ฮ่องกง ขึ้นแท่นศูนย์กลาง Family Office แห่งเอเชีย ดึงดูดมหาเศรษฐีไทย

ฮ่องกง ขึ้นแท่นศูนย์กลาง Family Office แห่งเอเชีย ดึงดูดมหาเศรษฐีไทย

ฮ่องกงขึ้นแท่นศูนย์กลาง Family Office แห่งเอเชีย ดึงดูดมหาเศรษฐีไทยท่ามกลางความไม่แน่นอนในภูมิภาค ด้วยทำเลเชิงยุทธศาสตร์และระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าของสินทรัพย์จากทั่วโลกที่มองหาการกระจายความมั่งคั่งและความมั่นคง

ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคมที่สั่นสะเทือนไปทั่วหลายภูมิภาคของโลก กลุ่มมหาเศรษฐีและครอบครัวผู้มั่งคั่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หันมาให้ความสนใจกับ ฮ่องกง มากขึ้น ในฐานะที่เป็นแหล่งศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์สำหรับการบริหารความมั่งคั่งและการจัดตั้ง Family Office

ด้วยสถานะพิเศษในฐานะศูนย์กลางการเงินนานาชาติชั้นนำของเอเชีย ผนวกกับกรอบการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งและโอกาสการลงทุนที่หลากหลาย ฮ่องกงจึงก้าวขึ้นมาเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับกลยุทธ์การบริหาร รักษาและต่อยอดทรัพย์สินอย่างมีชั้นเชิง

ฮ่องกง ขึ้นแท่นศูนย์กลาง Family Office แห่งเอเชีย ดึงดูดมหาเศรษฐีไทย

ตลาดบริหารสินทรัพย์เติบโตแม้ภาวะไม่แน่นอน

ฮ่องกงซึ่งมีประวัติยาวนานกว่าศตวรรษในฐานะศูนย์กลางสำคัญของการสืบทอดความมั่งคั่งของครอบครัว ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมรักษาสถานะการเป็นศูนย์กลางบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งข้ามพรมแดนอันดับหนึ่งของเอเชีย และอันดับสองของโลก

ความน่าเชื่อถือดังกล่าวยิ่งได้รับแรงหนุนจากผลงานในตลาดทุนที่โดดเด่น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ฮ่องกงสามารถระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ได้ถึง 107,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 444,600 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 7 เท่า และขึ้นแท่นเป็นตลาดระดมทุนอันดับหนึ่งของโลก

ความน่าสนใจของฮ่องกงไม่จำกัดเพียงการให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม ด้วยพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่งานศิลปะ หุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี ไปจนถึงสินทรัพย์ดิจิทัล สตาร์ตอัป การเงินสีเขียว พลังงานรูปแบบใหม่ และโครงการเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

ที่น่าจับตาเป็นพิเศษ คือ ท่าทีเชิงรุกของ ฮ่องกง ต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์เสมือน 11 แห่ง ที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสนับสนุนนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการคงมาตรฐานกำกับดูแลที่เข้มงวด นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ผ่านกฎหมาย Stablecoins Bill เพื่อจัดตั้งระบบออกใบอนุญาตแก่ผู้ให้บริการเหรียญ Stablecoin ที่อ้างอิงสกุลเงินทั่วไป (Fiat-Referenced Stablecoins: FRS) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกและต่อยอดนวัตกรรมในอนาคต

ประตูสู่ตลาดนวัตกรรม

ฮอร์สท์ เบนเท (Horst Bente) ผู้ก่อตั้ง ADLEGACY และหลานชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์ Adidas กล่าวสะท้อนเสน่ห์ที่ยืนยงของฮ่องกงในสายตาผู้บริหารความมั่งคั่งระดับโลก ว่า สำหรับตน ฮ่องกงคือประตูสู่เอเชียมาโดยตลอด นักลงทุนอยู่ที่นี่ เงินทุนอยู่ที่นี่ และแน่นอนว่าบุคลากรคุณภาพก็อยู่ที่นี่

ในฐานะเมืองหลักของเขตเศรษฐกิจพิเศษกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area: GBA) ฮ่องกงมีทำเลเชิงยุทธศาสตร์และเป็นประตูสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรม พื้นที่ GBA มีประชากรกว่า 86 ล้านคน สร้างมูลค่า GDP ราว 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา และเป็นที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Huawei, Tencent และ ZTE

สำหรับนักลงทุนไทยที่มองหาโอกาสในสาขา AI หุ่นยนต์ ไบโอเทค และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ฮ่องกงถือเป็นฐานเชื่อมสู่ตลาดที่มีกฎเกณฑ์การกำกับดูแลที่ได้มาตรฐานสากล ทันสมัย สอดคล้องกับแนวทางระดับโลก และเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อเชื่อมเข้าสู่ตลาดภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายใต้หลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ฮ่องกง ผสานข้อได้เปรียบจากการเชื่อมต่อกับตลาดโลกและการเข้าถึงตลาดภายในประเทศ พร้อมคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระและความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรม

ท่าเรือเสรีที่มีเสถียรภาพและความมั่นคง

ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหลักในต่างประเทศ มอบความแน่นอนทางกฎหมายที่นักลงทุนขั้นสูงต้องการ ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐมาตั้งแต่ปี 2526 ก็ช่วยรักษาเสถียรภาพด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งหาได้ยากในตลาดการเงินโลก

ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางการใช้เงินหยวน (RMB) นอกประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องเงินหยวนอย่างเพียงพอโดยไม่มีข้อจำกัดด้านการควบคุมเงินทุน เมื่อผนวกกับระบบกฎหมายคอมมอนลอว์และการบริหารการคลังอย่างรอบคอบ ทำให้ที่นี่ติดอันดับเศรษฐกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุดของโลกอย่างต่อเนื่อง

โรเบิร์ต บุคบาวเออร์ รองประธาน Swarovski International Holding กล่าวว่า เมื่อตนมองไปที่ฮ่องกง เห็นเมืองที่มอบเสถียรภาพ ความคาดการณ์ได้ และสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับ Family Office ที่ต้องการรากฐานที่มั่นคงเพื่อการเติบโตระยะยาว

สิ่งสำคัญ คือ ฮ่องกงไม่มีข้อจำกัดด้านการถือครองทรัพย์สินของชาวต่างชาติ หรือการเคลื่อนย้ายทุน บุคลากร สินค้า และข้อมูล ทำให้ตอกย้ำสถานะของที่นี่ในฐานะหนึ่งในเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก สถานะท่าเรือเสรีนี้ ผสานกับระบบตรวจคนเข้าเมือง การเงิน การคลัง และภาษีที่เป็นอิสระ สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการบริหารความมั่งคั่งระหว่างประเทศ

โจ ไช่ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน Alibaba Group เล่าประสบการณ์ว่า ตนค้นพบฮ่องกงครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1980 และมองว่ามันเป็นเมืองนานาชาติอย่างแท้จริงที่มีพลังงานเชิงผู้ประกอบการซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้ แม้ในช่วงเวลาท้าทาย ฮ่องกงก็ยังคงโดดเด่นด้วย DNA ของตลาดเสรี ตลาดการเงินที่มีความคึกคัก และสภาพแวดล้อมด้านภาษีที่เอื้อประโยชน์ ทำให้ในมุมมองของตน ฮ่องกงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจและ Family Office ในการเติบโต

ฮ่องกง ขึ้นแท่นศูนย์กลาง Family Office แห่งเอเชีย ดึงดูดมหาเศรษฐีไทย

ระบบนิเวศ Family Office ที่แข็งแกร่งและเอื้อต่อการเติบโต

ข้อมูลจาก Deloitte ระบุว่า ภายในปี 2566 ฮ่องกงมี Single Family Office มากกว่า 2,700 แห่ง ตอกย้ำบทบาทของเมืองในฐานะแม่เหล็กดึงดูดความมั่งคั่งจากทั่วโลก หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลฮ่องกง (Invest Hong Kong หรือ InvestHK) ได้เปิดตัว "FamilyOfficeHK" ตั้งแต่ปี 2564 เพื่อเป็นช่องทางเฉพาะสำหรับครอบครัวที่สนใจจัดตั้ง Family Office ในฮ่องกง โดยเปิดโอกาสให้ครอบครัวผู้สนใจขอคำปรึกษาเฉพาะบุคคลอย่างเป็นความลับพร้อมการสนับสนุนอย่างครบถ้วน

นับตั้งแต่มีการประกาศนโยบายประจำปี 2565 ทีมงาน FamilyOfficeHK ของ Invest Hong Kong ได้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของภาคส่วนนี้ ทีม FamilyOfficeHK ภายใต้ InvestHK ได้บรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมการจัดตั้งหรือขยายสำนักงานครอบครัว (FamilyOffice) มากกว่า 200 แห่งในฮ่องกง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้ในคำปราศัยนโยบายปี 2022 โดยประสบความสำเร็จได้ก่อนกำหนด ความสำเร็จนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความเป็นผลสำเร็จของยุทธศาสตร์ภาครัฐ แต่ยังยืนยันสถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการบริหารความมั่งคั่งที่มีความน่าเชื่อถือและมีพลวัต รัฐบาลฮ่องกงยังย้ำจุดยืนในการสนับสนุนการพัฒนา Family Office อย่างแข็งขัน และพร้อมต้อนรับเจ้าของสินทรัพย์จากทั่วโลก

รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกในการตั้ง Family Office ผ่านขั้นตอนที่กระชับ และบริการให้คำปรึกษาฟรี โดย Single Family Office ที่ไม่ได้ดำเนินกิจกรรมภายใต้การกำกับดูแล ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลใดๆ

ระบบนิเวศ Family Office ของฮ่องกงยังได้รับการสนับสนุนจากบุคลากรด้านการเงินระดับโลกกว่า 267,000 คน (ข้อมูลปี 2566) ซึ่งพร้อมมอบบริการบริหารความมั่งคั่งแบบเฉพาะบุคคลและโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ ซึ่งมักหาไม่ได้ในตลาดภายในประเทศ

สภาพแวดล้อมนี้เอื้อต่อครอบครัวผู้มั่งคั่งไทยและนักลงทุนในภูมิภาค ให้สามารถขยายธุรกิจสู่เวทีนานาชาติ ควบคู่ไปกับการบริหารความมั่งคั่งด้วยกลยุทธ์ที่ซับซ้อนและรัดกุม และท่ามกลางความไม่แน่นอนในภูมิภาค ปัจจัยผสมผสานระหว่างเสถียรภาพ นวัตกรรม และตำแหน่งยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของเอเชีย ทำให้ฮ่องกงเป็นทางเลือกที่โดดเด่นสำหรับครอบครัวมหาเศรษฐีไทยที่ต้องการกระจายความเสี่ยง ปกป้องสินทรัพย์ และคว้าโอกาสการเติบโตในตลาดขนาดใหญ่และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลก