ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

CBTx และการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติด (ศสส) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ที่เข้าใจง่ายและใช้งานได้จริงในชุมชน

ยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติที่กัดกินสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการบำบัดรักษามาอย่างยาวนาน แต่ข้อเท็จจริงคือจำนวนผู้ติดยาที่ยังไม่เคยลดลงเลยตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา แนวคิด "ชุมชนล้อมรัก" หรือ CBTx (Community Embracing Love) จึงถือกำเนิดขึ้นจากการถอดรหัส pain point ของระบบการบำบัดแบบเดิม โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างระบบจัดการที่เข้มแข็งในระดับอำเภอ เพื่อนำไปสู่การดูแลป้องกัน บำบัดฟื้นฟู และสร้างโอกาสใหม่ๆ อย่างยั่งยืน

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพพลังอำเภอสู่การเป็นอำเภอต้นแบบและอำเภอขยายผลในการขับเคลื่อนชุมชนล้อมรัก หรือ CBTx และการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติด (ศสส) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ที่เข้าใจง่ายและใช้งานได้จริงในชุมชน

ยาเสพติด ภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าภัยออนไลน์

โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ปัญหานี้ 

โดยได้เปิดประเด็นถึงความร้ายแรงของปัญหายาเสพติดว่า แม้กระแสข่าวออนไลน์และสแกมเมอร์จะเข้ามาบดบัง แต่ความเดือดร้อนในพื้นที่จากยาเสพติดยังคงมีสูงมาก รองนายกรัฐมนตรีได้เปรียบเทียบความเสียหายระหว่างปัญหายาเสพติดกับการพนันออนไลน์หรือสแกมเมอร์อย่างชัดเจนว่า หากคนหนึ่งถูกหลอกด้วยสแกมเมอร์จะเดือดร้อนเฉพาะครอบครัวนั้น แต่ถ้าคนหนึ่งติดยา จะส่งผลกระทบถึงความปลอดภัยในชุมชนและความเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน 

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

ภัยจาก ยาเสพติด ยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ผู้ติดยามักถูกญาตินำไป "โยนให้หมอ" ที่โรงพยาบาล ซึ่งการรักษาผู้ที่สมองถูกทำลายจากการเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ป่วยเหล่านี้เมื่อเข้าไปโรงพยาบาลจะฉุดรั้งคุณภาพการรักษาของผู้ป่วยอื่น และเพิ่มภาระงบประมาณ ท่านรองนายกฯ เน้นย้ำว่า การที่เรามาถึงจุดนี้ได้ เพราะขาดการป้องกันและขาดการสร้าง "ภูมิ" ให้กับคนในชาติอย่างเพียงพอตั้งแต่เยาวชน ความทุกข์ยากของประชาชนจึงเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักให้ลึกซึ้ง

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

"เรื่องยาเสพติดนี่ เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศอยู่ในขณะนี้ความเดือดร้อนในพื้นที่มันมาก แล้วเป็นภัยคุกคามของประเทศ ที่เรามองไม่เห็น"

 บูรณาการคือพลังขับเคลื่อน 

ปัญหาสำคัญที่ถูกชี้ขาดอย่างตรงไปตรงมาจากรองนายกรัฐมนตรีคือ "บูรณาการ" ซึ่งเป็นจุดอ่อนของภาครัฐมาอย่างยาวนาน การบูรณาการมักเป็นเพียงตัวอักษรหรืออยู่ในช่วงเวลาของการของบประมาณเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติกลับกลายเป็นว่าต่างคนต่างใช้ "งบใคร งบมัน" และไม่ทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง 

อีกปัญหาของการแก้ ปัญหายาเสพติด เริ่มต้นตั้งแต่ฐานข้อมูล โดยรองนายกฯ ใช้คำว่า "ข้อมูลทิพย์หมด" โดยยกตัวอย่างจังหวัดที่รายงานว่ามีผู้เสพเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ผิดพลาดและนำไปสู่ความล้มเหลวในการจัดสรรทรัพยากร 

ดังนั้น วิธีการแรกที่ต้องทำคือการ "สแกน" ทั้งประเทศเพื่อหาผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้ได้จำนวนจริง นายโสภณได้เล่าถึงวิธีการปฏิบัติใน 6 อำเภอนำร่องที่ท่านได้คลุกคลี โดยใช้วิธีการที่ชาวบ้านมีส่วนร่วมอย่างง่ายดายแต่ได้ผลจริง การตั้งกล่องให้ชาวบ้านเขียนชื่อผู้ที่สงสัยว่าเสพยาหย่อนลงไป ซึ่งวิธีนี้ไม่ต้องใช้วิธีปิดล้อมเหมือนในอดีต และสามารถนำคนเข้ารับการตรวจปัสสาวะได้ถึง 80% ของรายชื่อที่มี 

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

นอกจากข้อมูลที่เที่ยงตรงแล้ว ปัจจัยด้านงบประมาณก็เป็นอีกปัญหา รองนายกฯ กล่าวว่า ค่ายบำบัดของภาคราชการมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5,000 บาทต่อคนต่อคอร์ส ซึ่งหากใช้โมเดลนี้ทั่วประเทศ งบประมาณย่อมไม่เพียงพอ แต่โครงการที่ท่านทำเองโดยอาศัยมูลนิธิและการสนับสนุนจากประชาชน มีคอร์สค่าใช้จ่ายเพียง 2,500 บาท และสามารถระดมทุนจากประชาชนใน 6 อำเภอด้วยการวิ่งได้ถึง 11 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า เมื่อประชาชนเห็นความเดือดร้อนและความจริงจังของโครงการ พวกเขายินดีที่จะบริจาคทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง และเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพ 

นอกจากนี้ การแก้ไข ปัญหายาเสพติด ผ่านกลไก CBTx หรือชุมชนล้อมรักจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยการรวมพลังเป็น "ทั้งองคาพยพ" ไม่สามารถให้แพทย์หรือสาธารณสุขทำเพียงฝ่ายเดียว ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งและจริงจัง นายโสภณจึงได้เรียกร้องให้มีการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน

หัวใจของการฟื้นฟูคือการไม่เสพซ้ำ 1 ปี

โครงการชุมชนล้อมรัก (CBTx) มีวัตถุประสงค์สำคัญคือการสร้างเครือข่ายบำบัดรักษาฟื้นฟูในชุมชน และสร้างเสริมศักยภาพบุคลากรให้ใช้กระบวนการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โมเดลนี้ถูกพัฒนาต่อยอดจากฐานทุนการทำงานของ สสส. ที่เคยสนับสนุนพื้นที่ปลอดภัยจากยาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2558 โดยใช้กลไกคณะทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน 

หัวใจสำคัญของการรักษาตามหลักวิชาการคือ การทำให้ผู้เสพ "ไม่กลับไปเสพซ้ำ" เลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นเวลาหนึ่งปี เพื่อให้สมองหายจากภาวะ "สมองติดยา" ซึ่งสมองส่วนอยากยาที่อยู่ภายในจะควบคุมสมองส่วนคิด ทำให้เกิดพฤติกรรมเสพติด 3 ประการคือ โกหก ลักขโมย และใช้ความรุนแรง 

นายแพทย์ศุภเสก วิโรจนะภา นายแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน (สุขภาพจิตชุมชน) สำนักวิชาการสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต ได้สรุปตัวเลขทางวิจัยว่า อัตราความสำเร็จที่ดีที่สุดในโลกคือการทำให้ผู้เสพไม่กลับไปเสพซ้ำได้ 50% ในหนึ่งปี ส่วนตัวเลขเดิมที่ภาคราชการเคยรายงานว่ารักษาได้ 80% มักเป็นการนับเฉพาะช่วงที่อยู่ในสถานบำบัด ซึ่งไม่มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาระยะยาว "ถ้าเรามีโปรแกรมการบำบัดดูแลที่ดี อัตราของโปรแกรมที่ดีที่สุดในโลกจะสามารถ ทำให้ผู้ที่เสพยาไม่กลับไปเสพซ้ำได้ 50% ในหนึ่งปี"  

นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์สาร ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์นี้ โดยกล่าวว่า สาเหตุที่ผู้ติดยาในประเทศไทยไม่เคยพร่องลงเลย เป็นเพราะการรักษาแบบเดิม เช่น การบำบัด 1 เดือน 2 เดือน หรือสูงสุด 4 เดือน มักจบลงด้วยการกลับไปเสพซ้ำถึง 80-90% เนื่องจากการใช้ยาเสพติดเป็นเวลานานจะทำให้เกิดภาวะ "สมองติดยา" ภาวะนี้ทำให้สมองส่วนอยากยาเข้ามาควบคุมสมองส่วนคิด เมื่อผู้เสพกลับสู่ชุมชนหลังการบำบัดระยะสั้น พวกเขาจะกลับไปใช้ยาซ้ำ และสมองก็จะกลับมาทำงานเหมือนเดิม

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

หลักการสำคัญที่สุดในการรักษาภาวะสมองติดยาคือ ผู้ป่วยจะต้อง "ไม่ไปเสพยาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นเวลาหนึ่งปี" จึงจะถือว่าสมองหายจากภาวะติดยาได้ แม้แต่อัตราความสำเร็จที่ดีที่สุดในโลกคือ 50% ของผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรมแล้วไม่กลับไปเสพซ้ำภายในหนึ่งปี ดังนั้น แนวคิดของ CBTx จึงเน้นที่การดูแลต่อเนื่องในชุมชนเป็นระยะเวลาหนึ่งปี เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุข มีอาชีพ และมีรายได้

ถอดรหัสต้นแบบความสำเร็จกำแพงแสน

ความท้าทายที่สุดของ CBTx คือการดูแลต่อเนื่องในชุมชนจนครบหนึ่งปี ซึ่งหมายถึงการดึงผู้ป่วยออกมาทำกิจกรรมทุกสัปดาห์ ไม่ใช่แค่การติดตามเยี่ยมบ้านเดือนละครั้ง พื้นที่ที่ประสบความสำเร็จได้แสดงให้เห็นถึง Best Practiceในการตอบโจทย์นี้

กำแพงแสนโมเดล จ.นครปฐม ใช้จุดเด่นเรื่องพลังแห่งการดูแลต่อเนื่องให้ครบหนึ่งปี ซึ่งเป็นส่วนที่มักขาดหายไปในที่อื่น กระบวนการของกำแพงแสนเริ่มจากการคัดกรองผู้ป่วยเป็น 4 กลุ่มสี เขียว เหลือง ส้ม แดง โดยให้ความสำคัญกับการติดตามเยี่ยมบ้านทุกเดือน และดูแลเป็นรายกรณี การดูแลนี้ต้องลงลึกถึงปัญหาครอบครัว เช่น กรณีที่ผู้ป่วยดีขึ้นแล้ว แต่กลับไปเสพซ้ำเมื่อกลับไปอยู่กับพ่อที่ติดเหล้า 

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม

กัลยารัตน์ พูลสุโข พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ. กำแพงแสน กล่าวว่า อำเภอกำแพงแสนใช้กลไก พชอ. เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผลลัพธ์ที่โดดเด่นของกำแพงแสนโมเดลคือ มีการติดตามผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดและดูแลต่อเนื่องจนครบหนึ่งปี จำนวน 41 ราย สามารถเลิกยาได้เด็ดขาดถึง 18 ราย คิดเป็น 43% ตัวเลขนี้สูงกว่าการบำบัดแบบเดิมที่เคยทำได้เพียง 1 ใน 12 ราย หรือไม่ถึง 10%

ปัจจัยความสำเร็จเกิดจากการบูรณาการงบประมาณจากหลายแหล่ง เช่น โครงการชุมชนยั่งยืน กองทุนแม่แห่งแผ่นดิน และงบ CBTx ของ สสส. โดยไม่ทับซ้อน มีการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องทุกหนึ่งเดือนเพื่อควบคุมอาการกำเริบ  

ชุมชนยังมีการจัดกิจกรรมดึงผู้ป่วยเข้ามามีส่วนร่วม เช่น กิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ชมรมกองยาว และการแห่กฐิน เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม มีการนำพิธีกรรมแปรงขวัญ หรือเรียกขวัญมาประยุกต์ใช้ในการคืนคนดีสู่สังคม หลังจากผู้ป่วยผ่านกระบวนการบำบัดครบแล้ว

"ผลของการดำเนินงานของเรา พบว่า พ.ศ. 2568 ไม่มีผู้ป่วยทีมีอาการกำเริบซ้ำเลยแม้แต่คนเดียวค่ะ ถ้าเราติดตามการกินยาแล้วก็ฉีดยาดีๆ "

อยู่บ้านรักษาใจ หนองโสนโมเดล 

ตำบลหนองโสน จ.เพชรบุรี ได้พัฒนารูปแบบการบำบัดที่เรียกว่า อยู่บ้านรักษาใจ ซึ่งเป็นการประยุกต์จากแนวคิดเดียวกับการรักษาโควิด-19 จุดเด่นของโมเดลนี้คือ ผู้ป่วยไม่ต้องออกจากบ้าน ไม่เป็นการประจาน ประหยัดงบประมาณเรื่องค่าเลี้ยงดูและค่าสถานที่  ใช้พ่อแม่พี่น้องและ อสม. ในชุมชนเป็นผู้ดูแลตามกระบวนการ

"น้องเฟิร์ส" หนึ่งในผู้กล้าจากหนองโสนโมเดลที่เลิกยาได้สำเร็จ และได้กลับไปทำงานที่ อบต. ได้กล่าวถึงความสำเร็จนี้ว่า

"ผมเป็นหนึ่งในผู้กล้านะครับ ของหนองโสนโมเดลที่ได้รับความไว้ใจทำให้เราได้เห็นคุณค่าในตัวเองในโครงการนี้ การบำบัดตรงนี้ไม่มีการเข้าค่าย ใช้งบน้อยครับ ดูบ้านรักษาใจ ใช่ครับ"

 ไทรม้า จ.นนทบุรี คืนคนดีสู่เกษตรกรรม

พันตำรวจตรีพุฒิเมท บุญโต สารวัตรป้องกันปราบปราม ได้รายงานว่า จาก 15 รายที่เข้าร่วมโครงการ สามารถเลิกยาได้ 5 คน

พื้นที่ไทรม้าคือตัวอย่างความร่วมมือระหว่างตำรวจ ภายใต้โครงการชุมชนยั่งยืน กับมูลนิธิชีววิถี ที่ช่วยให้ผู้เสพกลับมามีอาชีพและรายได้ ชุมชนใช้ที่ดินเกษตรกรรมที่ว่างเปล่าให้ผู้เสพที่เลิกยาแล้วปลูกผักผลไม้ เช่น ถั่วพู และพริกขี้หนู เพื่อจำหน่าย

ชุมชนวัดสวัสดิ์ วารีศรีมาราม CBTx ในเมือง

ในบริบทเมืองหลวงอย่างชุมชนวัดสวัสดิ์ฯ เขตดุสิต บทบาทของชุมชนคือการเป็น ตัวกลางและฐานข้อมูล เพื่อนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

นัลยา นายนจอหอ ประธานชุมชน ได้เล่าถึงความเสี่ยงของการทำงานในเมืองใหญ่แต่ชี้ให้เห็นว่า "เราจะใช้ขบวนการของ CBTx  ซึ่งทำโดยใช้ชุมชนเป็นคนทำฐานข้อมูลที่จะเอาผู้เสพเข้ามาสู่ขบวนการบำบัด แต่ผู้ค้าเราก็จะไม่ไปแตะต้องเลยนะคะ เพราะเรามองว่าผู้เสพก็คือป่วยรายหนึ่ง"

โครงการชุมชนล้อมรักได้ตอกย้ำว่า เราต้องออกจากวงจรเดิมที่ว่า "รักษา-กลับบ้าน-เสพซ้ำ" และหันมาให้ความสำคัญกับการ "ป้องกัน" มากกว่าการ "รักษา" และการคืนคุณภาพชีวิตให้แก่สังคม

ถอดรหัส 'ชุมชนล้อมรัก' พลังศรัทธา ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูคนดีสู่สังคม