู้ใช้อุปกรณ์โดยตรง จำนวน 1,500 คนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าผู้ตอบแบบ สอบถามครึ่งหนึ่ง (50%) ต้องการให้สำนักงานมีเครื่องพิมพ์ที่สามารถตอบสนองด้านความยั่งยืนมากขึ้น โดยผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 3 ใน 5 ระบุว่าประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อเครื่องพิมพ์เมื่อพิจารณาถึงเรื่องการพิมพ์ที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ 79% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีความเห็นว่าเครื่อง พิมพ์ที่มีขนาดกะทัดรัดมีความสำคัญสำหรับการพิมพ์ภายในสำนักงาน

ล่าสุด ทางเอปสัน ได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจ Epson WorkForce Enterprise AM-Series รุ่นใหม่ 2 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย AM-C400 และ AM-C550 ที่พิมพ์เร็ว 40 และ 55 หน้าต่อนาทีตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ด้านเดียวหรือ 2 ด้าน พร้อมออกแบบทางเดินกระดาษแบบใหม่ C-Shaped ที่สั้นกว่าเดิม ทำให้จัดการเรื่องกระดาษติดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด เพียง 465 x 570 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงเป็นรุ่นที่ประหยัดพื้นที่ในการวางเครื่องมากที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์ที่มีความเร็วการพิมพ์ในการระดับเดียวกัน AM-C400 และ AM-C550 จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสำนักงานขนาดเล็ก หรือวางในบริเวณที่ต้องต้อนรับลูกค้า

“Epson” ตอกย้ำองค์กรเพื่อความยั่งยืน เปิดนวัตกรรมการพิมพ์ รักษ์โลก

โดย AM-C400 และ AM-C550 จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างราบรื่น และมั่นใจในความปลอดภัยของของข้อมูลด้วย Epson Solution Suite โซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และขั้นตอนการทำงานในสำนักงานให้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมชุดรักษาความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติหลากหลายในการเข้ารหัสข้อมูลพร้อมด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการจากระยะไกล ตัวเลือกการพิมพ์ที่กำหนดได้เอง และรองรับการใช้งานได้หลากหลาย AM-C400 และ AM-C550 ยังมีโซลูชันสำหรับบริหารงานเอกสารที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ขั้นตอนการสแกนเอกสาร ทำให้สแกนเอกสารได้ง่ายขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ จึงลดขั้นตอนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้เครื่องพิมพ์ Epson WorkForce Enterprise AM-Series ยังมาพร้อม Heat-Free เทคโนโลยีการพิมพ์ที่ไม่ใช้ความร้อนลิขสิทธิ์เฉพาะของเอปสัน ด้วยใช้การพ่นน้ำหมึกลงบนกระดาษโดยตรงไม่ต้องใช้ความร้อนใดซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์แล้ว จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าถึง 85% ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 85% และมีชิ้นส่วน และวัสดุสิ้นเปลืองน้อยกว่า 59% ทั้งยังไม่เกิดความร้อนจากกระบวนการพิมพ์ซึ่งจะทำลายหัวพิมพ์

เทคโนโลยี Heat-Free จะช่วยประหยัดเวลาด้วยการพิมพ์ความเร็วสูงอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องรอวอร์มเครื่องพิมพ์ สามารถเริ่มพิมพ์งานได้ทันที จึงพิมพ์งานได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ทั้งยังให้งานพิมพ์ที่คมชัด มีความละเอียดสูง ไม่ต่างจากเครื่องพิมพ์เลเซอร์ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ส่งเสริมความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ฟีเจอร์การติดตามการใช้พลังงานของเครื่อง หรือไอคอนใบไม้สีเขียวบนหน้าจอที่คอยเตือนให้ผู้ใช้เลือกการสั่งพิมพ์บนทั้ง 2 ด้านของกระดาษเพราะจะช่วยประหยัดกระดาษ เป็นต้น

ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทย จะเริ่มวางจำหน่าย Epson WorkForce Enterprise AM-C400 และ AM-C550  ในเดือนมิถุนายน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์