Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

Zuellig Pharma และ Action4Diabetes ร่วมรณรงค์ “วันเบาหวานโลก” ส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านเรื่องราวของ “ครูกิม” และ “ครูแพน” ผู้ไม่ยอมให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

"วันเบาหวานโลก" (World Diabetes Day)” ตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันที่ทั่วโลกร่วมกันรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและเข้าใจถึงผลกระทบของโรคเบาหวานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) ล่าสุดพบว่า ปัจจุบันทั่วโลกมี ผู้ใหญ่เกือบ 1 ใน 9 ราย หรือประมาณ 589 ล้านคนกำลังใช้ชีวิตอยู่กับโรคเบาหวานและคาดว่า ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นจนถึง 853 ล้านคนภายในปี 2593 นอกจากนี้ ยังมีเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1.8 ล้านคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับเบาหวานชนิดที่ 1

"Zuellig Pharma" ผู้นำการให้บริการสำหรับอุตสาหกรรมสุขภาพแบบครบวงจรในเอเชีย และ Action4Diabetes หรือ (A4D) เดินหน้ารณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยเงียบของโรคเบาหวานผ่านเรื่องราวชีวิตของผู้ที่อยู่ร่วมกับโรค เบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes: T1D) เพื่อส่งต่อพลังบวกกับเด็ก เยาวชน และครอบครัวของผู้ป่วยว่า “เบาหวานไม่ใช่จุดจบ” แต่คือ “การเริ่มต้น” ของการเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีวินัยเพื่อให้ใช้ชีวิตและทำตามความฝันได้อย่างเต็มที่

สองเรื่องราวของ "ครูกิม" ครูนาฏศิลป์หนุ่มวัย 26 ปี และ "ครูแพน" คุณครูสาวจากจังหวัดอุบลราชธานี คือแรงบันดาลใจที่พิสูจน์ว่า แม้ชีวิตจะเริ่มต้นด้วยความท้าทายตั้งแต่วัยเด็ก แต่ด้วยการเข้าถึงการรักษา การส่งเสริมความรู้ในการดูแลอย่างถูกวิธีตลอดจนการสนับสนุนจากคนใกล้ชิดเราทุกคนสามารถ "ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่"

Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

เมื่อชีวิตเริ่มต้นด้วยบททดสอบ

ครูกิม เล่าว่า ครอบครัวพบว่าตนเป็น โรคเบาหวาน ตั้งแต่อายุเพียง 1 ขวบ 2 เดือน หลังจากที่คุณพ่อสังเกตว่า ยังลุกเดินไม่ได้ และเห็นมดมาตอมปัสสาวะ จึงพาไปพบแพทย์ หลังจากที่ตรวจพบค่าระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่า 400 mg/dL กิมต้องอยู่ในห้อง ICU นานกว่าหนึ่งเดือนครึ่ง

เบาหวานชนิดที่ 1 หรือ T1D เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินที่มีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลให้ผู้ป่วยจำเป็นต้องฉีดอินซูลินทดแทนสม่ำเสมอ วันละ 2-3 ครั้ง หรือมากกว่านั้นตามแต่อาหารที่รับประทาน ต่างกับเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เกิดจากการดื้ออินซูลิน ที่เป็นผลสืบเนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

ครอบครัวของกิมจึงต้องปรับตัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโรคเบาหวาน คุณแม่ต้องฝึกฉีดยา โดยเริ่มฝึกกับตุ๊กตา และฝึกผสมโดสอินซูลิน เมื่อกิมโตขึ้น คุณแม่จึงเริ่มฝึกให้ดูแลตัวเอง การฉีดอินซูลินได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

ด้าน ครูแพน รู้ตัวว่า เป็นโรคเบาหวานตอนอายุ 9 ขวบ ขณะเรียนอยู่ ป.3 และต้องเผชิญกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของสังคม เพราะการเป็นเบาหวานในเด็กเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับชุมชนแถบชนบท อีกทั้งรูปร่างของคนเป็นเบาหวานไม่จำเป็นต้องมีภาวะอ้วนร่วมด้วยเสมอไป ครอบครัวสังเกตจากการที่ตัวเธอผอมลงมาก ผิวหมองคล้ำ มีมดมาตอมปัสสาวะ

"คนรอบข้างไม่เข้าใจ บางคนไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเด็กจะเป็นเบาหวานได้" ครูแพน กล่าว

ทั้งครูแพนและครูกิมต่างต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับ โรคเบาหวาน ผ่านการเติบโตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่วัยรุ่นช่วงมัธยมซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยากที่สุดในการรักษาสมดุลในการใช้ชีวิตร่วมกับเบาหวาน จากความอายเพื่อน จึงเลือกจะไม่กินข้าวกลางวัน ไม่ฉีดอินซูลินระหว่างวัน ไปจนถึงการต้องแอบฉีดอินซูลินในห้องน้ำเพราะรู้สึกอายเพื่อน

แต่จากความใส่ใจของครูประจำชั้นที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ กิมผ่านจุดนั้นมาได้โดยเรียนรู้ที่จะยอมรับและใช้ชีวิตตามปกติ

"อยากกินอะไรก็กินได้ แต่ต้องคำนวณและฉีดอินซูลินให้เหมาะสม ต้องรู้จักบาลานซ์ เบาหวานไม่ใช่ศัตรู มันคือเพื่อนสนิทที่เราต้องเรียนรู้จะอยู่ด้วยกันให้ได้" ครูกิม กล่าวอย่างมั่นใจ

Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

"Zuellig Pharma" และ "A4D" พลังแห่งความร่วมมือเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึง

เรื่องราวของครูกิมกับครูแพน เป็นเสียงแห่งความหวังเล็กๆ เนื่องจากยังมีเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งในด้านสุขภาพกายควบคู่กับสุขภาพใจ โดยเฉพาะเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล ที่การเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นไปได้ยาก

"Zuellig Pharma" จึงร่วมมือกับ A4D เพื่อเข้ามาเป็นโซลูชันให้กับเยาวชนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงอุปกรณ์ ยา และบริการทางการแพทย์ เช่น การส่งมอบแผ่นตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดที่ใช้ร่วมกับเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบพกพา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งที่มีราคาสูง การส่งมอบยาเบาหวานที่จำเป็นต้องขนส่งด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งจะลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพของยา

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา "Zuellig Pharma" ยังได้ร่วมสนับสนุน A4D ในการระดมทุนผ่านกิจกรรมเพื่อให้เยาวชนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ได้มีชีวิตที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง เพราะการเป็นโรคเรื้อรังอย่างเบาหวานนั้น จำเป็นต้องได้รับการติดตามและประเมินอาการโดยแพทย์อย่างต่อเนื่อง เช่น การคำนวณอัตราส่วนของยูนิตอินซูลินต่อปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานทุกๆ สามเดือน

Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

โดยในปีพ.ศ. 2567 พนักงานของ "Zuellig Pharma" ในภูมิภาคสามารถรวบรวมเงินบริจาคได้กว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.2 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 4 วัน ผ่านกิจกรรมออกกำลังกายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัปดาห์ Improving Health Outcome Week และในปีนี้ "Zuellig Pharma" ยังจะสนับสนุนจัดกิจกรรม A4D Cycle Challenge 2025 การปั่นจักรยานทางไกลบนเส้นทางเชียงใหม่ ที่จะจัดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้อีกด้วย

"Zuellig Pharma อยู่เคียงข้างอุตสาหกรรมสุขภาพในประเทศไทยมากว่า 75 ปี เราไม่ได้เป็นเพียงผู้ขนส่งยาและเวชภัณฑ์ แต่เป็นผู้นำการให้บริการสำหรับอุตสาหกรรมสุขภาพแบบครบวงจรในห่วงโซ่อุปทานสาธารณสุข ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เราและ A4D มีเป้าหมายร่วมกัน คือ ต้องการขยายการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และส่งมอบบริการด้านสาธารณสุขให้กับผู้ป่วยอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น จึงร่วมมือกันสนับสนุนให้เยาวชนผู้ป่วย T1D ก้าวข้ามขีดจำกัดนี้" พักตร์นลิน บูลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท Zuellig Pharma จำกัด (Pucknalin Bulakul, Managing Director of Zuellig Pharma Limited.) กล่าว

Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

แรงบันดาลใจจากคนที่ไม่ยอมแพ้ ร่วมสร้างสังคมแห่งความเข้าใจในวันเบาหวานโลก

ทั้ง กิม และ แพน ต่างมีมุมมองร่วมกันว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ "การไม่ปล่อยให้เบาหวานมากำหนดชีวิต" แม้จะป่วยด้วยโรคเบาหวาน แต่ทั้งสองไม่เคยหยุดตามความฝัน แพนได้มาเป็นคุณครูดังที่ฝัน ส่วนกิมก็ประสบความสำเร็จในการเป็นครูสอนนาฏศิลป์ไทย ที่หวังจะสืบสานวัฒนธรรมไทยและการแสดงโขนให้ดำรงอยู่ต่อไป

Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

แพน กล่าวเสริมด้วยรอยยิ้มว่า "A4D ทำให้เรารู้ว่า ไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่เป็น การได้เห็นสังคมเบาหวานที่กว้างขึ้นและการที่ A4D ให้ความรู้ที่ถูกต้อง ทำให้เรื่องเบาหวานไม่น่ากลัว ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด"

Zuellig Pharma–A4D ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก ผ่านเรื่องราวของผู้ที่ไม่ให้โรคเบาหวานกำหนดชีวิต

เนื่องในวันเบาหวานโลกจึงไม่เพียงเป็นการเตือนให้ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพเท่านั้น "Zuellig Pharma" และ "A4D" ขอเชิญชวนทุกคนให้หันมาเข้าใจและให้กำลังใจผู้ที่อยู่กับโรคนี้ เพราะ "ความเข้าใจ" คือ จุดเริ่มต้นของการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเสมอภาค

"เป้าหมายของเรา คือ การทำให้ผู้คนทั่วเอเชียเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้มากยิ่งขึ้น ผ่านเครือข่ายกระจายสินค้าที่ครอบคลุมการให้บริการด้านสุขภาพที่ครบวงจรและเชื่อถือได้ และความร่วมมือใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ในระบบสุขภาพ โดยความร่วมมือกับ Action4Diabetes ไม่เพียงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาของเยาวชนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แต่เป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อชีวิตของพวกเขาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนที่มีข้อจำกัดด้านบริการทางการแพทย์" จอห์น เกรแฮม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท Zuellig Pharma กล่าว

ไม่ว่าเบาหวานจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณหรือคนที่คุณรัก พึงจำไว้ว่า เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ หากเข้าใจและเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเอง

ติดตามโครงการของ Action4Diabetes คลิกที่นี่