ปี 2023 จุดเริ่มต้นทศวรรษของโลก AI

ปี 2023 จุดเริ่มต้นทศวรรษของโลก AI

การเข้ามาของ AI ทำให้หลายคนต่างกังวลว่าจะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ และอาจจะทำให้บางอาชีพหายไป แต่อีกแง่หนึ่งก็ถือเป็นอีกแรงหนุนให้ภาพรวมอุตสาหกรรมเติบโตไปได้ไกลในอนาคต

โลกปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก รวมถึงความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อีกทั้งกระบวนการทางธุรกิจมีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องใช้ความรู้ และทักษะขั้นสูง ซึ่งมนุษย์อาจมีขีดจำกัดด้านศักยภาพในการทำงาน และเทคโนโลยีแบบเดิม ทำให้บริษัทต่างๆ ไม่สามารถพึ่งพาเพียงแค่เทคโนโลยีแบบเดิมในการทำธุรกิจได้อีก จึงมีการนำ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้ในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ ทั้งในด้านการบริหารจัดการ และการตลาด เช่น

  • Customer Service ด้านบริการลูกค้า หัวใจสำคัญของการบริการลูกค้าคือ การสื่อสารซึ่งก่อนหน้านี้เป็นงานที่ต้องใช้มนุษย์เป็นหลัก แต่หลังจากมีเทคโนโลยี AI ทำให้มีการคิดค้นและพัฒนา Chatbot ขึ้นมา เพื่อช่วยในการสื่อสารและสนับสนุนการให้บริการลูกค้า โดยสามารถพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าแบบอัตโนมัติได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • Logistic การจัดส่งสินค้า, จัดการคลังสินค้า มีการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยปรับปรุง และพัฒนาการดำเนินงาน โดยมีการใช้งาน Robotics ในภาคการผลิต และมีการใช้รถขนส่งสินค้าแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AI ในการวางแผนการจราจรและเส้นทางการเดินทางที่เหมาะสม อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการจัดการปัญหาคลังสินค้า ด้วยระบบการวิเคราะห์ข้อมูลในคลังสินค้า โดย Morgan Stanley ได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ในปี 2024 จะมีรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ วิ่งบนท้องถนนในสหรัฐมากกว่าร้อยคัน ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง 25-30% ต่อไมล์ และในท้ายที่สุดอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้คนขับรถอีกต่อไป
  • Personalized Marketing (การตลาดเฉพาะบุคคล) ในปัจจุบันภาคธุรกิจเริ่มให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งหากแบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในระดับบุคคลแล้ว รวมถึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการ และโปรโมชันต่างๆ ได้ถูกกลุ่มเป้าหมายถูกที่และถูกเวลา ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม และกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AI ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน ในขณะที่มนุษย์ถูกลดบทบาทลง

นักวิเคราะห์มองว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งอาจทำให้มีการลดจำนวนคนที่ใช้ในกระบวนการต่างๆ ลง จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ห่วงโซ่อุปทานโลกเผชิญกับการรับมือกับปัญหาการหยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดส่งผลให้เกิดการขาดแคลนสินค้าและชิ้นส่วนประกอบต่างๆ รวมทั้งยังเกิดความล่าช้าในการขนส่ง และปัญหาห่วงโซ่อุปทานยังถูกซ้ำเติมอีกรอบจากผลกระทบของการเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ปัญหาขยายเป็นวงกว้างและยากที่จะรับมือปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เห็นจุดบกพร่องของกระบวนการเหล่านี้ จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนา AI เพื่อช่วยให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจวิธีการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างเช่น ตรวจสอบและประเมินได้ว่ารถบรรทุกขนส่งคันไหนจำเป็นที่จะต้องมีการซ่อมแซมหรือต้องมีการบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังช่วยประมวลผลเพื่อหาช่องทางในการจัดส่งสินค้าที่เหมาะสมมากที่สุด และยังสามารถติดตามสถานะการจัดส่งแบบ Real-Time ได้

ตัวอย่างบริษัทที่ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ที่นำ AI มาใช้คือ Maersk ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ และสายการเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย Maersk ได้มีการนำ AI เข้ามาใช้ในกระบวนการขนส่งสินค้า และวางแผนที่จะพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการต่างๆ ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ใช้ AI ในการสร้าง Predictive Cargo Arrival Model ในการคาดการณ์การมาถึงของสินค้าและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AI เพื่อช่วยในการประเมินช่วงเวลาในการส่งออกสินค้าที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยในการวางแผนการจัดส่งสินค้า การจัดการสินค้าคงคลัง ซึ่งในท้ายที่สุดจะช่วยให้ต้นทุนลดลง ทั้งนี้ Maersk ยังใช้ AI ประเภท Large Language Model เพื่อช่วยในการจำแนก จดจำ สรุป ข้อมูลที่ถูกรวบรวมมา เช่น การทำธุรกรรมของลูกค้าในปีที่ผ่านมา ศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าจากข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อดูจุดที่อาจเกิดปัญหา และนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาเหล่านั้น เพื่อหาแนวทางแก้ไขหรือนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป

กลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการมาของ AI

การมาของ ปัญญาประดิษฐ์ ทำให้หลายบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องได้รับประโยชน์กันอย่างแพร่หลาย เช่น Microsoft ที่เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการลงทุนใน AI มาตั้งแต่ในช่วงแรกเริ่ม ถือเป็นบริษัทที่มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในทศวรรษที่ผ่านมา Microsoft เติบโตมาจากธุรกิจ Cloud และหลังจากนี้เชื่อว่าการเปิดตัวของ ChatGPT จะเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของบริษัท ซึ่งเป็นยุคที่ AI แทรกซึมเข้ามาในกิจกรรมมนุษย์มากขึ้น โดย ChatGPT ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ในการมีผู้ใช้งานครบ 100 ล้านคน ทำลายสถิติแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Tiktok ที่เคยทำไว้ 9 เดือน

ปี 2023 จุดเริ่มต้นทศวรรษของโลก AI

ChatGPT ใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือน ในการมีผู้ใช้งานครบ 100 ล้านคน

อีกกลุ่มบริษัทที่ได้ประโยชน์ชัดเจนคือ กลุ่มบริษัทที่ผลิตชิปสำหรับ AI อย่าง NVIDIA ซึ่งรายได้ส่วนนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Data Center ของบริษัท โดยในไตรมาสล่าสุดโตมากถึง +14% YoY ขณะที่รายได้ส่วนอื่นหดตัวลง ซึ่ง Microsoft และ Google ผู้นำ Chatbot AI เป็นลูกค้าของ NVIDIA ทั้งคู่ ด้วยกระแสของ AI ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทมีการปรับตัวพุ่งสูงขึ้นและกลายเป็นบริษัทผลิตชิปรายแรกที่มี Market Capital แตะที่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Global X คาดการณ์ถึงเม็ดเงินที่จะใช้จ่ายในเครื่องประมวลผลสำหรับ AI บน Cloud และ Data Centers อยู่ที่ระดับ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2026 เพิ่มขึ้นถึง +245% นับตั้งแต่ปี 2022 ทั้งนี้เพื่อรองรับการประมวลผลข้อมูลที่มีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ของผู้ผลิต Chip ให้เติบโตได้ต่อเนื่องในระยะข้าง

ปี 2023 จุดเริ่มต้นทศวรรษของโลก AI

Source : Global x ETF

AI เข้ามามีบทบาทต่อโลกในยุคปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นหลังจากนี้ อาจมีบางอาชีพที่หายไป หรือบางอาชีพเกิดขึ้นใหม่ โดย AI ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องให้เกิดประโยชน์เฉพาะด้านมากมายในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนของกระบวนการ และข้อมูล ช่วยให้มีความซับซ้อนที่ลดลง มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเชื่อว่าการมาของ ChatGPT จาก Microsoft เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของยุค AI อย่างแท้จริง ที่จะช่วยผลักดันให้มีการใช้งานหลากหลายขึ้น เข้าถึงผู้คนมากขึ้น และจะเป็นแรงหนุนให้ภาพรวมอุตสาหกรรมเติบโตไปได้อีกไกลในระยะข้างหน้า

ที่มา: Bloomberg, Global x ETF, CNBC

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมา และพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสม และรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยง และเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0-2633-6000 กด 4, 0-2080-6000 กด 4 และ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds