WAVE ผนึกกำลัง "เอ็มวิชั่น" ผลักดันไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

WAVE ผนึกกำลัง "เอ็มวิชั่น" ผลักดันไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

WAVE ร่วมกับ “เอ็มวิชั่น” ส่ง เวฟ บีซีจี ร่วมมือผลักดันการจัดงานในไทยสู่ความเป็นกลางทาง คาร์บอน (Carbon Neutral Event) ทั้งในรูปแบบงานแสดงสินค้า งานเอ็กซ์โปและคอนเสิร์ต เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร และเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนประเทศ ในการลดก๊าซเรือนกระจก

ดีเดย์งานแรก Mobile Expo 2023 

นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จํากัด (มหาชน) หรือ WAVE เปิดเผยว่า บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้การจัดงานหรือ Event ในประเทศ ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด เป็นผู้ให้บริการด้านคาร์บอนเครดิตครบวงจร ให้คำปรึกษาทั้งในส่วนของผู้ซื้อ และผู้ขาย เป็นผู้พัฒนาโครงการและจัดหาคาร์บอน เครดิต ทั้งจากพลังงานสะอาดและพลังงานอื่นๆ ในการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน จึงเกิดความร่วมมือกันเพื่อความแข็ง แกร่งหรือจุดแข็งทางธุรกิจ ส่วนบริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เป็นผู้นำ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการจัดงานอีเวนต์การจัดงานระดับมืออาชีพ “ความร่วมมือในครั้งนี้ มีความมุ่งมั่นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน Wave BCG จึงได้ร่วมลงนาม MOU เพื่อจัดงานต่างๆ ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ทั้งกลุ่มงานแสดงสินค้าต่างๆ งาน Expo แม้กระทั่งงานคอนเสิร์ต ที่จะช่วยให้คำแนะนำการจัดงานให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงการจัดหาคาร์บอนเครดิต สำหรับการ Offset เพื่อให้ผู้จัดงานบรรลุเป้าหมายของการเป็น Carbon Neutral Event เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับองค์กร และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทย ในการลดก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้น

 

 

 

 

สําหรับความร่วมมือดังกล่าว จะอยู่ภายใต้หลักการ คำนวณ และประเมินอ้างอิงตามหลัก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.และตรวจสอบโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจาก วิทยาลัยพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รัตนโกสินทร์ หน่วยงานในกำกับของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชการของ มงคลรัตนโกสินทร์ (มทร.) ซึ่งมีการจัดทำยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยคาร์บอนนิวทรัล หรือความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 และมีเป้าหมายหลักในการผลิตบัณฑิตด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ให้มีองค์ความรู้ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อผลิตบุคลากรที่มีองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรมและงานวิจัยที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ Wave BCG ร่วมมือ MVP และ Giant Causeway Pte.Ltd เพื่อพัฒนานวัตกรรม Climate Tech Project (CTP) ที่เรียกว่า "Carbon Mapping Platform” โดยใช้เทคโนโลยีของ Web 3.0 เพื่อเป็นเครื่องมือ ในการสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ตรวจ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ในการปลูกป่า และการเกษตร โดยเทคโนโลยีสามารถตรวจสอบและติดตามพื้นที่ป่าไม้ และการเกษตรย้อนหลัง 5 ปี ประเมิน สภาพในปัจจุบัน และประมาณการพื้นที่ในอนาคต

ในอดีตปัญหาของผู้พัฒนาโครงการหรือบริษัทที่ปลูกป่าไม้เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือ การติดตามผลในปัจจุบันรวมถึงการคาดการณ์ผลทางคาร์บอนเครดิตในอนาคต พร้อมทั้งการที่บริษัทถูกมอง ว่าปลูกป่าเพื่อสร้างภาพทาง PR ดังนั้น การพัฒนานวัตกรรมในการใช้ภาพจากดาวเทียมควบคู่กับเทคโนโลยี blockchain ของ Web 3.0 จะช่วยตอบโจทย์ เรื่องการคำนวณ การคาดการณ์ในอนาคต ที่มีความแม่นยำ สามารถตรวจสอบได้ และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้พัฒนาโครงการ และนักลงทุนมากยิ่งขึ้น ด้านนายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP กล่าว ว่า การจัดงาน Mobile Expo 2023 ดำเนินการโดย MVP ระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นงาน Expo แรกในไทยที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral ) และ Wave BCG ให้การสนับสนุนการคำนวณ การประเมินการปล่อยคาร์บอน รวมทั้งจัดหาคาร์บอนเครดิต ทั้งนี้ Wave BCG พร้อมสนับสนุนกลุ่ม อุตสาหกรรม MICE ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ทำให้มีการปล่อยคาร์บอนจากการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การ ประชุม งานแสดงสินค้า หรืองานเทศกาล ที่ส่งผลกระทบต่อโลก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่ควรมองข้าม  

นายเกียรติชาย ไมตรีวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) กล่าวว่า อบก. ได้ให้การการสนับสนุนการจัดอีเวนต์ในครั้งนี้ ให้มีการดำเนินการในรูปแบบที่เป็น Carbon Neutral Event โดยมีการพัฒนาแพลตฟอร์มการคำนวณขึ้นใหม่ มุ่งเน้นให้ใช้งานได้ง่าย

ปัจจุบัน อบก. ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ในการนำแพลตฟอร์มดังกล่าวข้างต้น ไปทดลองใช้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม MICE ทั้งนี้ในต่างประเทศมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานต่างๆ ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอนมากขึ้น ทั้งผู้จัดจากต่างประเทศ งานเทศกาลดนตรี งานคอนเสิร์ต ก็เริ่มมีมาตรการให้ผู้เข้าร่วมงานปฏิบัติตาม อีกทั้ง ศิลปินบางวงยังมีการเลือกงานที่จะไปทำการแสดง ที่ต้องเป็นงานจัดในรูปแบบของ Carbon Neutral เท่านั้น โดยอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้การจัดงานกิจกรรมต่างๆ สามารถเดินสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนก็คือ การซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ของ องค์กร หรือ ผลิตภัณฑ์ หรือที่เรียกว่า การทำกิจกรรมชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือกิจกรรมชดเชย คาร์บอน (Carbon Offsetting) เพื่อทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากองค์กร หรือผลิตภัณฑ์นับได้เท่ากับ ศูนย์ หรือ ที่เรียกว่า Carbon Neutral

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์