ศาลสั่งยึดทรัพย์! อดีตวิศวกร TSMC หลังลาออกไป Intel

ไต้หวันบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเพื่อปกป้องความลับทางการค้าของ TSMC มีการดำเนินคดีกับอดีตวิศวกร TSMC ที่ย้ายไปทำงานกับคู่แข่งอย่าง Intel รัฐบาลไต้หวันมองว่าเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจของอุตสาหกรรม
KEY
POINTS
- ไต้หวันบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเพื่อปกป้องความลับทางการค้าของ TSMC
- มีการดำเนินคดีกับอดีตวิศวกร TSMC ที่ย้ายไปทำงานกับคู่แข่งอย่าง Intel
- รัฐบาลไต้หวันมองว่าเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจของอุตสาหกรรม
สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า ไต้หวันบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อคุ้มครองความลับทางการค้าของผู้ผลิตชิปชั้นนำอย่าง Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดของโลก ชิปเหล่านี้ใช้ในอุปกรณ์ตั้งแต่ iPhone ไปจนถึงรถยนต์
กรณีที่โดนจับตามองมากที่สุดตอนนี้ คือ เหว่ยเจิน หลัว (Wei-Jen Lo) วิศวกรที่ทำงานกับ TSMC มา 21 ปี ตัดสินใจลาออกไปร่วมงานกับ Intel ผู้ผลิตชิปจากซิลิคอนแวลลีย์และคู่แข่งรายสำคัญ อัยการไต้หวันมองว่าการย้ายงานครั้งนี้อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
Intel โต้ว่าการย้ายงานของหลัว เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูง แต่เจ้าหน้าที่ไต้หวันก็เข้าตรวจค้นบ้านของเขาในไทเปและซินจู๋ ศาลสั่งยึดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ของเขาไว้ด้วย โดยระบุว่า หลัว เคยบอก TSMC ตอนสัมภาษณ์ออกจากงานว่าจะไปทำงานในสถาบันการศึกษา ไม่ได้บอกว่าจะไปที่ Intel
ฝั่ง Intel ยืนยันว่าข้อกล่าวหาต่อ หลัว ไม่มีมูล รวมทั้ง Intel มีนโยบายห้ามใช้หรือถ่ายโอนข้อมูลลับจากบุคคลภายนอกหรือบริษัทที่เคยทำงานอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง TSMC กับ Intel ซึ่งเป็นทั้งคู่แข่งและลูกค้ารายใหญ่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
บทวิเคราะห์ของเดอะนิวยอร์กไทม์ส ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ไต้หวันนำกฎหมายปี 2022 มาใช้จริง กฎหมายนี้ยกระดับความลับทางการค้าของผู้ผลิตชิปให้เข้าอยู่ในกรอบความมั่นคงแห่งชาติ อัยการระบุชัดว่าเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์คือ "หัวใจของอุตสาหกรรมไต้หวัน" หากถูกขโมยข้อมูล ย่อมกระทบความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของผู้ผลิตชิป
ชิปคือโล่ซิลิคอนของไต้หวัน
บทบาทของไต้หวันในฐานะผู้นำด้านการผลิตชิปขั้นสูง ถูกมองว่าเป็น "โล่ซิลิคอน" ที่ช่วยยับยั้งจีนจากการใช้กำลังทหาร สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ตอกย้ำให้เห็นว่าโลกพึ่งพาชิปจากไต้หวันมากเพียงใด
หลายประเทศตั้งแต่จีน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ ไปจนถึงญี่ปุ่น ต่างอัดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างอุตสาหกรรมชิปของตนเอง พร้อมทั้งเร่งดึงตัววิศวกรไต้หวัน สภานิติบัญญัติไต้หวันจึงต้องขยายอำนาจกฎหมายความมั่นคงให้ครอบคลุมความลับทางการค้าเซมิคอนดักเตอร์ด้วย
TSMC ในฐานะผู้ผลิตตามสัญญารายใหญ่ของโลก อาศัยการรักษาความลับเป็นแกนหลักของความสำเร็จ บริษัทมีมาตรการปกป้องข้อมูลเข้มงวด ติดตามไฟล์ที่พนักงานเปิดหรือสั่งพิมพ์ แม้คู่แข่งอย่าง Intel, SMIC, Samsung และ Rapidus จะทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อไล่ตาม แต่ TSMC ก็ยังนำหน้าอยู่อย่างมาก
อ้างอิง: The New York Times











