Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม

Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม

Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม คือการไขรหัสลับสู่ความอิสระผ่าน 5 มิติที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะสองเรื่องสำคัญควบคู่กันไป คือเรื่องของสุขภาพและเรื่องการเงิน ในวัย 35-45 ปี

การอยู่ในยุคที่วิทยาการด้านการแพทย์และสุขภาพก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบัน การมีหลายตัวช่วยที่ทำให้คนเราสามารถยืด "อายุสุขภาพ" ที่ยืนยาวมากขึ้นกว่าในอดีต และคงความหนุ่มสาวกว่าอายุจริงได้อย่างมหัศจรรย์ แต่เหรียญอีกด้านของวิทยาการด้านสุขภาพยืนยาวก้าวหน้านี้ก็มาพร้อมความจริงที่ว่า บางคนอาจมีอายุยืนยาว แต่ช่วงชีวิตเป็นสุขในบั้นปลายกลับไม่เป็นสุข เพราะชีวิตที่ยืนยาว ไม่ได้มีมิติเพียงแค่ "ไม่ตายก่อนวัยอันควร" เท่านั้น แต่ว่าต้องยืนยาว แบบไม่พิการ ไม่ทุพพลภาพ ไม่อ่อนแอ และไม่ป่วยเรื้อรังด้วยถึงจะสุขยืนยาวอย่างแท้จริง

Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม

ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนี้ เราทุกคนต่างรับรู้กันอยู่แล้วว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ววันนี้ นั่นคือ เรามีประชากรที่อายุเกิน 60 ปีมากถึง 20% และคาดว่าภายในปี 2576 สัดส่วนผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) จะเพิ่มขึ้นจนเกิน 30% จากตัวเลขกว่า 14 ล้านคนในปัจจุบัน เท่ากับว่าเวลานั้นเราจะมีผู้สูงวัยมากถึง 30% เข้าข่ายสังคมที่เรียกว่า "สังคมสูงวัยระดับสุดยอด" หรือ Super Aged Society

ทั้งที่ชีวิตหลังเลขสี่... คือ "จุดเปลี่ยน" ครั้งสำคัญที่สุดแต่ต้องยอมรับความจริงที่ว่าที่ผ่านมา มีคนไทยไม่มากนักที่ได้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับชีวิตหลังเกษียณ นอกเหนือจากปัญหาด้านการเงินและสุขภาพส่วนบุคคลแล้ว สังคมไทยยังเผชิญกับอัตราผู้สูงอายุพึ่งพิงที่เพิ่มขึ้นจาก 10.7% ในปี 2537 เป็น 31.1% ในปี 2567 หมายความว่า "คนวัยทำงาน 100 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุถึง 31 คน" ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นที่คนอายุ 40 ปีต้องเริ่มวางแผนอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้

ชีวิตหลังเลขสี่...

จากภารกิจสังคมที่มีความเร่งด่วนนี้ทำให้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ผนึกกำลังกับภาคีเครือข่าย จัดเทศกาลที่เปรียบเสมือนแผนที่นำทางสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน นั่นคือ "Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า" ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้คนไทยเห็นว่าช่วงอายุ 40 ปี คือเวลาของการลงทุนที่สำคัญที่สุดในชีวิต เป็นข้อมูลเชิงวิชาการทางการแพทย์ สุขภาพคนเรา อย่างเช่น มวลกล้ามเนื้อเริ่มจะถดถอยเริ่มจากวัย 40

สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. กล่าวว่า ที่จริงถ้าเราพูดถึงแค่ว่าวัย 40 เราอาจจะรู้สึกว่าก็ยังแข็งแรงอยู่ รู้สึกทุกอย่างดูโอเคอยู่ แต่ว่าเรากําลังจะพูดถึงความรู้ใหม่ที่ว่าจริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ  40 กล้ามเนื้อจะถดถอยอย่าง ลงไปเรื่อยๆ เงินเก็บก็จะลดลงไปในทันที ถ้าเรายังไม่ได้ทําอะไรในการเตรียมบ้านเราก็จะมีปัญหาได้ ขณะเดียวกันมันต้องมีเครื่องมือในการประเมิน เพราะฉะนั้น ในงานนี้ เราจะได้ประเมินทักษะสมองดูว่าสมองเราเป็นอย่างไรบ้าง เป็นตามวัยไหม กล้ามเนื้อเราอยู่ในสภาพแบบไหน เรามีเงินเตรียมพร้อมหรือเปล่า เป็นต้น

Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม

"Life Fest 40+ กำลังสะท้อนความท้าทายทางสังคมที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือ "ภาระพึ่งพิง" ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะจากการที่คนวัยทำงาน 100 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุถึง 31 คนในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนที่หนักแน่นว่า การเตรียมพร้อมทางการเงิน สุขภาพ และคุณภาพชีวิตตั้งแต่วันนี้ คือการทำเพื่อตัวเราเอง และเพื่อความมั่นคงของสังคมไทยในอนาคตข้างหน้าอย่างแท้จริง" สุพัฒนุช กล่าว

ทำไมต้องเป็น 40 ไม่เริ่มเตรียมตัวไปตั้งแต่ 30 เลย เรามองว่าอาจจะเร็วไปนิดหนึ่ง เพราะว่าวัย 30 เขายังไม่มีอะไรถดถอย แล้วเขาเพิ่งสนุกกับการทำงานมาแค่ไม่กี่ปี ยังเอ็นจอยไลฟ์อยากใช้ชีวิตให้มีความสุข แล้วคุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่แก่มาก เลยยังไม่รู้สึกหรือมีคววามตระหนักเรื่องนี้เท่า แต่พอ 40 จะเริ่มเห็นชัดเจนแล้ว ทั้งสุขภาพตัวเอง หรืออย่างพ่อแม่ก็จะเข้าสู่ความสูงวัยอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็มีครอบครัว หรือลูกที่ต้องแบกรับ เพราะฉะนั้นเราได้ประเมินแล้วว่า จุดตัดอยู่ที่ 40  ซึ่งเรายังใช้รีเสิร์ช insight อีกหลายเรื่องประกอบด้วยว่า พอเข้าสู่วัยนี้เขารู้สึกอย่างไร เขาคิดอะไร อยากได้อะไร เพื่อเป็นคําตอบว่าเราจะหาโซลูชั่นให้เขาอย่างไรบ้าง

ส่อง "ภูเขาหนี้" คนไทย 

แสดงตัวเลขโปรไฟล์ลูกหนี้ของเครดิตบูโร โดย สุรพล โอภาสเสถียร ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร กล่าวว่า เราคนไทยทุกคนและทุกเจนเนอเรชันต่างมีความเท่าเทียมกันในเรื่องหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง นั่นคือ "การเป็นหนี้" จากข้อมูลเครดิตบูโร 33 ล้านคน พบว่าคนอายุ 33 ปี มีสินเชื่อรถยนต์มากที่สุด ขณะที่วัยอายุ 43 ปี มีสินเชื่อบ้านและบัตรเครดิตมากที่สุด และคนอายุ 57 ปี มีสินเชื่อเกษตรมากที่สุด และในวัยเริ่มต้นทำงานที่ 20 กว่าๆ ก็มีบัตรเครดิตและเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลกันแล้ว โดยยังเคยชินกับการซื้อสินค้าแบบ "ผ่อนเป็นงวด" แม้แต่ในการซื้อของเล็กน้อย เช่น ลิปสติก หรือชาบู ฯลฯ 

จึงทำให้ ภูเขาหนี้ ของคนไทยรวมสูงสุดอยู่ที่ช่วงอายุ 41-45 ปี แต่ภูเขาหนี้เสีย (ค้างเกิน 90 วัน) เจาะกลุ่มคนอายุน้อยลงทีกำลังเป็นหนี้เสียมากขึ้น โดยคนอายุ 23 ปี เรียกว่าเมื่อกู้ 100 บาท จะพบคนเป็นหนี้เสียถึง 13.6 บาท ซึ่งโดยเฉลี่ยคนไทยมีหนี้ต่อครอบครัวประมาณ 700,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นหนี้นอกระบบประมาณ 100,000 บาท สิ่งที่น่ากังวลคือดอกเบี้ยหนี้นอกระบบสูงกว่าในระบบประมาณ 8 เท่า 

"เมื่อพูดถึงสุขภาพทางการเงินของคนไทย ปัจจุบันคนไทยรายได้เฉลี่ยของคนไทยโต 3% ในขณะที่รายจ่าย (รวมการชำระหนี้) โต 5% ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้กำลังนำไปสู่วิกฤตในอนาคตได้ เพราะจากการสำรวจคนไทย 27 ล้านคนที่เป็นหนี้ พบว่ามีเพียง 25% (4.7 ล้านคน) เท่านั้นที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีพอจะสามารถกู้หรือเติมหนี้ใหม่ได้ และมีคนถึง 7.2 ล้านคน ที่เป็น “หนี้เรื้อรัง” คือจ่ายได้แค่ดอกเบี้ย หรือจ่ายต้นได้เพียงเล็กน้อย ทำให้ต้นไม่ลด แน่นอนว่า สถานการณ์ที่กำลังปรากฏในวันนี้ สะท้อนให้เห็นแนวโน้มในอนาคต...รวมถึงอนาคตอันใกล้นี้ก็ชวนอกสั่นขวัญแขวนเช่นกัน" สุรพล กล่าว

เนื่องจากการพยากรณ์ล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตเพียง 0.3% หากไม่มีมาตรการพยุง และปีหน้าคาดว่าจะเติบโตเพียง 1.6% หากบริษัทมีการเติบโตเพียง 1-2% อาจทำให้รายได้ไม่เพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงที่คนจะต้องตกงาน “หากไม่มีมาตรการแก้หนี้ หนี้เสียของคน Gen Y ในช่วงอายุ 31-45 ปี จะพุ่งสูงขึ้นใน 12 เดือนข้างหน้า” 

"การแก้หนี้ต้องใช้ความอดทนและวินัยสูงโดยไม่มีวันศุกร์แห่งชาติ หรืองดการกินชาบู หมูกระทะ ลองหันมาบริโภคน้ำเปล่าแทนชานมไข่มุก ที่จะได้ทั้งสุขภาพและประหยัดเงินในกระเป๋าเรา จนไม่ต้องสร้างหนี้" สุรพล กล่าวข้อเสนอแนะ

แค่ยืดอายุขัยไม่พอ ต้องยืดอายุสุขภาพด้วย

ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังภานนท์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า แนวทางการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง คือการมีสุขภาพดีเพื่อยืด "Healthspan" หรือช่วงอายุที่มีสุขภาพดีให้อยู่ได้ยาวนานที่สุด ไม่ใช่เพียงการยืดอายุขัย หรือ Lifespan เท่านั้น ความแข็งแรงของมนุษย์มักถึงจุดสูงสุดในช่วงอายุ 20-30 ปี หลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆ ถดถอยลง โดยยกตัวอย่างนักกีฬาระดับโลกที่ออกกำลังกายดูแลตัวเองอย่างดี บางรายก็ยังยืนระยะไปได้เพียงพักหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่หรือไม่น้อยที่ก็ต้องอำลาวงการ เพราะสมรรถนะไม่อาจสู้วัยหนุ่มสาวได้

"เราสามารถยืดอายุขัย (Lifespan) ได้ถึง 80-90 ปี หรือ 100 ปี สำหรับเด็กรุ่นใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาสุขภาพดี (Healthspan) มากกว่า การแพทย์ในยุค 2.0 สามารถยืดชีวิตได้ แต่สุขภาพของผู้ป่วยมักจะต่ำลงแล้ว นั่นคืออาจเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เป้าหมายสำคัญการดูแลสุขภาพคือการให้สุขภาพดีไปจนถึงช่วงใกล้เคียงอายุขัย" ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ กล่าว

ดังนั้น สุขภาพในวัยชรา จึงคือกระจกที่สะท้อนจากพฤติกรรมและสุขภาพในวัยหนุ่มสาว ที่หากเราละเลยจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจเมื่อเข้าสู่วัยชรา เช่น การไม่ออกกำลังกายทำให้มวลกล้ามเนื้อและกระดูกเสื่อมเร็ว, การกินอาหารที่ไม่ดีส่งผลให้เป็นโรคเบาหวานและภาวะอ้วนได้ง่ายขึ้น การละเลยสุขภาพจิตทำให้มีความเครียดสะสมซึ่งอาจส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรม พันธุกรรมไม่ใช่สิ่งเดียวที่กำหนดสุขภาพ หากยังประกอบด้วย พฤตินิสัย สังคมเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการเข้าถึงบริการสุขภาพ เป็นองค์ประกอบที่ต้องไปด้วยกัน โดยเฉพาะในเรื่องของ "พฤตินิสัย" เป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ และเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเองง่ายๆ ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นจากการบริโภค

Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม

อาหารที่เหมาะสมคืออาหารที่สมดุล นั่นคือ ควรมีส่วนประกอบด้วยผักหรือไฟเบอร์สักครึ่งหนึ่งหรือไม่น้อยกว่า 400 กรัมในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงหรือลดปัจจัยที่ทำลายสุขภาพ ทั้งการเลี่ยงน้ำตาล เค็มจัด มันจัด ที่สำคัญ "ควรมีช่วงหิวหรืออดบ้าง เพื่อให้ร่างกายมีกระบวนการกำจัดของเสียหรือ autophagy"

มีอะไรใน "Life Fest 40+"

หัวใจสำคัญของเทศกาล "Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า" คือการไขรหัสลับสู่ความอิสระผ่าน 5 มิติที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะสองเรื่องสำคัญควบคู่กันไปคือเรื่องของ สุขภาพ (Health+) และเรื่องการเงิน (Wealth+) จากสถิติบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าวัย 35-45 ปี คือช่วงวัยสร้างตัวที่มีการก่อหนี้สินเชื่อบ้านมากที่สุด ขณะที่หนี้บัตรเครดิตสูงสุดรออยู่ที่อายุ 43 ปี สะท้อนว่า นี่คือวัยที่คนไทย "ผ่อนทุกอย่าง" และหากความสมดุลของการรับจ่ายสั่นคลอน โอกาสที่จะต้องเผชิญกับหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทั้งยังรวมถึงการเสริมสร้างอิสระทางด้านจิตใจ (Mind+) ด้วยการยกระดับสุขภาพจิตใจ สร้างสมดุลชีวิต ด้านไลฟ์สไตล์ (Living+) การปรับไลฟ์สไตล์และที่อยู่อาศัย เปิดมุมมองชีวิตใหม่ที่ต้องพร้อมต้อนรับชีวิตสูงวัยวันข้างหน้า รวมถึงด้านเทคโนโลยี (Digital+) ที่ส่งเสริมการปรับตัวก้าวทันเทคโนโลยี ใช้นวัตกรรมอย่างชาญฉลาดและปลอดภัย

Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม

ภายในงาน สสส. ได้เน้นย้ำถึงการลงมือปฏิบัติจริงผ่าน 4 โซนกิจกรรมสำคัญ ตั้งแต่โซน "เช็กก่อน รู้ก่อน" ทดสอบความพร้อมของชีวิต 4 ด้าน ทั้งร่างกาย สมรรถภาพ สมอง และการเงิน "วัยอิสระในวันหน้า" เติมเต็มประสบการณ์เพื่อลองใช้ชีวิตในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป "ทางเดินแห่งวัย" จำลองให้เห็นตัวเองในวันข้างหน้าเพื่อกระตุ้นให้เริ่มดูแลตัวเอง และกล่องสุ่มยักษ์การตั้งคำถามชวนคิดที่สะท้อนให้เห็นว่าชีวิตไม่ใช่กล่องสุ่มที่จะเดาทางได้ ซึ่งทั้งทาง สสส.และภาคีเครือข่ายมาร่วมกันระดมพลังบอกเล่าเต็มพื้นที่ 

"สสส.อยากมีภาคีที่พร้อมแล้วมาลุยด้วยกันหลากหลายนะคะ เพราะจริงๆ ทุกคนทําได้ค่ะ เราเชื่อในพลังเล็กๆ ของคนทุกคน ไม่ว่าจะใครก็ตาม เพราะถ้าสังคมรู้สึกตระหนักในเรื่องนี้แล้ว ลุกขึ้นมาทําจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในขณะเดียวกันบางกระบวนการ ไม่สามารถเกิดขึ้นโดยธรรมชาติได้ แปลว่ามันต้องมีกลยุทธ์ในการออกแบบ ตรงนี้จะเป็นบทบาทที่ สสส.จะจับมือกันกับหลายหลายคนเพื่อออกแบบว่าแล้วทางแก้ปัญหาที่ชัดเจนให้ครบในทุกด้าน ที่สำคัญต้องสามารถเข้าถึงด้วย" สุพัฒนุช กล่าวปิด

ท้ายที่สุดเพราะการจะทำให้อายุยืนยาว อาจไม่เดินไปพร้อมกับการมีสุขภาพที่แข็งแรงพอที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างเบิกบาน ดังนั้น สูงวัยให้พร้อม ต้องเตรียมก่อน 40!

Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม Life Fest 40+ รู้ก่อนดีกว่า สูงวัยให้พร้อม (วันนี้) มิติที่ไม่อาจมองข้าม