กฎระเบียบอียูที่ (EU)2023/956 ก่อตั้ง CBAM

กฎระเบียบอียูที่ (EU)2023/956 ก่อตั้ง CBAM

เพื่อลดปัญหาโลกร้อน อันเกิดจากก๊าซเรือนกระจก สหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาตรการหลายมาตรการ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีเป้าหมายให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในอนาคต

มาตรการที่สหภาพยุโรปได้ประกาศมาล่าสุดที่ได้ประกาศล่วงหน้าก่อนบังคับใช้ คือ Carbon Border Adjustment Mechanism กลไกการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน เรียกกันว่า CBAM โดยตราเป็นกฎระเบียบของสหภาพยุโรปที่ (EU) 2023/956 ลงวันที่ 10 พ.ค.2566

  สาระสำคัญ

จุดมุ่งหมาย

กฎระเบียบฉบับนี้ เพื่อสร้างกลไกการปรับก๊าซคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน เพื่อแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิต สำหรับสินค้าตามบัญชีที่กำหนดในภาคผนวก 1 ที่นำเข้าในเขตศุลกากรของสหภาพยุโรป เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการรั่วไหลของคาร์บอน (ในประเทศที่สาม) ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนบนโลกนี้ เพื่อสนับสนุนให้ความตกลงปารีสบรรลุเป้าหมาย และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิตสินค้าในประเทศที่สามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

สินค้าที่อยู่ในบังคับของกฎระเบียบนี้

คือ สินค้าตามบัญชีในภาคผนวก1 ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศที่สาม ตามกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าสำหรับสินค้าที่ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษของสหภาพยุโรปโดยมีข้อยกเว้นไม่ใช้บังคับกับสินค้าที่มูลค่าไม่เกิน 150 ยูโรต่อหนึ่งเที่ยวการส่งมอบ

สินค้าตามภาคผนวก 1 ประกอบด้วย สินค้า ตามพิกัดอัตราศุลกากรระบบ CN CODE ของสหภาพยุโรป คือปูนซีเมนต์ตามพิกัดประเภทย่อย 8 หลัก 6 รายการ กระแสไฟฟ้าพิกัดประภททย่อย 8 หลัก 1 รายการ ปุ๋ยตามพิกัด 4 หลัก 3 รายการ พิกัดประเภทย่อย 8 หลัก 1 รายการ เหล็กและเหล็กกล้า ตามพิกัดทั้ง 4 หลักและ 8 หลักรวม 27 รายการอะลูมิเนียม ตามพิกัด 4 หลักและ 8 หลักรวม 14  รายการและเคมีภัณฑ์

  ผู้นำเข้า

เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตให้เป็น CBAM declarant เท่านั้นที่จะนำเข้าสินค้าตามกฎระเบียบนี้เข้าไปในสหภาพยุโรปได้ ดังนั้น ผู้จะนำเข้าสินค้าตามภาคผนวก 1 ดังกล่าวเข้าสหภาพยุโรป ต้องยื่นคำขอรับอนุญาตเป็น CBAM declarant ก่อนนำสินค้าดังกล่าวเข้าสหภาพยุโรป

การใช้บังคับ

กฎระเบียบของสหภาพยุโรปฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566 แต่ทั้งนี้ข้อ 5, 10, 14, 16 และ 17 ซึ่งเป็นเรื่องการดำเนินงานทางธุรการในการจดทะเบียน ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2567 สำหรับข้อ 2 (2) ข้อ 4, 6-9, 15 และ 19 ข้อ 20 (1). (3), (4) และ (5) ข้อ 21-27 และ 31 ซึ่งเป็นข้อที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามกลไก CBAM เต็มรูปแบบ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2569

โดยสรุปคือช่วงเปลี่ยนผ่าน ตั้งแต่วันที่1 ต.ค.2566-31 ธ.ค.2567 ผู้นำเข้ามีหน้าที่เพียงรายงานข้อมูลการนำเข้าเกี่ยวกับปริมาณสินค้า ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิต

กฎระเบียบอียูที่ (EU)2023/956 ก่อตั้ง CBAM

  การสำแดงข้อมูลเกี่ยวกับ CBAM

ก่อนวันที่ 31 พ.ค.ของทุกปี ผู้ได้รับอนุญาตให้เป็น CBAM declarant จะต้องส่งรายงานต่อสำนักทะเบียน CBAM เกี่ยวกับปริมาณสินค้าที่นำเข้าของปีที่ผ่านมา นำเข้ากี่ตัน ถ้าเป็นกระแสไฟฟ้ากี่เมกะวัตต์ชั่วโมง และปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตทั้งทางตรงทางอ้อมเป็นจำนวนเท่าใดต่อสินค้าหนึ่งตัน หรือกระแสไฟฟ้าหนึ่งเมกะวัตต์ชั่วโมง ระยะเริ่มแรกให้เริ่มรายงานในปี 2567 ของการนำเข้าปี 2566

  การคำนวณการปล่อยก๊าซที่เกิดจากการผลิต embeded emission เป็นไปตามวิธีการที่กำหนดในภาคผนวก 4

ก๊าซที่เกิดจากการผลิต embeded emission ประกอบด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง คือ ก๊าซที่เกิดจากการผลิตสินค้า และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม คือ ก๊าซที่เกิดจากการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตสินค้า

ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตให้เป็น CBAM declaration ต้องจัดให้มีผู้ตรวจสอบที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ของสหภาพยุโรป ตรวจสอบรับรองความถูกต้องของการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามกฎระเบียบนี้ด้วย

  เมื่อใช้บังคับ CBAM เต็มรูปแบบ

เมื่อมีการใช้บังคับ CBAM เต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2569 ขั้นตอนต่อไปที่ผู้นำเข้าสินค้าตามภาคผนวก 1 คือผู้ได้รับอนุญาตเป็น CBAM declarant ต้องปฏิบัติ คือภายในวันที่ 31 พ.ค.ของทุกปี เริ่มต้นปี 2570 

สำหรับการนำเข้าปี 2569 ผู้ได้รับอนุญาตเป็น CBAM declarant ต้องซื้อ CBAM certificates จากทางการของประเทศสมาชิก ยื่นต่อสำนักงานทะเบียน CBAM เพื่อชดเชยให้ครบกับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้าที่นำเข้าปีผ่านมา ทั้งนี้ สามารถนำราคาคาร์บอนที่ซื้อจากประเทศต้นทางไปหักออกจากจำนวน CBAM certificates ที่ต้องชดเชยตามเกณฑ์ที่กำหนดได้

CBAM certificates 1 ฉบับ เทียบได้กับปริมาณก๊าซเรือนกระจก 1 ตันที่ปล่อยออกมาจากการผลิตสินค้า สำหรับราคาของ CBAM certificates ไม่ได้กำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับราคาเฉลี่ยรายสัปดาห์ของระบบ EU ETS

บทลงโทษ

ผู้ได้รับอนุญาตให้เป็น CBAM declarant ที่ไม่ยื่นหรือยื่น CBAM certificates ไม่ครบ ตามกำหนดเวลาภายในวันที่ 31 พ.ค.ของแต่ละปี จะถูกปรับเป็นเงินตามอัตราที่กำหนดในข้อ 13 และปรับเพิ่มตามที่กำหนดในข้อ 14 ของกฎระเบียบของสหภาพยุโรปที่ 2003/87/EC...

ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็น CBAM declarant ฝ่าฝืนนำเข้าสินค้าตามกฎระเบียบนี้ อาจถูกปรับเป็นเงินตั้งแต่ 3 ถึง 5 เท่าของอัตราค่าปรับกรณีไม่ยื่นหรือยื่น CBAM certificates ไม่ครบ ซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ที่ฝ่าฝืนด้วย.