MEDEZE มีแผนที่จะนำหุ่นยนต์และ AI มาใช้กับ ATMPs นวัตกรรรมผลิตเซลล์

MEDEZE มีแผนที่จะนำหุ่นยนต์และ AI มาใช้กับ ATMPs นวัตกรรรมผลิตเซลล์

ความคืบหน้าโครงการฯ Advanced Therapy Medicinal Products Sandbox หรือ ATMPs แซนด์บ็อกซ์ ศูนย์การแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค และรพ.วชิระภูเก็ต ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE สนับสนุนห้องปฏิบัติการ สถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ และทุนวิจัย

เริ่มต้น 3 กลุ่ม ได้แก่ โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม โรคไขสันหลังเสื่อมใช้ เซลล์ต้นกำเนิด จากไขมันของผู้ป่วยเองสร้างการฟื้นฟูเนื้อเยื่อของหมอนรองกระดูก ลดการเสื่อม และลดอาการปวดเรื้อรังโดยไม่ต้องผ่าตัดโรคผิวหนัง การฟื้นฟูผิว ใช้ autologous adipose-derived stem cells เพื่อซ่อมแซมเซลล์ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ส่วนมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ใช้แนวทางภูมิคุ้มกันบำบัดโดยเฉพาะ NK cells เพื่อเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับมะเร็งลำไส้ใหญ่ 

โครงการวิจัยทดลองนำร่อง ATMPs แซนด์บ็อกซ์ (ATMPs Sandbox) ต้องมีการออกแบบการทดลองที่เข้มแข็งและมีการควบคุม (control arm) เพื่อยืนยันผล และพิสูจน์ประสิทธิภาพอย่างชัดเจนสร้างความเชื่อมั่นในนวัตกรรมการแพทย์ขั้นสูง และบรรลุเป้าหมายในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการปรับปรุงอาคาร ศูนย์การแพทย์บางรัก เพื่อจัดตั้งสำนักงานศูนย์กลางโครงการ รวมถึงห้องปฏิบัติการ เพื่อดำเนินงานวิจัย และติดตามประสิทธิภาพของการทดลอง รวมถึงรายละเอียด และเกณฑ์สำหรับผู้ที่สามารถเข้าร่วมรักษา ซึ่งจะต้องผ่านมาตรฐานของคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ของสธ. อย่างเคร่งครัด และทำตามกฎ First Come, First Served ถ้าหากผ่านเกณฑ์

ทั้งนี้ คาดว่า ศูนย์การแพทย์บางรัก จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นอาคาร ATMPs แห่งชาติสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายน 2568 ซึ่งศูนย์แห่งนี้จะวิจัย “โรคข้อเข่าเสื่อม - โรคผิวหนังและการชะลอวัย” ขณะที่ ศูนย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จะการดำเนินการวิจัย ทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ 3 โรค “โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม - กลุ่มโรคผิวหนังและการชะลอวัย – มะเร็งลำไส้” จะมีการส่งงานวิจัยต่อคณะกรรมการจริยธรรม ATMPs ในเดือนพฤศจิกายน 2568 เมื่อได้รับการอนุมัติแล้วคาดว่าจะมีการส่งกลับไปศูนย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อทำการทดลองตามขั้นตอนต่อไป โดยในอนาคตจะมีการวิจัยโรครักษาหมอนรองกระดูกเสื่อม, มะเร็งลำไส้ และฟื้นฟูการชะลอวัย เพิ่มเติมด้วย   

แม้สเต็มเซลล์จะอยู่ทั่วร่างกาย แต่การฟื้นฟูตัวเองของเซลล์จะช้าลงหลังอายุ 25 ปี ซึ่งนำไปสู่โรคต่างๆ ดังนั้นการบำบัดของ MEDEZE จึงมุ่งใช้เนื้อเยื่อที่อ่อนเยาว์เพื่อลดกระบวนการของโรค และมีแผนที่จะนำ “หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI)” มาใช้ในการผลิตเซลล์ โดยจะติดตั้งหุ่นยนต์ผ่าตัดอัตโนมัติ ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการเซลล์ด้วยความแม่นยำสูง ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ Shibuya ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับโลกจากญี่ปุ่น โดยหุ่นยนต์นี้สามารถขยายเซลล์จาก 500,000 เซลล์ เป็น 50 ล้านเซลล์ ได้ในเวลาเพียง 7 วัน และจะเริ่มนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ในเดือนมกราคมของปี 2569 การใช้หุ่นยนต์เพื่อการผลิตทางชีวภาพคาดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยจากฐานการผลิตไปสู่การเป็นผู้นำด้านชีวเภสัชภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน 

มติที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมมอบ สปสช. ศึกษาข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medical Products, ATMPs) อย่างรอบด้าน และจัดทำข้อเสนอต่อคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข รวมถึงคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก่อนเสนอคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพิจารณาต่อไป