ชุดชั้นในเก่า ย่อยสลาย 400 ปี อย่าทิ้งรวม ต้องส่งรีไซเคิลผ่าน Sabina - Wacoal

ชุดชั้นในเก่า ย่อยสลาย 400 ปี อย่าทิ้งรวม ต้องส่งรีไซเคิลผ่าน Sabina - Wacoal

“ชุดชั้นใน” นอกจากจะเป็นสินค้าจำเป็นแล้ว ยังมีอายุการใช้งานจำกัด ทำให้ต้องซื้อเปลี่ยนอยู่ตลอด จึงกลายเป็นขยะที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญหากกำจัดไม่ดีก็จะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมได้

Key Points:

  • “ชุดชั้นในเก่า” ถือเป็นขยะที่ไม่เหมาะในการกำจัดด้วยวิธีฝังกลบหรือเผาในที่โล่ง เนื่องจากมีวัสดุที่ทำมาจาก “เส้นใยสังเคราะห์” ทำให้ย่อยสลายได้ยาก และไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการส่งไป “รีไซเคิล” จึงเป็นทางออกที่ดี
  • “โละแล้วไปไหน (New Life BRA CYCLE)” โครงการจาก “Sabina” รับชุดชั้นในเก่าเสื่อมสภาพมาเข้าสู่กระบวนการกำจัดอย่างถูกวิธีโดยการเผาทำลายผ่านระบบปิด แปรรูปมาใช้เป็นพลังงานความร้อนกลับมาใช้ใหม่
  • “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” โครงการของ “Wacoal” นำชุดชั้นในเก่าที่ได้มาไปเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง เพื่อใช้แทนถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้าในระบบปิด

หลายคนอาจจะเคยมีคำถามในใจว่าชุดชั้นในตัวเก่าที่สภาพแย่จนแทบจะดูไม่ได้ ถ้านำไปบริจาคก็คงดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่จะเก็บเอาไว้ก็รกบ้าน ดังนั้นจะ “ทิ้ง” อย่างไรให้เหมาะสมและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งข้อมูลจาก green matters ระบุว่า ประมาณ 85% ของสิ่งทอที่ผลิตในสหรัฐต้องถูกฝังกลบเป็นประจำทุกปี ในที่นี้แน่นอนว่าหมายถึง “ชุดชั้นใน” ด้วย เนื่องจากคนบางกลุ่มรู้สึกไม่สบายใจที่จะส่งต่อของใช้ส่วนตัวให้ผู้อื่นใช้ต่อเลยตัดสินใจทิ้งพวกมันแทน

สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนกังวลถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจตามมาจากการทิ้งชุดชั้นในก็เพราะส่วนมากแล้วพวกมันมักทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ รวมถึงส่วนประกอบหลายอย่างจากวัสดุที่แตกต่างกันทำให้อาจใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลายทางชีวภาพอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นการหาวิธีกำจัดชุดชั้นในที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ด้านข้อมูลจาก third love ระบุว่า จากการประมาณตัวเลขเสื้อในที่ถูกนำกลับมารีไซเคิลแค่เพียง 15% เท่านั้น หมายความว่าเสื้อในที่เหลือถูกทิ้งโดยผิดวิธี และอาจสร้างผลเสียให้กับสิ่งแวดล้อม เพราะเสื้อในส่วนมากที่ไม่ได้ถูกนำไปบริจาคมักถูกทิ้งด้วยการฝังกลบ

อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ชุดชั้นใน” กลายเป็นขยะได้เร็วกว่าเสื้อผ้าประเภทอื่นก็คือ พวกมันมีอายุการใช้งานแค่เพียง 6-8 เดือนเท่านั้น เนื่องจากวัสดุที่นำมาใช้จะเสื่อมสภาพลงไปตามเวลา ทำให้ต้องหาซื้อมาเปลี่ยนใหม่อยู่ตลอด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกมันจะกลายเป็นขยะได้ในเวลาเพียงไม่นาน

ดังนั้นถ้าไม่อยากทิ้งไปเฉยๆ หรือไม่อยากเอาไปบริจาค ก็สามารถส่งชุดชั้นในตัวเก่าไปเปลี่ยนให้เป็นพลังงานสะอาดกับโครงการ “โละแล้วไปไหน (New Life BRA CYCLE)” จาก Sabina หรือ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” จาก Wacoal ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

  • โละแล้วไปไหน เมื่อ Sabina เปลี่ยนบราเก่าเป็นพลังงานสะอาด

สำหรับโครงการ “โละแล้วไปไหน (New Life BRA CYCLE)” ของแบรนด์ชุดชั้นใน “Sabina” หรือ ซาบีน่า เน้นไปที่การมีส่วนร่วมรับผิดชอบขยะที่เกิดขึ้นจากชุดชั้นใน เพราะถือว่าเป็นขยะที่กำจัดยากที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการกำจัดที่ถูกต้อง และส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดควรทำอย่างไร

ในเบื้องต้นซาบีน่าเน้นไปที่ชุดชั้นในเก่าเสื่อมสภาพ ที่ไม่สามารถนำไปบริจาคหรือทำอย่างอื่นได้อีก ด้วยการอาสาเป็นตัวกลางในการรับโละบราเก่าเสื่อมสภาพบราเก่าที่ซาบีน่าช็อป เคาน์เตอร์ซาบีน่า โดยโละได้ทุกแบบ ทุกสภาพ ทุกยี่ห้อ ได้ทั้งของผู้ชาย และผู้หญิง

หลังจากนั้นก็นำเข้าสู่กระบวนการกำจัดอย่างถูกวิธี โดยการเผาทำลายผ่านระบบปิด เพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ขยะจากชุดชั้นในเหล่านี้ ยังนำมาใช้เป็นพลังงานความร้อนกลับมาใช้ใหม่ (Energy Recovery) ทดแทนถ่านหินที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ เท่ากับช่วยลดการใช้พลังงานจากทรัพยากรธรรมชาติจากถ่านหินได้อีกด้วย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพาร์ตเนอร์ บริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด ที่เข้ามาช่วยในการรับบราเสื่อมสภาพเข้าสู่กระบวนการกำจัดขยะอย่างถูกวิธีเพื่อแปรเปลี่ยนไปเป็นพลังงานสะอาดต่อไป

  • บราเก่าเราขอ เพราะ Wacoal จะนำไปเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิง

ทางด้าน “Wacoal” หรือ วาโก้ ก็มีโครงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” เพราะทางแบรนด์อธิบายว่าจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำในทุกกระบวนการ นอกจากจะเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังต้องมีกระบวนการจัดการกับผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพอีกด้วย โดยเฉพาะการกำจัดที่ถูกวิธี

ด้วยความที่วัสดุที่นำมาผลิตชุดชั้นในส่วนมากมาจาก “โพลิเมอร์” ทำให้บรา 1 ตัว ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 400 ปี และถ้านำไปเผาในที่โล่งก็จะกลายเป็นต้นกำเนิดของมลพิษและฝุ่น PM 2.5 วาโก้จึงร่วมมือกับ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP นำชุดชั้นในที่ได้รับการบริจาคไปแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง ทดแทนการใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้าในระบบปิด ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ หรือพลังงานจากฟอสซิล เพื่อลดผลกระทบการเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หรือลดโลกร้อน (Global Warming) เช่น การคัดแยกนำเอาโลหะไปหลอมใช้ใหม่ และการนำเอาผ้ากับฟองน้ำไปเผาระบบปิด 1,800 องศา ใช้เป็นส่วนผสมปูนซีเมนต์

ที่สำคัญวาโก้ยังนำเสนอข้อมูลสถิติในปี 2023 ที่ผ่านมา พบว่าประชากรชาวไทยเพศหญิงที่มีอายุระหว่าง 10-69 ปี มีจำนวนกว่า 29,351,011 คน หากคาดการณ์จำนวนผู้หญิงไทยที่ซื้อชุดชั้นในใหม่ จำนวนปีละ 5-12 ตัวต่อปี ก็อาจจะเกิดการทิ้งชุดชั้นในเก่าที่เสื่อมสภาพคนละ 2 ตัวต่อปี เท่ากับว่าจะเกิดขยะพลาสติกจากชุดชั้นในเก่าเพิ่มขึ้นกว่า 5,870 ตันต่อปี

อ้างอิงข้อมูล : WacoalSabinagreen matters และ third love

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์