เกษตรกร 3.2หมื่นรายขนมูลหนี้1.4หมื่นล้าน ร่วมโปรเจกต์ปรับโครงสร้างของ‘กองทุนกฟก.’
เกษตรฯ เดินหน้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรสมาชิก กฟก. มุ่งแก้ปัญหาอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน พร้อมขยายเวลาการแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการออกไปถึง 30 ม.ค. 2569 หลังสหกรณ์เจ้าหนี้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ จำนวน 713 แห่ง เกษตรกรลูกหนี้ จำนวน 32,262 ราย คิดเป็นมูลหนี้รวม 14,649.32 ล้านบาท
ข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ระบุถึงการประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 29/2568 ที่ประชุมรับทราบรายงานผลการดำเนินงานด้านการจัดการหนี้ ณ เดือนส.ค. 2568 มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนหนี้และได้รับอนุมัติแล้ว 531,392 ราย ชำระหนี้แทน 36,684 ราย มูลหนี้ 11,801 ล้านบาท
การโอนหลักประกันเป็นของกองทุน ดำเนินการแล้ว 19,657 ราย 29,671 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 197,000 ไร่ การปิดบัญชีชำระหนี้คืน ปิดบัญชีไปแล้ว 12,657 ราย งบประมาณจัดทำแผนงานบริหารจัดการหนี้ปี 2568 ได้รับจัดสรรรวม 720 ล้านบาท โดยใช้ไปแล้วกว่า 714 ล้านบาท
“ปี 2568 กฟก.ซื้อหนี้รวม 11,801 ล้านบาท สามารถรักษาที่ดินทำกินให้เกษตรกร 197,000 ไร่ ผ่านการโอนหลักประกันเป้นของกองทุนฯ”
นอกจากนี้ ที่ประชุมยัง รับทราบรายงานการใช้สัญญาตามแนวทางปฏิบัติงานการดำเนินงานตามแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 รับทราบรายงานการดำเนินการของคณะทำงานดำเนินการปรับโครงสร้างในการบริหารงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ เนื่องจากสิ้นสุดปีงบประมาณ ทำให้เกิดภาระผูกพันข้ามปี จึงให้ยุติการดำเนินการไปก่อน
แผนจัดสรรพัฒนาอาชีพให้เกษตรกร
ส่วนผลการอนุมัติแผนองค์กรเกษตรกรและโครงการฟื้นฟูฯ ปีงบประมาณ 2568 โดยมีกรอบงบประมาณ 233 ล้านบาท เงินกู้ยืม 170.23 ล้านบาท เงินอุดหนุน 63 ล้านบาท อนุมัติไปแล้วรวม 950 โครงการ เป็นเงิน 123.35 ล้านบาท คิดเป็น 53% ของงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการ 15,898 ราย มีงบประมาณคงเหลือ 100 ล้านบาท ซึ่งจะจัดสรรเป็นงบฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพในปี 2569 ส่วนโครงการคงค้างที่ยังไม่ได้รับการพิจารณา อีก 77 โครงการ ให้นำไปพิจารณาในไตรมาสแรกของปี 2569
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประเภทหนี้สหกรณ์ ครั้งที่ 1/2568 ว่า การประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรสมาชิก กฟก. ที่เป็นหนี้สหกรณ์ภาคการเกษตร ให้เกิดความเป็นธรรม บรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (ร่าง) โครงการปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประเภทหนี้สหกรณ์ ซึ่ง กฟก. ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์จัดทำขึ้น ตามมติคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรสามารถปรับโครงสร้างหนี้อย่างเป็นระบบ ลดภาระหนี้สิน ควบคู่กับการฟื้นฟูอาชีพและการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืนในระยะยาว บรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
เป้าหมายกลุ่มเอ็นพีเอล-คู่คดีสหรกรณ์
ทั้งนี้ โครงการมีเป้าหมายครอบคลุมเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้สหกรณ์ภาคการเกษตร และเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) รวมถึงหนี้ที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีหรือบังคับคดี ณ วันสิ้นปีบัญชีสหกรณ์ พ.ศ. 2568 โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการรวม 10 ปี พร้อมควบคู่มาตรการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพและป้องกันการกลับเข้าสู่วงจรหนี้ซ้ำในระยะยาว และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือรายละเอียดโครงการ และดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการฯ รวมถึงรายงานความก้าวหน้าการเตรียมดำเนินโครงการจากกรมส่งเสริมสหกรณ์และสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งได้ดำเนินการตามแผนงานและขั้นตอนที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การประชุมชี้แจงทำความเข้าใจโครงการแก่หน่วยงานในพื้นที่ การสำรวจความประสงค์เข้าร่วมโครงการของสหกรณ์เจ้าหนี้และเกษตรกรสมาชิกทั่วประเทศ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายเวลาการแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการออกไปถึง 30 ม.ค. 2569 ตลอดจนการตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรกรให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนประกอบการจัดทำโครงการเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
เกษตรกรแจ้งร่วม 3.2 หมื่นรายผ่านแล้ว 2.9 หมื่นราย
อีกทั้ง ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการสำรวจความประสงค์การเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ประเภทหนี้สหกรณ์ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับ กฟก. ได้ดำเนินการสำรวจความประสงค์ของสหกรณ์และเกษตรกรสมาชิกกองทุนฯ ที่มีหนี้สหกรณ์เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ พบว่ามีสหกรณ์เจ้าหนี้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ จำนวน 713 แห่ง เกษตรกรลูกหนี้ จำนวน 32,262 ราย คิดเป็นมูลหนี้รวม 14,649.32 ล้านบาท ภายหลังการตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรกรตามหลักเกณฑ์ของโครงการ พบว่าเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ มีจำนวน 29,041 ราย จาก 704 สหกรณ์ รวม 41,479 สัญญา คิดเป็นมูลหนี้ 13,655.85 ล้านบาท ขณะที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จำนวน 579 ราย มูลหนี้ 171.09 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำ (ร่าง) โครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯ เพื่อเสนอขออนุมัติโครงการและงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
