ค้นพบ ‘อนาคอนดา’ สายพันธุ์ใหม่ ใน ‘แอมะซอน’ กลายเป็นงูใหญ่-หนักที่สุดในโลก

ค้นพบ ‘อนาคอนดา’ สายพันธุ์ใหม่  ใน ‘แอมะซอน’ กลายเป็นงูใหญ่-หนักที่สุดในโลก

สุดทึ่ง! งูสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่งถูกค้นพบใน “ป่าแอมะซอน” ระหว่างการถ่ายทำซีรีส์ใหม่ของ “National Geographic”

KEY

POINTS

  • นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ “งูอนาคอนดา” สายพันธุ์ใหม่ “ป่าแอมะซอน” กลายเป็นงูที่ใหญ่และหนักที่สุดในโลก ระหว่างถ่ายทำสารคดี
  • “Eunectes akayima” เป็นงูอนาดคอนดาเขียวที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำทางตอนเหนือของป่าแอมะซอน โดยมีความแตกต่างทางพันธุกรรมกับงูอนาคอนดาเขียวที่รู้จักกันโดยทั่วไป 5.5% 
  • อนาคอนดาและพื้นที่ป่าแอมะซอนกำลังถูกคุกคามจากการทำการเกษตรเชิงอุตสาหกรรม ไฟป่า ความแห้งแล้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงมลพิษจากโลหะหนักที่มาจากการรั่วไหลของอุตสาหกรรมปิโตเคมี

สุดทึ่ง! งูสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่งถูกค้นพบใน “ป่าแอมะซอน” ระหว่างการถ่ายทำซีรีส์ใหม่ของ “National Geographic”

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ “งูอนาคอนดายักษ์” สายพันธุ์ที่ไม่เคยมีการบันทึกมาก่อนใน “ป่าแอมะซอน” เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดยาวถึง 7.5 เมตร และหนักเกือบ 500 กิโลกรัม ทำให้กลายเป็นงูที่ใหญ่และหนักที่สุดที่โลกรู้จัก

จนถึงขณะนี้ มีการรู้จัก อนาคอนดา สี่สายพันธุ์ โดยชนิดที่ใหญ่ที่สุดคือ “อนาคอนดาเขียว” ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตร้อนของอเมริกาใต้ ตามแม่น้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำของอเมริกาใต้ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเร็วดุจสายฟ้า และมีแรงบีบอัดมหาศาลในการรัดเหยื่อ

นักวิจัยรู้ว่าอนาคอนดาเขียวมีพันธุกรรมที่แตกต่างกันอยู่ 2 สายพันธุ์มาหลายทศวรรษแล้ว แต่ยังไม่สามารถจำแนกพวกมันออกได้ จนกระทั่งมีการถ่ายทำสารคดีเรื่อง “Pole to Pole with Will Smith” ของ “National Geographic” ที่จะออกฉายทาง “Disney+” ซึ่งคณะวิจัยได้ทำงานร่วมกับชนเผ่าพื้นเมืองวาโอรานี ทำการศึกษาอนาคอนดาเขียวหลายตัว ในภูมิภาคบาเมโน เขตไบฮัวเอรี วาโอรานี ประเทศเอกวาดอร์

จากการวิจัยและศึกษางูอนาคอนดาเขียวเหล่านี้พบว่า งูเหล่านี้มีความแตกต่างทางพันธุกรรมกับงูอนาคอนดาเขียวที่รู้กันโดยทั่วไปถึง 5.5% (ซึ่งมากกว่าความแตกต่างทางพันธุกรรมของลิงชิมแปนซีกับมนุษย์ที่เพียง 2% เท่านั้น) โดยตั้งชื่องูสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า “Eunectes akayima

ป่าแอมะซอนมีลุ่มน้ำแยกจากกัน 2 แห่ง คือ ลุ่มน้ำน้ำขนาดใหญ่ทางตอนใต้ อยู่บริเวณบราซิล โบลิเวีย เปรู และบางส่วนของเฟรนช์เกียนาเป็น ที่อยู่อนาคอนดาสีเขียว ที่รู้จักกันอย่างดี ส่วนอนาคอนดาสายพันธุ์ใหม่นี้อยู่ทางลุ่มน้ำทางตอนเหนือ ที่ครอบคลุมพื้นที่ประเทศโคลัมเบีย เอกวาดอร์ กายอานา ซูรินาเม ตรินิแดด เวเนซุเอลา และบางส่วนของเฟรนช์เกียนา ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าทางตอนใต้

“สิ่งมีชีวิตเหล่านี้น่าทึ่งมาก เราเจออนาคอนดาตัวเมียมีความยาวถึง 6.3 เมตร มีชาวเผ่าวาโอรานีและเผ่าอื่น ๆ ประกาศว่าเจออนาคอนดาที่มีความยาวมากกว่า 7.5 เมตร และหนักประมาณ 500 กิโลกรัม” ดร.ไบรอัน ฟราย ผู้ร่วมวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ กล่าวในแถลงการณ์ 

ดร.ฟราย ระบุว่าการค้นพบนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญใน การอนุรักษ์อนาคอนดา สัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารและมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลระบบนิเวศในป่าแอมะซอน หากมีอนาคอนดาที่มีสุขภาพดีอยู่ในพื้นที่ป่า แสดงว่าป่านั้นอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งน้ำสะอาด และมีอาหารที่เพียงพอ แต่ถ้างูมีจำนวนลดลงอาจบ่งบอกถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม

“ในตอนนี้เราต้องหาวิธีการอนุรักษ์อนาคอนดากันใหม่ เพื่อให้แต่ละสายพันธุ์สามารถรับมือกับภัยคุกคามต่าง ๆ ได้อย่างดีตามลักษณะเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์ อีกทั้งการค้นพบนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการทำความเข้าใจความหลากหลายของสัตว์และพันธุ์พืชของโลกให้ดียิ่งขึ้น ก่อนที่จะสายเกินไป” 

ทั้งอนาคอนดาและพื้นที่ป่าแอมะซอนกำลังถูกคุกคามจากการทำการเกษตรเชิงอุตสาหกรรม ไฟป่า ความแห้งแล้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงมลพิษจากโลหะหนักที่มาจากการรั่วไหลของอุตสาหกรรมปิโตเคมี

“การสำรวจในอนาคตของเราจะมุ่งเน้นไปที่การรวบรวมและวิเคราะห์ตัวอย่างดิน น้ำ และทางชีวภาพ เพื่อติดตามผลกระทบและทำความเข้าใจว่าโลหะหนักจะส่งผลกระทบต่อระบบต่อมไร้ท่อในสัตว์ป่าอย่างไร พร้อมหาทางป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากการสัมผัสการปนเปื้อน” ดร.ฟรายกล่าว

การค้นพบอนาคอนดาสายพันธุ์ใหม่ในครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการแสดงถึงความซับซ้อนในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และแสดงให้เห็นว่าในป่าอันกว้างใหญ่ยังมีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากรอให้ค้นพบและอนุรักษ์ เพราะเมื่อเราไม่รู้จัก สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอาจจะไม่รับการอนุรักษ์อย่างเหมาะสม และสูญพันธุ์ไปโดยที่ยังไม่ได้รู้จักสิ่งเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ

 

ที่มา: IndependentThe ConversationUSA Today