‘โอสถสภา’ หนึ่งเดียวเครื่องดื่มโลกคว้า Industry Mover ด้านความยั่งยืน

‘โอสถสภา’ หนึ่งเดียวเครื่องดื่มโลกคว้า Industry Mover ด้านความยั่งยืน

โอสถสภา ผู้นำเครื่องดื่มชูกำลังเมืองไทย ติดทำเนียบความยั่งยืนระดับโลก 2 รายการ สร้างผลงานการขับเคลื่อนธุรกิจมุ่งสู่ความยั่งยืนจนอยู่ใน S&P Global Sustainability Yearbook 2024 และเป็นเพียงบริษัทเครื่องดื่มเดียวของโลกที่พัฒนาความยั่งยืนก้าวกระโดดคว้า Industry Mover

นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โอสถสภาให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือหลัก ESG อย่างมาก โดยมีการกำหนดกลยุทธ์ในการสร้างผลเชิงบวกให้เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม(Environment) สังคม(Social) และการมีธรรมาภิบาล(Governance) ซึ่งจากความมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้บริษัทสามารถเข้าไปอยู่ในรายงาน S&P Global Sustainability Yearbook 2024 ได้ ที่สำคัญโอสถสภายังเป็นเพียงบริษัทเดียวที่รับการยกย่องให้เป็น Industry Mover หรือบริษัทที่มีพัฒนาด้านความยั่งยืนอย่างโดดเด่น และก้าวกระโดดที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั่วโลก

สำหรับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของ S&P Global Sustainability Yearbook 2024 จะต้องมีผลงานด้านความยั่งยืนเป็นที่ประจักษ์อยู่ในอันดับต้นของกลุ่มอุตสาหกรรมหรือภายใน 15% แรก โดยมีเพียง 13 บริษัท จากทั้งสิ้น 81 บริษัทเครื่องดื่มที่ได้รับการประเมินคะแนน S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) Score ซึ่งปี 2566 โอสถสภาทำคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โอสถสภาวางโรดแมป และกำหนดกลยุทธ์เพื่อสานเป้าหมายความยั่งยืน ประกอบด้วย 1.ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มุ่งใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย 100% ของบรรจุภัณฑ์จะต้องนำไปรีไซเคิล ใช้ซ้ำหรือย่อยสลายได้ภายในปี พ.ศ.2573 การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วางเป้าหมายลดปริมาณการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลดลง 40% จัดทำโครงการ “ส่งขวดแก้วสู่ขวดแก้ว” หรือ “Bottle to Bottle” เพื่อเป้าหมายการเก็บบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วกลับคืนเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้ได้อย่างน้อย 280,000 ตัน ภายในปี 2568 การมุ่งลดปริมาณพลังงานที่ใช้ในโรงงาน 10% และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต 15% พร้อมตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 30% ภายในปี พ.ศ.2573 เป็นต้น

‘โอสถสภา’ หนึ่งเดียวเครื่องดื่มโลกคว้า Industry Mover ด้านความยั่งยืน

2.ด้านสังคมมุ่งยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค และตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ โดยผลิตภัณฑ์ 100% ของพอร์ตโฟลิโอมีการลดน้ำตาลลง 50% เช่น เอ็ม-150 Sparkling ไม่มีน้ำตาล เครื่องดื่มชูกำลังเอ็ม-150 รสกระชายดำผสมน้ำผึ้งมีน้ำตาล 14 กรัม ลูกอมสูตรปราศจากน้ำตาลฯ และ 3.ด้านธรรมาภิบาล มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือ โปรดักต์ อินโนเวชั่น การบริหารจัดการบุคลากร เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันในการก้าวสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือ Carbon Neutrality ภายในปี พ.ศ.2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ.2608 เป็นต้น

 “บริษัทที่เข้าไปเป็นสมาชิก S&P Global Sustainability Yearbook 2024 ได้ จะต้องผ่านเกณฑ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดดเด่น และมีมาตรฐานสากล ซึ่งโอสถสภาเราได้วางโรดแมป กำหนดกลยุทธ์ขับเคลื่อนความยั่งยืนทุกมิติครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และภายใต้กรอบการมีธรรมาภิบาล”

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของโอสถสภาคือ การได้เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับการยกให้เป็น Industry Mover ซึ่งมีการพัฒนาทางด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั่วโลก ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มหมวดเดียวกัน

“โอสถสภามีวิสัยทัศน์ และพันธกิจในการเป็นพลังเพื่อเสริมสร้างชีวิตให้กับผู้บริโภค มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบสนองความต้องการของผู้คน องค์กรของเรายังยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด และการติดทำเนียบระดับโลกถึง 2 รายการ ทั้งการเป็นสมาชิก S&P Global Sustainability Yearbook 2024 และการเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ถูกยกให้เป็น Industry Mover ถือเป็นความภาคภูมิใจ และตอกย้ำถึงความตั้งใจในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์