'ไทยเบฟฯ'รุกสร้างเครือข่ายการพัฒนายั่งยืนผ่านงาน 'SX2022'

'ไทยเบฟฯ'รุกสร้างเครือข่ายการพัฒนายั่งยืนผ่านงาน 'SX2022'

"SX2022" งานเอ็กโปซ์เพื่อความยั่งยืนใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน วันที่ 26 ก.ย. - 2 ต.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ บนพื้นที่ 4 หมื่นตารางเมตร ผสานเครือข่ายความยั่งยืนสู่สากล ชูแนวคิด B2C2B สร้างโลกสมดุล ยั่งยืน แบ่งพื้นที่ 7 โซนหนุนเปลี่ยนแนวคิดสู่การปฎิบัติ

การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable development) ถือแนวทางการเติบโตแห่งอนาคตที่สำคัญตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) หรือ “SDGs” ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ที่กำหนดไว้ตั้งแต่ ปี 2016 ด้วยการนำเอาแนวทางดังกล่าวนี้ไปขยายผลเพื่อการพัฒนา เกิดเป็นองค์ความรู้และบทเรียนที่นำมาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้เพื่อสร้างสมดุลที่ดีให้เกิดขึ้นกับโลก

สำหรับประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้มีการจัดงาน “Thailand Sustainability Expo” หรือ “TSX” ที่เป็นการสร้างความร่วมมือขององค์กรด้านความยั่งยืน มีการจัดงานมาตั้งแต่ปี 2020 และในปี2565นับเป็นการจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งไม่เพียงระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นแต่ยังมีการขยายขอบเขตความร่วมมือมากขึ้นด้วย  ซึ่งเครือข่ายและขอบเขตดังกล่าวมานี้ไม่เพียงแต่เป็นองค์กรในประเทศไทยเท่านั้นแต่ยังขยายความร่วมมือไปในระดับนานาชาติ

ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานอำนวยการ “Sustainable Expo 2022”หรือ “SX2022”   เปิดเผยว่า การสร้างความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นต้องมีความเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย และภาคส่วนต่างๆที่มากกว่าในประเทศไทย 

“การจัดงานต้องการสะท้อนว่าในการแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือปัญหาขนาดใหญ่ที่โลกเผชิญอยู่ในปัจจุบันต้องอาศัยความร่วมมือกันในลักษณะที่เป็นเครือข่ายระดับโลก เนื่องจากปัญหามีความซับซ้อนมากขึ้น จึงต้องมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันในหลายมิติ” 

\'ไทยเบฟฯ\'รุกสร้างเครือข่ายการพัฒนายั่งยืนผ่านงาน \'SX2022\'

โดยงาน  “SX2022” เป็นปีแรกที่เปลี่ยนชื่อมาจาก “Thailand Sustainability Expoหรือ "TFX”  เพื่อสื่อให้เห็นว่าถึงการขยายความร่วมมือที่ไม่ใช่มีเพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ความร่วมมือดังกล่าวต้องเกิดขึ้นในระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับ การจัดงาน SX2022 ในปีนี้ที่หัวใจอย่างหนึ่งของการจัดงานที่อยากให้เกิดขึ้นก็คือเรื่องการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนในองค์รวมระหว่างธุรกิจ และผู้บริโภคหรือ B2C 

 

ดังนั้น การจัดงานครั้งนี้จึงต้องการให้เกิดการเชื่อมโยงแบบ "B2C2B" คือจากธุรกิจไปยังผู้บริโภคและสะท้อนกลับมายังธุรกิจ เพราะว่าจากผู้บริโภค (Consumer) ไปสู่ภาคธุรกิจในปลายทางนั้นยังเชื่อมต่อไปอีกหลายธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าในซัพพลายเชนของธุรกิจอีกหลายส่วนก็จะตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ต้องใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและโลกที่สมดุลเพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปเช่นกัน

สำหรับ SX2022 จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability ) อันเป็นการน้อม นำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” มาเผยแพร่และส่งเสริมให้ประชาชน และองค์กรต่างๆ ร่วมกันสานต่อพระราชดำริให้เกิดเป็นรูปธรรม

ต้องใจ ธนะชานันท์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานความยั่งยืน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญ สิ่งท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้นต่อโลกทุกตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ หรือปรากฎการณ์ต่างๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นและอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตกำลังเป็นกฎเกณฑ์ใหม่ของทุกคน

ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป ผู้บริโภค ต่างต้องตระหนักถึงความจริงจังกับการมุ่งหน้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งไม่ใช่แค่การกำหนดเป้าหมายของวันข้างหน้าแต่ต้องเป็นการลงมือทำในวันนี้และในทันทีด้วย เพื่อส่งมอบโลกที่สมดุล และยั่งยืนให้กับคนรุ่นใหม่และ คนรุ่นต่อไป

งาน SX2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นถือเป็นงานเอ็กซ์โปเกี่ยวกับความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ก.ย. - 2 ต.ค.  2565 ภายใต้แนวคิด “Good Balance, Better World สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยใช้พื้นที่จัดงานกว่า 4 หมื่นตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นคน และเข้าร่วมทางออนไลน์กว่า 1 ล้านคน

การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือของพันธมิตร  5 องค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนของไทย ได้แก่

1.บริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด

2.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC

3. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCG

4. บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 

5.บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

โดยภายในงานจะมีเวทีกิจกรรมที่น่าสนใจตลอดทั้งวัน มีกิจกรรมทั้งในเวทีหลักและเวทีย่อย พร้อมทั้งรวบรวมผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน องค์ความรู้ ในโครงการต่างๆ ซึ่งมีแนวคิดที่น่าสนใจ รวมไปถึงการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เช่น รถไฟฟ้า ที่มีการนำรถหลายรูปแบบมาจัดแสดงเพื่อให้เห็นว่ามีนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาจัดแสดงภายในงาน 

 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปที่ส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนจากผู้มีประสบการณ์ความรู้ และผลงานที่ปฎิบัติได้จริง

\'ไทยเบฟฯ\'รุกสร้างเครือข่ายการพัฒนายั่งยืนผ่านงาน \'SX2022\'

สำหรับรูปแบบการจัดงานสามารถแบ่งได้เป็น 7 ส่วนสำคัญๆประกอบด้วย    โซนเศรษฐกิจพอเพียงและแรงบันดาลใจ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ความเกี่ยวเนื่อง ระหว่างองค์ประกอบและนโยบายต่างๆ ด้านความยั่งยืน

โซน Better Living นำเสนอกิจกรรมและโครงการขององค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ที่ดำเนินการเพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการยกระดับคุณภาพชีวิต การนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปใช้ตลอดกระบวนการผลิต ห่วงโซ่มูลค่า เพื่อให้บรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

โซน Better Community เล่าเรื่องราวของสังคมที่จะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เช่น เทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่พัฒนาโดยบริษัทชั้นนำของโลก และสมาร์ทซิตี้ 

โซน Better Me เน้นองค์ประกอบหลัก 3 ด้านที่จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นในทุกด้านรวม ได้แก่ นวัตกรรม ถึงสุขภาพ นวัตกรรมการแพทย์ อาหาร และเครื่องดื่ม นวัตกรรมอาหารรักษ์โลก และอาหารแห่งอนาคต เป็นต้น 

โซน Food Festival Food Festival รวมเชฟชั้นนำจากรายการเชฟกระทะเหล็ก และมาสเตอร์เชฟ มานำเสนออาหารแห่งอนาคต อาหารรักษ์โลก และอาหาสุขภาพ โดยโซนนี้จะเปิดตั้งแต่ 24 ก.ย.

โซน Planet Kids เป็นสนามเด็กเล่น ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ และเรียนรู้เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยความสนุกสนานและได้รับสาระไปพร้อมกัน

และ โซน Sustainable Marketplace ที่ รวบรวมร้านค้าจากชุมชนกว่า 200 ร้าน ดีไซเนอร์รักษ์โลกนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และร้านค้าชุมชน