'ธนกร' อัดมาตรการ 3 ระยะ อุ้มผู้ประกอบการ 9 จว. ใต้ ฟื้นธุรกิจให้แกร่งกว่าเดิม

"ธนกร" สั่งปรับแผนช่วยผู้ประกอบการประสบอุทกภัยภาคใต้ 9 จังหวัด เน้นความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน อัดมาตรการ 3 ระยะครบวงจร เพื่อให้กลับมายืนได้อย่างเข้มแข็ง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทบทวนมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม กรณีประสบอุทกภัยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หรือธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ศูนย์ CMC กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในภาคใต้ตอนล่าง ประมาณการมูลค่าความเสียหาย 1,677 ล้านบาท เป็นผู้ประกอบการโรงงาน 1,186 ราย ผู้ประกอบการเหมืองแร่ 12 ราย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี123 ราย และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน 60 ราย ตลอดจนอาคารสำนักงานและบ้านพักเสียหาย 6 หน่วยงาน
ด้านนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การปรับมาตรการครั้งนี้เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยได้รับการดูแลตั้งแต่ในระยะแรก ทั้งการมอบถุงยังชีพ ถุง มอก. บรรจุปลั๊กพ่วงและเพาเวอร์แบงค์ การใช้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 11 เป็นศูนย์พักพิงสำหรับประชาชนผู้ประสบภัย โดยบริการน้ำ ไฟฟ้า และอาหาร การสนับสนุนเครื่องมือและวัสดุให้กับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
ภายหลังจากน้ำลด กระทรวงฯ ยังร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร เปิดคลินิกตรวจสภาพรถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ รวมทั้งซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี ด้านผู้ประกอบการได้ออกมาตรการทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเฉพาะการลดปัญหาด้านการเงินด้วยการพักชำระหนี้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ มีบริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำทั้งลูกค้ารายเดิม และลูกค้ารายใหม่ รวมถึงการช่วยฟื้นฟูเครื่องจักรและกระบวนการการผลิต วางแผนทางการตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและกลับมายืนด้วยตัวเองได้อย่างเข้มแข็ง
กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกมาตรการเพื่อดูแลประชาชนและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยครบทุกมิติ แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่
1. มาตรการระยะสั้น โดยร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และสถานประกอบการทั่วประเทศ ดำเนินการ 2 แนวทาง คือ 1) การช่วยเหลือเร่งด่วน ผ่านกิจกรรม "อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย" มอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม ยา และสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นกว่า 7,000 ชุด ตลอดจนจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น พาหนะสำหรับขนย้าย สื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลสำหรับโรงงานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดอุทกภัย และ 2) การจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจ คือ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ นิคมอุตสาหกรรมสงขลา และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 11 เพื่อเป็นศูนย์กระจายความช่วยเหลือ และศูนย์พักพิงชั่วคราวรับรองผู้ประสบภัย
2. มาตรการระยะกลาง ได้แก่ 1) การเยียวยาผู้ประกอบการ โดยจัดทีมผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาเข้าประเมินสภาพปัญหาแล้ววางแผนฟื้นฟูสถานประกอบการ และบูรณาการกับหน่วยงานเครือข่ายเข้าซ่อมแซมเครื่องจักรและอาคาร พร้อมดำเนินการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีและค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ลดค่าธรรมเนียมในการตรวจประเมินและรับรอง และค่าธรรมเนียมการฝึกอบรมและการทดสอบสำหรับผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยเป็นรายกรณี 2) การเยียวยาและบริการเพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้วยการมอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ตรา มอก. 500 ชิ้น ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดโครงการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ จำนวน 1,000 ลิตร และซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 100 ชิ้น โดยร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ และภาคเอกชน และ 3) การสนับสนุนทางการเงิน โดยมีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ออกมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น
3 เดือน และมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้สินเชื่อกองทุนฯ กองทุน DIPROM PAY ออกมาตรการ พักหนี้-ดีพร้อมช่วยฟื้น เพื่อบรรเทาภาระการเงินและเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ทั้งการพักชำระหนี้ต้น-ดอกเบี้ย สูงสุด 4 เดือน ปรับลดค่างวด/ขยายเวลาชำระหนี้ (ไม่เกิน 2 ปี) พักชำระหนี้ดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับรายที่ต้องการบรรเทาเร่งด่วน ลูกหนี้เดิมขอรีไฟแนนซ์ลดภาระดอกเบี้ยได้ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ออกมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อม สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน และมาตรการเติมทุนฉุกเฉินเพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ วงเงินกู้ 10% ของวงเงินเดิม สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
3. มาตรการระยะยาว คือการฟื้นฟูผู้ประกอบการและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของพื้นที่ ประกอบด้วย 3 แนวทาง คือ (1) วางแผนฟื้นฟูผ่านศูนย์ DIPROM Center ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค จัดกิจกรรมช่วยเหลือ แนะนำในการปรับปรุงซ่อมแซม ฟื้นฟูเครื่องจักร ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้กลับมาดำเนินการได้ (2) กองทุน DIPROM PAY
ออกมาตรการให้ลูกหนี้รายใหม่ขอสินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” วงเงินรายละไม่เกิน 5 แสนบาท ดอกเบี้ย0 % 6 เดือนแรก และ (3) ขับเคลื่อนกลไกของกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนการกำจัดของเสียภายในโรงงานที่ได้รับความเสียหาย ส่งเสริมและพัฒนาทักษะต่างๆ ในการประกอบอาชีพ เพื่อให้เกิดรายได้และลดรายจ่าย
และส่งเสริมการตลาด โดยจับมือกับเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอผลิตภัณฑ์ SME เข้าสู่ช่องทางการตลาดทั้งรูปแบบ Online และ Offline เพื่อความยั่งยืน







