‘ธุรกิจสกี’ หากิจกรรมทดแทน เพื่อความอยู่รอด ในวันที่ ‘หิมะ’ ตกน้อยเกินไป

‘ธุรกิจสกี’ หากิจกรรมทดแทน เพื่อความอยู่รอด ในวันที่ ‘หิมะ’ ตกน้อยเกินไป

“ธุรกิจสกี” ทั่วโลกตกที่นั่งลำบาก หลังอุณหภูมิโลกสูงขึ้น จนทำให้ “หิมะ” ตกน้อยเกินไป ไม่สามารถดำเนินกิจการได้เหมือนเดิม เร่งสร้าง “หิมะเทียม” เพิ่มกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมออกโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ หวังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการได้ตลอดปี

อุณหภูมิโลกกำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ปริมาณหิมะที่ตกลงมาก็ลดน้อยลง สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปทำให้อุตสาหกรรมสกีที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต้องหาทางปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

เส้นทางการเดินทางไกลริมทะเลสาบทาโฮ ในสหรัฐ หนึ่งในเส้นทางการเดินเทรลยอดนิยม ตอนนี้กำลังปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ซึ่งเพิ่งกลับมาเปิดให้บริการแก่นักเล่นสกีได้อีกครั้ง หลังจากที่ต้องปิดมานานเพราะไม่มีหิมะตก ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงพีคที่สุดของการท่องเที่ยว (ปลายเดือนพ.ย.-ต้นเดือนเม.ย.) 

  • หิมะตกน้อยเกินไป

ความไม่แน่นอนทางธรรมชาติและภาวะโลกร้อนทำให้ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของกิจการรีสอร์ตและลานสกีรายใหญ่ของสหรัฐอย่าง Vail Resorts และ Alterra ต้องหากิจกรรมอย่างอื่นมาทดแทน เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมาพักที่รีสอร์ตได้ทั้งปี ด้วยการปรับให้เป็นสนามเด็กเล่นบนภูเขา เพิ่มกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ที่ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งหิมะเพียงอย่างเดียว

“เรากำลังสร้างสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเพื่อขยายฤดูท่องเที่ยว ทั้งกิจกรรมเดินป่า ปีนเชือก ปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือตั้งแคมป์กับครอบครัวได้ ทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้รีสอร์ตกลายเป็นเพียงเมืองร้างในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว” ดาร์ชี เร็นน์ รองประธานฝ่ายความยั่งยืนของ Alterra กล่าว 

เร็นน์กล่าวเสริมว่า Alterra ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจสกี แต่ก็กำลังปรับเปลี่ยนให้บริษัทเป็นธุรกิจรีสอร์ตบนภูเขา

ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวสกีในยุโรปจะไม่ได้รวมอยู่ในบริษัทเดียวอย่างในสหรัฐ แต่จะแยกออกเป็นธุรกิจที่พัก ร้านอาหาร และลานสกี แต่สิ่งที่ธุรกิจการเล่นสกีทั้งในสหรัฐและยุโรปกำลังเจอเหมือนกัน ก็คือ ปริมาณหิมะที่ลดลง ทำให้ต้องเพิ่มกิจกรรมฤดูร้อน เช่น การเดินป่าและปั่นจักรยานเสือภูเขา รวมถึงการสร้างพื้นที่เล่นสำหรับเด็กที่ใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศแบบภูเขา

 

  • สร้างหิมะเทียม

Monte Cimone ผู้ในบริการลิฟต์สำหรับรีสอร์ตสกีรายใหญ่ของอิตาลี ได้ทุ่มเงินมหาศาลไปกับอุปกรณ์ทำหิมะ โดยได้ผลิต “ดินปืน” สำหรับการสร้างหิมะเทียมเพื่อช่วยให้สามารถเล่นสกีได้นานขึ้น ข้อมูลจากสมาคมเคเบิลเวย์แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นองค์กรของผู้ให้บริการการขนส่งผ่านทางสายเคเบิล เช่น กระเช้าขึ้นเขา ลิฟต์ พบว่า 90% ของลานหิมะในอิตาลีเป็นหิมะเทียมซึ่งสูงกว่าสวิตเซอร์แลนด์ที่มี 54% และ 40% ของฝรั่งเศส

แม้จะมีความพยายามจะทำให้ธุรกิจสกีไปรอด แต่เหล่าผู้ประกอบการรีสอร์ตสกีบนเทือกเขาแอเพนไนน์ ยังรู้สึกกดดันกับสถานการณ์โลกร้อน “แม้ปีนี้จะไม่ได้ดีมาก แต่ก็ยังทำธุรกิจได้ดีกว่าปีที่แล้ว” วาเลเรีย เกซซี ประธานของ Anef สมาคมผู้ให้บริการลิฟต์สกีของอิตาลี

รีสอร์ตในสหรัฐก็ต้องสร้างหิมะขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดยแจ็คสันโฮล เมาธ์เทนรีสอร์ต หรือ JHMR สถานที่พักผ่อนในไวโอมิง เพิ่มเงินลงทุนอย่างหนักในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเพื่อสร้างหิมะเทียมให้ได้มากที่สุด ซึ่งในตอนนี้รีสอร์ตได้สร้างหิมะได้ประมาณหนึ่งในสามของเส้นทางเดินทางไกลแล้ว

อย่างไรก็ตาม JHMR จำเป็นต้องยกเลิกการแข่งขันสกีและสโนว์บอร์ดผาดโผนประจำปี  ที่จัดขึ้นเป็นประเพณีบริเวณรางน้ำแคบและชันบนยอดเขาที่เรียกว่า Corbet's Couloir ในเดือนม.ค.ของทุกปี เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวไม่มีหิมะหนาเพียงพอในการดำเนินกิจกรรม

“มันเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมสกี” แอนดรูว์ เวย์ โฆษกของ JHMR กล่าว

 

  • ลดราคาเรียกนักท่องเที่ยว

แม้จะมีความท้าทายด้านสภาพอากาศ ตามข้อมูลของสมาคมพื้นที่เล่นสกีแห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า ระหว่างปี 2565-2566 มีนักสกี นักสโนว์บอร์ด และนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสกีถึง 65.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.6% จากฤดูกาลที่แล้ว

ทั้ง Vail และ Alterra จัดดีลส่งเสริมการขายด้วยบัตรราคาส่วนลดเข้าใช้ลานสกีทั้งหมดในเครือทั้ง 41 แห่งทั่วสหรัฐ ยุโรปและออสเตรเลียตลอดปี  เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ มีรายได้และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหิมะจะน้อยจนเล่นสกีไม่ได้ก็ตาม ซึ่งโปรโมชั่นนี้ก็ได้การตอบรับอย่างดี มีนักท่องเที่ยว 2.4 ล้านคนซื้อบัตรนี้ 

โฆษกของ Vail กล่าวว่าโปรโมชั่นนี้เป็นการเปลี่ยนไดนามิกการท่องเที่ยว เพื่อเอาชนะการควบคุมของสภาพอากาศ ขณะที่ตัวแทนของ Alterra กล่าวเสริมว่า “เราสามารถมั่นใจว่าจะมีรายได้ช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาอีกหน่อยว่าจะมีคนมาอยู่ที่รีสอร์ตของเราที่ไหนสักแห่ง”

 

  • อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทสกีในสหรัฐกำลังขยายธุรกิจด้วยการซื้อธุรกิจในยุโรป เพื่อหวังจะทำรายได้เพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่ายุโรปก็ไม่ได้จะมีอากาศที่ดีไปสหรัฐ ศูนย์วิจัยระบบนิเวศอัลไพน์ประเมินว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในภูมิภาคอัลไพน์เพิ่มขึ้นเกือบ 2 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งสูงกว่าตัวเลขทั่วโลกในระยะยาวอย่างน้อย 1.1 องศาเซลเซียส

บริษัทสกีบางแห่งในสหรัฐ ยอมรับว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้สร้างหิมะเทียมได้ยากขึ้น

ออเดน เชนด์เลอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายความยั่งยืนของ Aspen Snowmass ธุรกิจสกีรีสอร์ตในโคโลราโด กล่าวว่า บริษัทต้องการให้ออกกฎหมายรักษาสภาพภูมิอากาศ เช่น ระบอบภาษีคาร์บอน ด้วยการวางเอกสารคำร้องให้รัฐบาลดำเนินการลดโลกร้อนไว้ในห้องพักของโรงแรมทุกห้อง เพราะการรักษาอุณหภูมิของโลกให้คงที่ไม่ได้ทำได้ด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน


ที่มา: Financial Times