'ธนกร' ตรวจมาบตาพุด เฟส 3 เร่งงานช่วง 2 'กนอ.' เร่งยกระดับนิคมฯ สู่มาตรฐานสากล

'ธนกร' ตรวจมาบตาพุด เฟส 3 เร่งงานช่วง 2 'กนอ.' เร่งยกระดับนิคมฯ สู่มาตรฐานสากล

“ธนกร” ลงพื้นที่ระยอง ติดตามความก้าวหน้าท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 กำชับเร่งงานช่วงที่ 2 ให้สำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับชุมชน ด้าน กนอ.ขานรับนโยบาย “ฝ่า-ฟัน-ดึง-ดัน” ยกระดับนิคมอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานสากล

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ จังหวัดระยอง เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

นายธนกร กล่าวว่า นโยบาย “ฝ่า-ฟัน-ดึง-ดัน” เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมพร้อม ‘ฝ่า’ ทุกวิกฤตเศรษฐกิจด้วยการสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 รวมถึง ‘ฟัน’ โรงงานเถื่อนหรือการทิ้งกากอุตสาหกรรมด้วยระบบตรวจสอบที่ทันสมัย พร้อมทั้ง ‘ดึง’ เม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลกเข้าสู่พื้นที่ EEC และ ‘ดัน’ ผู้ประกอบการไทยและ SMEs ให้เข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียวตามมาตรฐานสากล

'ธนกร' ตรวจมาบตาพุด เฟส 3 เร่งงานช่วง 2 'กนอ.' เร่งยกระดับนิคมฯ สู่มาตรฐานสากล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังกล่าวถึงโมเดล “Smart MTP Port” ที่มีการนำระบบควบคุมการจราจรทางน้ำ (VTMS) และแผนที่ 3 มิติ (Metaverse) มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพการเดินเรือ ด้วยว่า อุตสาหกรรมยุคใหม่ภายใต้การนำของกระทรวงฯ จะดำเนินงานด้วยนโยบาย MIND ใช้หัวและใจปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การที่งานถมทะเลเสร็จสิ้น 100% คือสิ่งยืนยันความสำเร็จของการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน

'ธนกร' ตรวจมาบตาพุด เฟส 3 เร่งงานช่วง 2 'กนอ.' เร่งยกระดับนิคมฯ สู่มาตรฐานสากล

“การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อเร่งรัดโครงสร้างพื้นฐาน EEC และท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุนและความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมชูโมเดล ‘Smart MTP Port’ ที่ใช้เทคโนโลยี VTMS และ Metaverse ยกระดับความปลอดภัยสู่สากล ทั้งนี้ ได้กำชับให้ กนอ. เร่งงานช่วงที่ 2 ให้สำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับชุมชน เพื่อปั้นมาบตาพุด ให้เป็นต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ทันสมัยและยั่งยืน”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

'ธนกร' ตรวจมาบตาพุด เฟส 3 เร่งงานช่วง 2 'กนอ.' เร่งยกระดับนิคมฯ สู่มาตรฐานสากล

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้สรุปภาพรวมการบริหารจัดการพื้นที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (Maptaphut Complex) ว่า ปัจจุบันประกอบด้วย 6 นิคมอุตสาหกรรม และ 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม มีจำนวนโรงงานรวมทั้งสิ้น 192 โรงงาน มียอดมูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 2 ล้านล้านบาท และมีการจ้างแรงงานในพื้นที่กว่า 35,000 คน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนพื้นที่นี้ ได้แก่ ปิโตรเคมีขั้นปลาย (28%), เคมีภัณฑ์ (17%) และปิโตรเคมีขั้นกลาง (14%) ขณะเดียวกัน กนอ.ยังคงมุ่งมั่นนำนิคมอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานสากลด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืน

ส่วนความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นโครงการสำคัญตามแผนปฏิบัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน EEC เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานนั้น โดยงานในช่วงที่ 1 (MTP 3.1) ซึ่งครอบคลุมงานถมทะเลพื้นที่ 1,000 ไร่ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้ดำเนินการ เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ขณะที่งานในช่วงที่ 2 (MTP 3.2) ซึ่งเป็นการก่อสร้างท่าเทียบเรือก๊าซ ท่าเทียบเรือสินค้าเหลว และท่าเทียบเรือบริการ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 โดยมีเป้าหมายเปิดดำเนินการท่าเรือก๊าซและสินค้าเหลวภายในปี 2569

'ธนกร' ตรวจมาบตาพุด เฟส 3 เร่งงานช่วง 2 'กนอ.' เร่งยกระดับนิคมฯ สู่มาตรฐานสากล

“ในส่วนของการกำกับดูแลสิ่งแวดล้อม ศูนย์ EMCC ประสบความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยีตรวจวัดคุณภาพอากาศและน้ำแบบ Real-time รวมถึงจัดการกากอุตสาหกรรมผ่านระบบ IEAT WTMS ที่มีผู้ใช้ครบ 100% ส่งผลให้พื้นที่มาบตาพุดสามารถรักษาระดับการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศตามมาตรฐาน SDG I.E. (Sustainable Development Goals Industrial Estate) และได้รับประกาศนียบัตร Carbon Neutral Certificate ซึ่งพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างเกื้อกูลตามแนวทางความรับผิดชอบต่อสังคม (ISO 26000)” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าว