ทำไม 'ฮ่องกง' ถึงเป็นสวรรค์ของเศรษฐี เส้นทางใหม่สู่การพำนักถาวร

ทำไม 'ฮ่องกง' ถึงเป็นสวรรค์ของเศรษฐี เส้นทางใหม่สู่การพำนักถาวร

"ฮ่องกง" เปิดตัวโครงการ New CIES โอกาสทองสำหรับผู้มีความมั่งคั่งสูง รับสิทธิ์ตั้งถิ่นฐานถาวรที่ฮ่องกง พร้อมเข้าถึงฮับการเงินอันดับ 1 เอเชีย

"ฮ่องกง" กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับ "การย้ายถิ่นพำนัก" ของครอบครัวที่มีความมั่งคั่งสูง (High-Net-Worth Individuals) ด้วยความโดดเด่นในฐานะศูนย์กลางทางการเงินและวัฒนธรรมของเอเชีย

ขณะนี้ ฮ่องกงได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่ชื่อว่า New Capital Investment Entrant Scheme หรือ New CIES เปิดโอกาสให้นักลงทุน รวมถึง "ครอบครัวผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง" ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์สามารถขอสิทธิ์พำนักถาวรได้  นำไปสู่การเข้าถึงระบบนิเวศการลงทุนที่มีความคึกคักและเต็มไปด้วยโอกาสมากมาย

ภายใต้เงื่อนไขของโครงการ New CIES นักลงทุนจำเป็นต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และหากได้รับการอนุมัติแล้ว ผู้สมัครสามารถพาครอบครัวไปพำนักได้ด้วย ซึ่งรวมถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังมีอายุต่ำกว่า 18 ปี และยังไม่ได้แต่งงาน มาพำนักอาศัยในฮ่องกงได้ด้วย

ทำไม \'ฮ่องกง\' ถึงเป็นสวรรค์ของเศรษฐี เส้นทางใหม่สู่การพำนักถาวร

สำหรับคุณสมบัติด้านการเงิน นักลงทุนจะต้องแสดงหลักฐานการมีสินทรัพย์สุทธิ (Net Assets) มูลค่าอย่างน้อย 30 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 130 ล้านบาท และต้องมีสินทรัพย์มูลค่าดังกล่าวต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อนยื่นใบสมัคร โดยผู้สมัครจะต้องนำเงินจำนวนเท่ากันนี้ไปลงทุนในสินทรัพย์ใน ฮ่องกง ตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวมที่เข้าเกณฑ์ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง

ภายใต้โครงการฯ นี้ ผู้ลงทุนสามารถถือครองทรัพย์สินต่างๆ ผ่านนิติบุคคลที่ตนเองเป็นเจ้าของทั้งหมด ซึ่งเอื้อต่อการทำงานร่วมกับธุรกิจสำนักงานครอบครัว (family office) ของฮ่องกงอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไม \'ฮ่องกง\' ถึงเป็นสวรรค์ของเศรษฐี เส้นทางใหม่สู่การพำนักถาวร

"ฮ่องกง" ทำเลยุทธศาสตร์สำคัญ

ทำเลที่ตั้งของ ฮ่องกง เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนให้พิจารณาย้ายมาที่นี่ เพราะฮ่องกงเป็นเสมือน "ประตู" สู่จีนแผ่นดินใหญ่และเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ชาร์ลส์ ลูชางโก (Charles Luchangco) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของสำนักงานครอบครัว (family office) Arete Capital Asia ซึ่งที่เติบโตในฟิลิปปินส์และพำนักในฮ่องกงมานานกว่า 20 ปี ชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบสำหรับโอกาสใหม่ ๆ

"ผมเชื่อว่าฮ่องกงจะมีบทบาทมากขึ้นในการเป็นจุดเชื่อมโยงเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

นอกจากนี้ ฮ่องกงมีเที่ยวบินตรงทุกวันไปยังกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ และสามารถเดินทางไปยังเซี่ยงไฮ้ โตเกียว หรือสิงคโปร์ได้ภายใน 4 ชั่วโมงเท่านั้น 

ด้วยฮ่องกงเป็น "เขตบริหารพิเศษ" ทำให้มีข้อได้เปรียบในการเข้าถึงตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ได้ โดยยังคงมีอิสระภายใต้ระบบกฎหมายและการเงินของตนเอง

เจาะลึกภาษีฮ่องกง ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่

หนึ่งในจุดแข็งสำคัญ นักลงทุนมายังฮ่องกงคือ ระบบภาษีที่เรียบง่ายและเป็นมิตร ปัจจุบันฮ่องกงใช้ "ระบบภาษีตามหลักแหล่งเงินได้" (Territorial Tax System) ซึ่งหมายความว่าจะเก็บภาษีเฉพาะกับรายได้ที่เกิดขึ้นภายในฮ่องกงเท่านั้น ที่สำคัญคือ ฮ่องกงไม่มีการเก็บภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์การลงทุน, ภาษีเงินปันผล, ภาษีมรดก และไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีการขาย ซึ่งทำให้ภาระภาษีโดยรวมต่ำกว่าประเทศในแถบตะวันตกหลายแห่งอย่างเห็นได้ชัด

ลูชางโก กล่าวเสริมว่า ฮ่องกงมีสภาพแวดล้อมการทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูง การจัดตั้งบริษัท ดึงดูดบุคลากรระดับสูง และการประสานงานกับภาครัฐทำได้ง่าย ระบบภาษีที่เรียบง่ายยังเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

อีกทั้งฮ่องกงมีอุปสรรคด้านขั้นตอนทางราชการที่ไม่ซับซ้อน และมีกฎระเบียบที่อำนวยความสะดวกทางการค้าสูง ประกอบกับนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจที่ชัดเจน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดทั้งบุคลากรผู้มีความสามารถและการลงทุนจากทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามายังฮ่องกง

ระบบนิเวศการเงินฮ่องกง ครบจบในที่เดียว

ฮ่องกงเป็น "ศูนย์กลางการเงิน" และมีสภาพแวดล้อมการลงทุนอันดับหนึ่งของโลก โดยมีรากฐานจากกรอบการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น ทำให้เกิดสมดุลระหว่างความโปร่งใสที่ตรวจสอบได้กับความคล่องตัวที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ ทั้งหมดนี้ทำให้ฮ่องกงมีความน่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับนักลงทุนผู้มั่งคั่งจากทั่วเอเชียและทั่วโลก

ฮ่องกงถูกจัดอันดับให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากดัชนีศูนย์กลางการเงินโลก Global Financial Centres Index นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางด้านการบริหารจัดการความมั่งคั่งข้ามพรมแดนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสวิตเซอร์แลนด์ โดยมาร์ค ทักเกอร์ (Mark Tucker) ประธานกรรมการธนาคาร HSBC คาดการณ์ว่าฮ่องกงจะก้าวขึ้นแซงหน้าสวิตเซอร์แลนด์ได้ภายในปี 2027 - 2028

ปัจจัยเสริมสถานะนี้คือการที่มีธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลกมากถึง 70 แห่งจาก 100 อันดับแรกตั้งอยู่ในฮ่องกง ตอกย้ำความโดดเด่นทางการเงินที่มีระบบนิเวศที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับกิจกรรมการลงทุนที่ซับซ้อน นั่นหมายความว่าบุคคลผู้มีความมั่งคั่งสูงที่ย้ายมาปักหลักในฮ่องกงสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินระดับ World Class พร้อมทั้งโอกาสลงทุนที่หลากหลาย และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่มีประสบการณ์ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในฮ่องกง 

ทำไม \'ฮ่องกง\' ถึงเป็นสวรรค์ของเศรษฐี เส้นทางใหม่สู่การพำนักถาวร

ใช้ชีวิตแบบ work-life balance  

นอกจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจแล้ว ฮ่องกงยังมอบไลฟ์สไตล์ที่ลงตัวระหว่างความเป็นเมืองใหญ่ที่ทันสมัย กับความงามของธรรมชาติ โดยทุกคนสามารถเปลี่ยนบรรยากาศจากตึกระฟ้าที่สวยงามไปสู่ชายหาดที่เงียบสงบหรือสวนธรรมชาติที่เขียวชอุ่มได้อย่างง่ายดาย

ลูชางโก บอกว่า ฮ่องกงเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัว เพราะช่วยสร้าง "work-life balance" สมดุลที่ดีระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวได้ และเมืองนี้มีโรงเรียนดีๆ ให้เลือกมากมายสำหรับเด็กๆ รวมถึงมีหลากหลายฤดู ซึ่งเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายประเภท และอยู่ใกล้กับชายหาดสวยๆ รวมถึงสวนสาธาราณะในชนบทที่ใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาที

สำหรับด้านการศึกษา ฮ่องกงนับว่ามีความโดดเด่นและมีตัวเลือกที่หลากหลาย โดยมีโรงเรียนนานาชาติมากถึง 54 แห่งที่เปิดสอนหลักสูตรจากนานาประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น และอื่นๆ 

ในระดับอุดมศึกษา ฮ่องกงมีมหาวิทยาลัยถึง 5 แห่งที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม 100 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกจากการจัดอันดับของ Times Higher Education สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและโอกาสทางการศึกษาที่เป็นเลิศ 

ทำไม \'ฮ่องกง\' ถึงเป็นสวรรค์ของเศรษฐี เส้นทางใหม่สู่การพำนักถาวร
 
ฮ่องกงติดอันดับเมือง "ปลอดภัยที่สุดในโลก"

ฮ่องกงถือเป็นเมืองที่โดดเด่นในด้านความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐาน โดยได้ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่ "ปลอดภัยที่สุดในโลก" มาโดยตลอด ด้วยอัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงที่ต่ำมาก ทำให้ทุกครอบครัวรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย

ส่วนระบบขนส่งสาธารณะระดับโลกของฮ่องกงขึ้นชื่อเรื่องความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ทำให้การเดินทางในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ทั่วทั้งเกาะได้อย่างสะดวก 

บรรยากาศความเป็นนานาชาติที่มีชีวิตชีวา คือสิ่งที่ทำให้คุณลูชางโกยังคงอยู่ที่นี่  

"ผมชอบพลังงานของฮ่องกงมาก โดยเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในเมืองอื่นๆ ของเอเชีย เพราะคนฮ่องกงจะมีทัศนคติที่ว่าทำให้สำเร็จอยู่เสมอ"

สัมผัสชีวิตหลากมิติใน "ฮ่องกง"

ฮ่องกง มีฤดูกาลที่หลากหลาย ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายตลอดทั้งปี เช่นในฤดูใบไม้ผลิเป็นโอกาสสำหรับการตั้งแคมป์ ปิกนิก และดูดาว ส่วนในฤดูร้อน ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 31-33°C ก็เหมาะกับกิจกรรมทางน้ำ เช่น การดำน้ำ พายเรือคายัค หรือล่องเรือยอทช์ 

เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะได้ชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม โดยเฉพาะในย่านไทตง และเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งจะมีอุณหภูมิระหว่าง 2-7°C เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติ หนึ่งในนั้นคือ Dragon's Back จุดเดินเทรลยอดนิยม

ลูชางโก พูดถึงเสน่ห์ของฮ่องกงและไม่ลังเลที่จะแนะนำฮ่องกงให้กับเพื่อนชาวต่างชาติที่สนใจย้ายครอบครัวมาอาศัยอยู่ที่นี่ 

"โครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม สามารถเชื่อมต่อกับจีนแผ่นดินใหญ่และเอเชียได้อย่างสะดวก เป็นเมืองที่น่าอยู่และปลอดภัยมากๆ บรรยากาศดีเยี่ยมสำหรับชีวิตครอบครัว มีกิจกรรมกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม มีแหล่งรวมร้านอาหารและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา...ฮ่องกงมีครบทุกอย่างจริงๆ"

สุดท้ายนี้ บุคคลผู้มีความมั่งคั่งสูง (High-Net-Worth Individuals) ที่กำลังมองหาศูนย์กลางการเงินระดับโลกที่มีคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม นโยบายภาษีที่เอื้อประโยชน์ในทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในเอเชีย โครงการ "New CIES" ของ ฮ่องกง ถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจอย่างยิ่งในการขอรับสิทธิ์พำนักอาศัยถาวรในเมืองที่มีความเคลื่อนไหวและน่าตื่นเต้นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของโครงการ New CIES