123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน

123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน

123 ปี กรมชลประทาน ภายใต้แนวคิด "123 ปี พลังน้ำ พลังอนาคต (Power of Water – Power Driven Future)" ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศ

นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การพัฒนาแหล่งน้ำการบริหารจัดการ การป้องกันและบรรเทาภัย และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำคือ ภาระกิจหลักของ กรมชลประทาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ควบคู่ไปกับการป้องกันความเสียหายจากน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ

ในวาระที่กรมชลประทานครบรอบ 123 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 กรมชลประทานได้จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทานขึ้นโดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานภายใต้ชื่องาน 123 ปี พลังน้ำ พลังอนาคต (Power of Water-Power Driven Future) 

ด้วยการสะท้อนภารกิจสำคัญของกรมชลประทานในการสืบสานพระราชปณิธานด้านการบริหารจัดการน้ำ ขยายโอกาสการเข้าถึงน้ำในทุกพื้นที่ เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศ

123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน

โดยยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าปฏิบัติงานภายใต้การบริหารงานตามนโยบาย "RID UNITED" ภายใต้แนวคิด "ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน" ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ กรมชลประทาน 20 ปี (พ.ศ.2561 - 2580) และมุ่งสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะภายในปี 2580 เน้นการทำงานร่วมกันอย่างมีมาตรฐาน บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ พร้อมทั้ง ยกระดับการทำงานในองค์กรให้ทันสมัย สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ของโลก และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศปัจจุบัน พร้อมเดินหน้าพัฒนาการทำงานอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อมุ่งสู่การบริหารจัดการน้ำที่มั่นคงและยั่งยืน

อีกทั้งในปีนี้ ครบรอบ 120 ปี ม.ล.ชูชาติ กำภู "บิดาแห่งชลกร" ผู้บุกเบิกและก่อสร้างงานชลประทาน ซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังได้นำไปปฏิบัติ กรมชลประทานจึงได้ปรับปรุงอาคารศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสวัสดิการบุคลากรใหม่ เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของม.ล.ชูชาติ กำภู และเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อการพัฒนางานชลประทานอย่างเต็มศักยภาพ

123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน

ภายหลังพิธีเปิดงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/68 โดยที่ผ่านมา กรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนทุกภาคส่วนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะด้านการเกษตร มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศกว่า 10 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 9 แสนไร่ โดยไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ ด้านพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ มีการวางแผนเพาะปลูกได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้สามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 60,000 ไร่ โดยผลผลิตไม่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งเดินหน้ารับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด

ด้านอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนปี 2568 จะมีปริมาณฝนมากกว่าปีที่ผ่านมา (2567) จากอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญา และฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ มีความจุอยู่ที่กว่าร้อยละ 50 และยังมีพื้นที่สำหรับรองรับน้ำฝนได้อีก โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที

123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน 123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน 123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน 123 ปี กรมชลประทาน จากหยดน้ำ สู่ความยั่งยืน