กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงาน "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ทศวรรษแห่งคุณค่าจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย" ณ ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 14.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ทศวรรษแห่งคุณค่าจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย" โดยความร่วมมือของ มูลนิธิชัยพัฒนา และ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด  ณ เอ็ม ทาวเวอร์ (Em Tower) ชั้น 14 ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายดนุชา สินธวานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ โอกาสนี้ นายสุรัตน์ อัมพุช ประธานกรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์

จากนั้น นายดนุชา สินธวานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ทศวรรษแห่งคุณค่าจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย" ด้วยความร่วมมือเป็นระยะเวลาถึง 10 ปี ระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนาและบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เพื่อประชาสัมพันธ์น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ให้เป็นที่รู้จักและยังได้สนับสนุนพื้นที่เพื่อเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา

โดยการจัดงานครั้งแรกได้เกิดขึ้นในปี 2558 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน และครั้งที่สองในปี 2559 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ในครั้งนั้นยังคงใช้ชื่อว่า "เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์" อีกทั้งยังจัดงานอย่างต่อเนื่องภายใต้ชื่อ "เทศกาลน้ำมันเมล็ดชาสัญจร" ต่อมาในปี 2564 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชานุมัติให้เปลี่ยนชื่อจากน้ำมันเมล็ดชาเป็น "น้ำมันเมล็ดคามีเลีย" เพื่อให้มีความเป็นสากลและลดความสับสนในกลุ่มผู้บริโภค จึงนำมาซึ่งการจัดงานภายใต้ชื่อ "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์" ในปี 2565 ถึงปัจจุบัน

โดยประวัติของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ นั้น เริ่มขึ้นในปี 2547 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อผลิตน้ำมันเมล็ดคามีเลียในประเทศไทย โดยมีพระราชประสงค์ให้คนไทยได้บริโภคน้ำมันที่มีคุณภาพ และเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ราษฎรบนพื้นที่สูงในเขตภาคเหนือ และสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือการฟื้นฟูเสริมสร้างพื้นที่ป่าไม้บริเวณต้นน้ำ ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าอย่างเกื้อกูลกัน

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์

โดยการดำเนินงานดังกล่าว ได้รับการประสานความร่วมมือเป็นอย่างดีจากมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า ภายใต้โครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยเริ่มการปลูกและขยายพันธุ์ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นแห่งแรก ก่อนที่จะขยายไปในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกต้นชาน้ำมันในบ้านปางมะหันและบ้านปูนะ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ในการกำกับดูแลของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กว่า 3,464  ไร่ คิดเป็นต้นชาน้ำมัน 462,121 ต้น ถือเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมและเป็นการทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย ขณะเดียวกันสามารถสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ มีประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่า 5,600 คน ซึ่งราษฎรเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการดูแลต้นชาน้ำมัน และส่งผลผลิตเข้าสู่โรงงาน ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเมล็ดคามีเลียและน้ำมันพืชอื่น อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อผลิตเป็นน้ำมันบริโภคที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของคนไทย จึงเรียกได้ว่าการปลูกต้นชาน้ำมันนี้ ต้นทางคือการฟื้นป่า ปลายทางคือน้ำมันเมล็ดคามีเลียคุณภาพ ก่อเกิดประโยชน์แก่ราษฎรได้อย่างแท้จริง อีกทั้งได้สร้างความตระหนักรู้ถึงคุณประโยชน์ของการดูแลรักษาป่า สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเข้าใจและพึ่งพิงกัน ซึ่งเป็นไปตามพระราชดำริ "คนอยู่ร่วมกับป่า" ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันจะนำไปสู่วิถีแห่งความสุข ความสมดุล และความยั่งยืนในที่สุด 

จากนั้น พลอยชมพู อัมพุช ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กราบบังคมทูลรายงานความร่วมมือการจัดงานระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ว่า "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการฯ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 10 ปี ในการประชาสัมพันธ์ และจัดจำหน่ายน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ถึงคุณประโยชน์นานัปการของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก"

โดยงาน "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ทศวรรษแห่งคุณค่าจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 23 กันยายน 2568 ณ เอ็ม มาร์เก็ต ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงการจัดจำหน่าย น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภายใต้แบรนด์ภัทรพัฒน์ ซึ่งในโอกาสครบรอบ 10 ปีความร่วมมือ ได้จัดทำผลิตภัณฑ์พิเศษ ครีมอาบน้ำและสบู่ ภัทรพัฒน์ คามีเลีย โอลีเฟร่า แอนด์ โกโก้ บัตเตอร์ นำคุณค่าจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย มานำเสนอผ่านแบรนด์ไลฟ์สไตล์ยอดนิยมบัตเตอร์แบร์ เพื่อเพิ่มความสดใหม่ ผ่านดีไซน์ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ มาจัดจำหน่ายให้ผู้ร่วมชมงานอีกด้วย รวมถึงความอร่อยจากร้านระดับมิชลินและร้านดังที่รังสรรค์เมนูจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย มาจัดจำหน่ายให้ผู้ร่วมชมงานและผู้ใส่ใจในสุขภาพได้มีประสบการณ์โดยตรงกับการบริโภคน้ำมันเมล็ดคามีเลีย"

ในการนี้ นางภากมล รัตตเสรี กรรมการและรองเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา เบิกผู้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานเข้ารับพระราชทานของที่ระลึกตามลำดับ จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดงาน "เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ทศวรรษแห่งคุณค่าจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย" โดยทรงปลูกต้นกล้าชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า

ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ "ต้นทางผืนป่า ปลายทางน้ำมันเมล็ดคามีเลีย" ที่บอกเล่าเรื่องราวและความรู้เกี่ยวกับน้ำมันเมล็ดคามีเลีย อาทิ เรื่องเล่าของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย การเดินทางของต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า สู่การสร้างผืนป่าและรายได้สู่ราษฎร คุณประโยชน์มหัศจรรย์ของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย สีธรรมชาติจากผืนป่า สร้างคุณค่างานหัตถกรรม และทศวรรษแห่งความร่วมมือสู่ความสำเร็จอีกก้าวในวันนี้ โอกาสนี้ ทรงปรุงเมนู "แป้งฟิโลสอดไส้ชีสทอดน้ำมันเมล็ดคามีเลีย เสิร์ฟกับโยเกิร์ตน้ำผึ้ง"

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์

โดยใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ เป็นส่วนประกอบ และทอดพระเนตรเมนูอาหารจากร้านค้าที่เข้าร่วมเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ในปีนี้ ซึ่งทุกเมนูปรุงจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย พร้อมทอดพระเนตรบูทกิจกรรมในพื้นที่จัดงาน จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังกูร์เมต์ มาร์เก็ต ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ ทอดพระเนตรการปรุงอาหารด้วยน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ จากเชฟของแผนก ยู ฮันท วี คุค (You Hunt We Cook) สเตชั่นปรุงสดจากวัตถุดิบพรีเมียมในกูร์เมต์ มาร์เก็ต และทอดพระเนตรร้านอาหารและร้านค้าที่เข้าร่วมงานในพื้นที่เอ็ม มาร์เก็ต (Em Market) โดยความเป็นมาของน้ำมันเมล็ดคามีเลียนั้น เป็นที่รู้จักในประเทศจีนนานกว่า 1,000 ปี มีประโยชน์มากมายจนได้ชื่อว่าเป็น น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก เนื่องจากมีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อร่างกายไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก และไม่มีกรดไขมันทรานส์ ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเอ ดี อี เค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้น้ำมันเมล็ดคามีเลียยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดตีบ โรคอัมพาต โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งน้ำมันเมล็ดคามีเลียสามารถทนความร้อนได้มากกว่า 200 องศาเซลเซียส จึงทำให้สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะใช้ในการหมัก การผัด หรือการทอดด้วยอุณหภูมิสูง น้ำมันเมล็ดคามีเลียถือเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ได้อนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ "อาหารรักษ์หัวใจ" ในสินค้าน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภายใต้ตราสินค้าภัทรพัฒน์

"เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ทศวรรษแห่งคุณค่าจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 23 กันยายน 2568 โดยภายในงาน ณ เอ็ม มาร์เก็ต ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการ “ต้นทางผืนป่า ปลายทางน้ำมันเมล็ดคามีเลีย" ที่บอกเล่าเรื่องราวและความรู้เกี่ยวกับน้ำมันเมล็ดคามีเลียและทศวรรษแห่งความร่วมมือสู่ความสำเร็จ

นอกจากนี้ พบสินค้าจากร้านค้าในเครือมูลนิธิชัยพัฒนา อาทิ สินค้าจากร้านภัทรพัฒน์ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย รวมถึงผ้าไหมย้อมสีจากเปลือกผลชาน้ำมัน สายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า ฝีมือการทอจากกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายโครงการศูนย์เรียนรู้ด้านหม่อนไหมแบบครบวงจร ของมูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ รวมถึงความอร่อยจากร้านดังระดับมิชลินที่รังสรรค์เมนูจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ได้แก่ ลูกชิ้นลวกหอมเจียวน้ำมันเมล็ดคามีเลีย จากร้านกิมง้วนลูกชิ้นปลา แกงปูใบชะพลู จากร้านครัวต้นฝน บะหมี่เป๊าะคลุกแห้งยำโบราณ จากร้านชาม ผัดไทยกุ้งคุณชู จากร้านผัดไทยคุณชู ข้าวแกงกะหรี่หมูก้อนทอด จากร้าน Ama Curry บะหมี่หมูแดงย่างเตาถ่าน จากร้านตั้งใจย่าง หมูสะเต๊ะ จากร้านจึงอังลัก ฟูจิซังโชกุปัง จากร้าน Shirokumaya Bakery และพบกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์  Pat Pat’s Camellia Oleifera & Cocoa Butter Soap และ Body Wash ในรูปแบบ Butterbear Series ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโครงการภัทรพัฒน์ มูลนิธิชัยพัฒนา กับ Butterbear ด้วยการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ในรูปแบบดีไซน์ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ พร้อมคุณภาพที่สะท้อนความตั้งใจในการพัฒนาที่ยั่งยืน

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์

ทั้งนี้ You Hunt We Cook ได้สรรค์สร้างเมนูโดยใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ เป็นส่วนประกอบ พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูตะวันตกและตะวันออก เช่น ซี่โครงหมูบาร์บีคิว แซลมอนกระทะร้อน พอร์คช็อปกระทะร้อน ข้าวกะเพราเนื้อสับ ข้าวผัดไก่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 

ผู้สนใจสามารถซื้อน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ภายในงานได้ในราคาสุดพิเศษ และเมื่อซื้อสินค้าหรืออาหารครบทุก 500 บาท รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบิน สายการบิน Thai Vietjet Air จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง สำหรับการเดินทางภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) อีกด้วย

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานเทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ฯ ณ เอ็มสเฟียร์