ครม.ไฟเขียว 'ขึ้นทางด่วนฟรี' บางพลี - สุขสวัสดิ์ ยาว 7 วัน เทศกาลปีใหม่ 2569

ครม.ไฟเขียว 'ขึ้นทางด่วนฟรี' บางพลี - สุขสวัสดิ์ ยาว 7 วัน เทศกาลปีใหม่ 2569

ครม.ไฟเขียว 'ขึ้นทางด่วนฟรี' บางพลี - สุขสวัสดิ์ ยาว 7 วัน เทศกาลปีใหม่ 2569 ประหยัดค่าใช้จ่ายได้รวมกว่า 136 ล้านบาท

วันนี้ (16 ธันวาคม 2568) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม กำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) หรือ "ทางด่วนฟรี" เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2569

โดยการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษดังกล่าว มีระยะเวลารวม 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 เวลา 24.00 น.

"ครม.ได้อนุมัติเป็นของขวัญปีใหม่ และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 นี้ ได้สะดวกมากขึ้น และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการรองรับการเดินทางกลับบ้านและกลับเข้ามากรุงเทพฯ ด้วย"นายพิพัฒน์ ระบุ

อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคม รายงานว่าการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 รวม 7 วัน

โดยประโยชน์ที่ได้รับนอกเหนือจากผลประโยชน์ที่ประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ ยังมีผลประโยชน์ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ ได้แก่ ความสะดวก รวดเร็ว

ปลอดภัยต่อผู้ใช้ทางพิเศษ และลดมลพิษทางอากาศบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ อีกทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษในช่วงเทศกาลที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมากขึ้น

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติรับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคมกำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2569 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 

ไม่มีการจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2569 วันที่ 30 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 รวม 7 วัน จะมีปริมาณจราจรมาใช้ทางพิเศษประมาณ 2,378,341 คัน จะทำให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ไม่ได้รับรายได้ประมาณ 87,214,841 บาท แต่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจประเมินเป็นมูลค่าเงินประมาณ 136,668,014 บาท

ซึ่งประกอบด้วยมูลค่าจากการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้รถ (Vehicle Operating Cost Saving : VOC Saving) 80,539,242 บาท และมูลค่าจากการประหยัดเวลาในการเดินทาง (Value of Time Saving : VOT Saving) 56,128,772 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 136,668,014 บาท