ประเทศไทยส่งออกน้ำมันปิโตรเลียม เฉียด2แสนล้านเพื่อนบ้านผู้ซื้อรายใหญ่

ประเทศไทยส่งออกน้ำมันปิโตรเลียม  เฉียด2แสนล้านเพื่อนบ้านผู้ซื้อรายใหญ่

ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบระหว่าง ไทย - กัมพูชา ที่เริ่มต้นเมื่อกลางเดือนมิ.ย.2568 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันทุกราย ไม่ส่งออกน้ำมันไปขายให้กัมพูชาซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันภายในประเทศทุกราย

นอกจากนั้น ยังได้กำชับให้พลังงานจังหวัดทุกจังหวัดในพื้นที่ติดชายแดนให้ตรวจสอบการลักลอบส่งออกน้ำมันทั้งที่ส่งจากไทย และลักลอบการส่งผ่าน สปป.ลาว ทำให้ตั้งแต่เดือนก.ค. 2568 เป็นต้นมา ไม่มีการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา 100% และจากการตรวจสอบจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีผู้ค้ารายใดส่งออกน้ำมันให้กัมพูชา 

สำหรับ ประเทศไทยส่งออก น้ำมันปิโตเลียมและน้ำมันที่ได้จากแร่บิทูมินัส นอกจากที่เป็นน้ำมันดิบ รวมทั้งสิ่งปรุงแต่งที่ไม่ระบุหรือรวมไว้ในที่อื่น ซึ่งมีน้ำมันปิโตเลียมหรือน้ำมันที่ได้จากแร่บิทูมินัสตั้งแต่ 70% ขึ้นไปโดยน้ำหนัก ซึ่งน้ำมันเหล่านี้เป็นองค์ประกอบหลักของสิ่งปรุงแต่งนั้น) (พิกัดกรมศุลกากร (2710 ) 

โดยการส่งออกรวม ทุกตลาด ม.ค.-ต.ค. 2567 มูลค่ารวม 238,269 ล้านบาท  ส่วนปี 2568 ในช่วงเวลาเดียวกัน มูลค่า 180,880 ล้านบาท อับดับ 1 ได้แก่ สปป.ลาว  ปี2567 มูลค่า 36,415 ล้านบาท ส่วนปี 2568 มูลค่า 36,351 ล้านบาท รองลงมาคือ สิงคโปร์ 29,135 ล้านบาท และ 29,833 ล้านบาท มาเลเซีย มูลค่า 28,235 ล้านบาท และ 23,060 ล้านบาท  กัมพูชา 42,310 ล้านบาท และ 23,028 ล้านบาท 

สำหรับกัมพูชา พบว่าการส่งออก มีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดย การส่งออกก.ค. 2568 มูลค่า 97.10 ล้านบาท ลดลงมาจากปี 2567 ที่มีมูลค่า 5,758 ล้านบาท จากนั้นในเดือน ส.ค. มูลค่า 87.56 ล้านบาทลดลงจาก 4,483 ล้านบาท เดือนก.ย. 60.74 ล้านบาท ลดลงมาจาก 2,691 ล้านบาท และ ต.ค. มูลค่า 70.79 ล้านบาทลดลงจาก 3,507 ล้านบาท 

        นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าว นำเสนอเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันผ่านทางด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง สปป.ลาว ว่าอาจมีการลักลอบส่งต่อน้ำมันให้ประเทศกัมพูชาหรือไม่นั้น กระทรวงพลังงาน โดย กรมธุรกิจพลังงาน เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยอย่างละเอียด 

ทั้งข้อมูลปริมาณการส่งออกในอดีตเทียบกับปัจจุบัน เส้นทางในการส่งออก รวมถึงได้กำชับผู้ค้าน้ำมันทุกรายในการปฏิบัติตามมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในทุกด่านตลอดแนวชายแดน ไทย - สปป.ลาว ที่อาจจะสามารถส่งต่อไปยังกัมพูชาได้ 

ส่วนที่ปรากฎภาพรถน้ำมันที่ตกค้างตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลมาจากมาตรการคุมเข้มในการส่งออกน้ำมัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบริหารจัดการและประสานกับผู้ค้าน้ำมันเพื่อตรวจสอบเส้นทางการขนส่ง และน้ำมันจะต้องถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนดใน สปป.ลาว เท่านั้น

นอกจากมาตรการป้องกันการส่งน้ำมันทางบกแล้ว กรมธุรกิจพลังงานได้ติดตามตรวจสอบไม่ให้มีการส่งออกน้ำมันทางเรืออย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการจำกัดการส่งออกน้ำมันให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะติดตามการกำกับดูแลมาตรการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศ เพื่อนำมาซึ่งความสงบสุขของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย

“ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้กำชับผู้ค้าน้ำมันและได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในการกำกับการส่งออกน้ำมันทั้งทางบกและทางเรือไปยังกัมพูชา เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และกรมธุรกิจพลังงาน ได้เพิ่มความเข้มงวดในการติดตามและกำกับดูแลการส่งออกน้ำมันที่ผ่านด่านตลอดแนวชายแดน ไทย - สปป.ลาว อย่างเคร่งครัด จะต้องไม่มีการส่งออกน้ำมันที่มีปริมาณมากผิดปกติ "

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานพร้อมเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ค้าน้ำมันให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันของกองทัพ และจะยึดผลประโยชน์และความปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชนชาวไทยเป็นสำคัญ