WHA ชี้ Climate Change คือ โอกาสธุรกิจใหม่

WHA ชี้ Climate Change คือ โอกาสธุรกิจใหม่

"ดับบลิวเอชเอ"​ ย้ำเมกะเทรนด์ความยั่งยืนคือ โอกาสสำหรับภาคธุรกิจ ชี้ประเทศไทยต้องเดินหน้าสร้างความเติบโต 3 มิติ ทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA กล่าวในงาน “SUSTAINABILITY FORUM 2024” ในหัวข้อ “Tech Company for Sustainable Goal” จัดโดย​ “กรุงเทพธุรกิจ” วันที่ 13 ธ.ค.2566 ว่า หลายปีที่ผ่านมาเจอคำถามเยอะมากว่าเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเมกะเทรนด์ความยั่งยืน เป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหรือการลงทุนกันแน่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีความกังวลว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นต้นทุนประกอบการที่สูงขึ้น

“ดับบลิวเอชเอ เรามองว่า Climate Change ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย และไม่ใช่แค่การลดต้นทุน แต่เป็นการลงทุน และโอกาสในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ทั้งยังได้กลุ่มลูกค้าใหม่” 

ซึ่งช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศแคมเปญ WHA : WE SHAPE THE FUTURE ซึ่งเกิดจากการต่อยอดการใช้แนวทางการพัฒนาธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน สะท้อนความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี การสร้างคน และการเข้าถึงโอกาส ผ่านการดำเนินงานของ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจน้ำ และพลังงาน และธุรกิจดิจิทัลที่จะสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรม

รวมทั้ง ยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น The World’s Best Investment Destination สำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ ดับบลิวเอชเอ ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนทั้ง 3 มิติไปพร้อมกัน ทั้งมิติสังคม ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ซึ่งการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนคือ ธุรกิจโมเดลใหม่ที่จะทำให้ไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้”

โดยบริษัทตั้งเป้าขับเคลื่อนความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทุกชีวิต และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งสู่เป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2050 การพัฒนาธุรกิจต่างๆ ที่เน้นไปในเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น พลังงานสะอาด การทำโครงการ Circular Economy เพื่อให้สอดคล้องนโยบาย BCG ของประเทศ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรม มาควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (Smart Eco Industrial Estate) ภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ

โดยปัจจุบันมี 3 โครงการ ที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ได้แก่ Green Logistics เป็นการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาปรับใช้กับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงาน และทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศในระยะยาว

Digital Health Tech การพัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit เป็นเครื่องมือดูแลด้านสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้สมัครใช้บริการ สามารถจัดการสุขภาพแบบองค์รวมได้ง่ายขึ้น

Circular Economy การซื้อขายแลกเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้จากผู้ประกอบการหนึ่งไปยังผู้ประกอบการหนึ่ง เพื่อการจัดการวัสดุเหลือใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น รวมทั้ง WHA Emission Trading จะเป็นตัวกลางในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตเพื่อเป็นโซลูชันที่ส่งเสริมการลดปริมาณคาร์บอนในอุตสาหกรรม การทำธุรกิจ Circular นั้น ดับบลิวเอชเอ มองเห็นถึงโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจในปัจจุบันมีความเป็นธุรกิจสีเขียวมากขึ้น รวมไปถึงโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นได้อีก

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์