ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ชี้ ความยั่งยืนต้องเริ่มจากองค์กร

ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ชี้ ความยั่งยืนต้องเริ่มจากองค์กร

ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) หนึ่งในแนวร่วม Green Heroes For Life ซึ่งเป็นแนวร่วมด้านความยั่งยืนที่แข็งแกร่งของ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ได้เผยเรื่องราวความยั่งยืนผ่านทางกรุงเทพธุรกิจ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

ปัญหาความยั่งยืน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วน โลกของเราและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจำเป็นต้องดำเนินการลดภาวะ ก๊าซเรือนกระจก ทันที อนาคตของพืชพรรณ สัตว์ และมนุษย์ขึ้นอยู่กับ ปัญหาโลกร้อน ซึ่งมีเพียงการทำงานของมนุษย์เท่านั้นที่ช่วยโลกได้

เราเชื่อว่ายังมีทางแก้ไขปัญหาหลายทาง ซึ่งแต่ละบริษัท รัฐบาล หรือแต่ละคน ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ 

ความยั่งยืน ไม่ใช่เพียงแค่ความกังวลและการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความใส่ใจต่อชุมชนหรือสังคมของเรา การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมทางเพศ สิ่งเหล่านี้คือความรับผิดชอบของผู้บริหารทุกบริษัท รวมถึง ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) เช่นกัน 

เหล่าผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการทั่วไป สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้โดยการให้ความรู้ จัดสถานที่ทำงานและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่พนักงาน ดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พนักงาน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณให้กับกิจกรรมเพื่อสังคมหรือ "ซีเอสอาร์" (CSR) และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ "เอสดีจี โกลส์" (SDGs goals) เพื่อลดความยากจนและความอดอยาก

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดและปัญหาเร่งด่วนใดบ้าง ที่องค์กรจำเป็นต้องแก้ไขทันทีตั้งแต่ตอนนี้

ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) มีบทบาทสำคัญในการนำเสนอนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ซึ่งทำให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ เทคโนโลยีชั้นนำของเรา มีโซลูชันที่ปลอดภัยและยืดหยุ่น สามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นเพื่อภาครัฐและเอกชนได้

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ศูนย์ข้อมูลเป็นส่วนที่ใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งการใช้ไฟฟ้ามาพร้อมกับต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อม ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ดำเนินการก้าวล้ำนำไปอีกขั้นเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทฯ ช่วยให้ลูกค้าสามารถลด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ต่อสิ่งแวดล้อมได้ อีกทั้งศูนย์ข้อมูลของเราสร้างขึ้นโดยมีการจดสิทธิบัตรรับรองถึง 350 ใบ รวมถึงมีเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมด้านประสิทธิภาพพลังงาน

นอกจากนี้ ในปี 2566 โซลาร์ฟาร์มแห่งแรกของเราสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว สามารถนำ พลังงานหมุนเวียน มาใช้ดำเนินงาน เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อสิ่งแวดล้อม

และด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย เราสร้างโซลูชันสำหรับหลายองค์กรในระดับไฮเปอร์สเกลและรัฐบาลที่ต้องการรวบรวมระบบดิจิทัล เข้ากับโครงสร้างดิจิทัลที่ดีกว่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า

เป้าหมายความยั่งยืนขององค์กรมีอะไรบ้าง?

ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพและฟาร์มโซลาร์เซลล์ของเรา ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) เป็นผู้นำในฐานะศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนในประเทศไทย เป้าหมายของเราคือ การเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจบริการศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ยั่งยืน

ดังที่เราทราบ ความยั่งยืนไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนามนุษย์ สังคม และเศรษฐกิจด้วย ซึ่งบริษัทของเราให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ เทคนิค และนโยบายการดำเนินงานอยู่เสมอ เพื่อสนับสนุนบุคลากรรวมถึงโครงการช่วยพัฒนาความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม หรือภายในแผนก ตลอดจนการร่วมทำงานข้ามสายงาน ด้วยการให้คำปรึกษา การฝึกอบรม และการพัฒนา ทำให้เราสามารถรักษาพนักงานไว้ได้ พร้อมสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาของบริษัทฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมด้านศูนย์ข้อมูลอย่างพวกเรา มักขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถ

และอีกหนึ่งโครงการเพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืนของบริษัทคือ การวางแผนสืบทอดตำแหน่ง ซึ่งเรื่องง่ายๆ นี้ ยังคงเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยากที่สุดขององค์กรในปัจจุบัน และไม่ใช่เพียงการสืบทอดเฉพาะตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระดับตำแหน่งอื่นๆ ด้วย 

พนักงานของเราล้วนเป็นส่วนขับเคลื่อนบริษัท และความยั่งยืนเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการสร้างสมดุลแห่งความสงบสุขและความก้าวหน้า เพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร

องค์กรของคุณให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมอย่างไร?

ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ภาคภูมิใจในการพัฒนาความยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีต่างๆ นอกเหนือจากโซลาร์ฟาร์มแห่งแรกเสร็จสมบูรณ์ เรายังมีนโยบายจัดการของเสียด้วย โดยศูนย์ข้อมูลได้ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ระบบไฟแอลอีดี และห้องน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำได้ปริมาณมาก

นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ผู้มีให้บริการมากกว่า 1 ใน 3 ที่รวบรวมและรายงานข้อมูลทางสถิติการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูล ซึ่งน้ำเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ระบบนิเวศที่สมบูรณ์ และความอยู่รอดของมนุษย์

ทั้งนี้ ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ใช้น้ำน้อยกว่า 0.05 ลิตร/กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นปริมาณน้อยกว่าน้ำ 1 หนึ่งถ้วยตวง สำหรับทุกๆ กิโลวัตต์-ชั่วโมงที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ จากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ระบุว่า ประสิทธิภาพการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8 ลิตร/กิโลวัตต์-ชั่วโมง

บริษัทฯ มีแนวคิดหรือหลักการอะไรบ้างในการสร้างความยั่งยืนภายในองค์กร?

ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญกับการรักษาวัฒนธรรมที่ยั่งยืนภายในบริษัทฯ พนักงานของเราเข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านความยั่งยืนและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมหลายงาน เช่น ในปีนี้บริษัทฯ ได้ร่วมปลูกป่าชายเลนและปลูกปะการังเห็ด และสนับสนุนให้พนักงานร่วมหาแนวทางช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ต่อไป

และในช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 บริษัทฯ ได้รวบรวมชุดตรวจโควิดเอทีเคและส่งรีไซเคิลที่ "Precious Plastic Bangkok" ซึ่งนำไปรีไซเคิลเป็นกระถางต้นไม้ นับเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติตามได้

ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) มีแนวทางในการจัดการพลังงานและดิจิทัล "สู่ความยั่งยืนที่แท้จริง" ได้อย่างไร?

โรคระบาดได้ขับเคลื่อนความยั่งยืนในหลายด้านอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยในหลายประเทศ ผู้คนต่างเรียนรู้ที่จะจัดการประชุมออนไลน์ ใช้ยานพาหนะเท่าที่จำเป็น ใช้เอกสารดิจิทัลแทนกระดาษ และเริ่มเข้าใจถึงประโยชน์ของการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความรวดเร็วมากขึ้น เช่น การชำระเงินออนไลน์ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) หรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ไอโอที) 

แน่นอนว่า ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ได้ระดมความคิดและเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทฯ และพนักงานของเรา จะสามารถพัฒนาวิถีชีวิตของตนเองและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อื่นรอบๆ ข้าง

นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) มีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ หรือพียูอี (PUE) ซึ่งเป็นหน่วยวัดว่า มีการใช้พลังงานมากเพิ่มขึ้นเท่าไรสำหรับแต่ละกิโลวัตต์-ชั่วโมงที่ใช้โดยอุปกรณ์ไอที ซึ่งรวมถึงพลังงานทำความเย็น การสูญเสียพลังงาน ฯลฯ ทั้งยังเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่สำคัญที่สุด เพื่อบ่งบอกว่าศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากเพียงใดในการนำไปสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง

บริษัทติดตั้งซอฟต์แวร์หรือระบบไอโอทีเพื่อการจัดการพลังงานหรือไม่ อย่างไรบ้าง?

บริษัทฯ มีสถานีสิ่งแวดล้อมและซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องควบคุมอากาศที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งจะเลือกรูปแบบที่มีประสิทธิภาพที่สุดจากทั้งหมด 3 รูปแบบตามสภาพแวดล้อม ในการควบคุมความเย็นและความชื้นของอากาศระหว่างทางเข้าสู่พื้นที่ศูนย์ข้อมูล และสร้างความมั่นใจในกลยุทธ์ลดการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ยังให้บริการระบบบริหารจัดการและควบคุมโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล หรือ DCIM แบบเรียลไทม์ ซึ่งใช้โซลูชัน EcoStruxure ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อม เพื่อปรับแนวทางดำเนินการด้านพลังงานให้เหมาะสมภายในศูนย์ข้อมูลของบริษัทฯ

บริษัทฯ อยากสนับสนุนให้องค์กรอื่นๆ ในประเทศไทย ทั้งองค์กรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ให้เห็นความสำคัญและร่วมกันเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนอย่างไร? (โครงการความยั่งยืนที่บริษัทอย่างแบ่งปันคือโครงการใด)

ความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนสามารถทำได้ในทุกระดับ เช่น ระดับครอบครัว ระดับองค์กร หรือระดับรัฐบาล เพราะความยั่งยืนคือวิถีชีวิต ซึ่งสามารถพัฒนาได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ติดตั้งโซลาร์ฟาร์มได้สำเร็จ แต่ยังมีเรื่องเล็กน้อยที่สามารถสร้างความยั่งยืนได้เช่นกัน อาทิ การลดใช้พลาสติก การรีไซเคิลของที่ใช้แล้ว การบริจาคของให้ชุมชน หรือการใช้ไฟแอลอีดี

สำหรับกลุ่มธุรกิจ ความยั่งยืนและความสามารถในการทำกำไรนั้นยังไม่สามารถแยกออกจากกัน ทั้งสองอย่างต้องทำงานควบคู่กันไป ซึ่ง "โครงการเพื่อความยั่งยืนของชไนเดอร์ อิเล็คทริค" เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ ความรับผิดชอบและการกำกับดูแลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้มีผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในบริษัทที่มีแผนด้านความยั่งยืน

ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการที่มีความยั่งยืนตั้งแต่การซื้อสินค้าและบริการ ไปจนถึงช่วยลูกค้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถือเป็นความก้าวหน้าของธุรกิจ และสร้างความมั่นใจว่าการลดก๊าซคาร์บอนฯ ของบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อมจะได้รับการสนับสนุนจากลูกค้า

สเตฟาน นูสส์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมา และลาว ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า การร่วมกันต่อสู้กับ การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ และสร้างความยั่งยืน นับว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจในปัจจุบัน และเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับ ทุกองค์กรไม่ได้จำกัดเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ จะเป็นองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสถาบันต่างๆ เราก็สามารถมาร่วมแบ่งปันเรื่องราวด้านความยั่งยืนร่วมกัน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสและการปฏิบัติไปสู่ความยั่งยืนของโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

"เราได้รับการตอบรับที่ดีจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในการมาร่วมเล่าถึง เป้าหมายด้านความยั่นยืนและวิธีดำเนินการขององค์กรนั้นๆ ในโครงการ Green Heroes for Life ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่แต่ละองค์กรมาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และความเป็นผู้นำในการก้าวสู่องค์กรที่ยั่งยืน มาร่วมเป็น Green Heroes for Life ด้วยกัน เพื่อสร้างองค์กรที่ยั่งยืน และเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย Net Zero ในอนาคตร่วมกัน"

สนใจเข้าร่วม คลิกที่นี่