เปิดแผนความยั่งยืน แบบฉบับ PTG ลดคาร์บอน สร้างทุกชุมชน อยู่ดีมีสุข

เปิดแผนความยั่งยืน แบบฉบับ PTG ลดคาร์บอน สร้างทุกชุมชน อยู่ดีมีสุข

เปิดแผนมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืนในแบบฉบับ "PTG" พร้อมเดินหน้าธุรกิจลดคาร์บอน สร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกชุมชน อยู่ดีมีสุข

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า PTG ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จากปัจจัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ดังจะเห็นได้อย่างชัดเจนจากช่วงเดือนที่ผ่านมา อากาศในไทยร้อนมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้สิ่งแวดล้อมอย่างฟุ่มเฟือย โดย PTG ดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญตามนโยบาย ESG ตามวิสัยทัศน์ที่เชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่อยู่ดี มีสุข ในทุกด้านของช่วงชีวิต ตามพันธกิจร่วมสร้างโอกาสการเติบโตกับพันธมิตรและชุมชนในทุกที่ ทั้งด้านธุรกิจพลังงาน และขยายสู่การบริการรอบด้านอย่างครบวงจร เพื่อเติมเต็มความสุข และมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนทั้งกายภาพ และมโนภาพ 

"การปล่อยคาร์บอนของเรา มีทั้งจากทางตรงจากองค์กรและทางอ้อมจากการส่งต่อให้บุคลากรภายนอกรวมราว 2 แสนตันต่อปี ดังนั้นเมื่อได้ตัวเลขมา จึงเตรียมแผนที่จะตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยผ่านวิธีการต่างๆ เพื่อมุ่งสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของประเทศ" 

เปิดแผนความยั่งยืน แบบฉบับ PTG ลดคาร์บอน สร้างทุกชุมชน อยู่ดีมีสุข

นายรังสรรค์ กล่าวต่อว่า PTG ได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีรายละเอียดการดำเนินงาน ดังต่อไปนี้

1. การลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาสถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งติดตั้งไปแล้วจำนวน 33 และปีนี้จะเพิ่มอีก 60 สถานี และมีแผนจะติดตั้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงมีความทันสมัยและราคาถูกลง จากเมื่อก่อนราคา 40 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์ และปัจจุบันมีราคาไม่ถึง 20 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์ 

2. กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อต้องการปิดความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนพลังงานจากปิโตรเลียมในอนาคต สนับสนุนเกษตกรผู้ปลูกพืชเพื่อผลิต พลังงานสะอาด เช่น ปาล์มน้ำมัน อ้อย และมันสำปะหลัง รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนในธุรกิจ พลังงานทดแทน หลากหลายรูปแบบ อาทิ ธุรกิจพลังงานไบโอดีเซล ธุรกิจไบโอแก๊ส และธุรกิจโรงงานไฟฟ้าจากขยะ รวมถึงธุรกิจรับจัดการบริหารขยะเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว การเอาขยะชุมชนมาทำเป็นพลังงานสะอาดโดยบริหารจัดการให้ถูกวิธี ด้วยการคัดแยกเพื่อเปลี่ยนเป็น RDF ส่งเข้าโรงปูน เพื่อดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่ให้กระทบสังคม

3. การนำแอปพลิเคชันมาช่วยบริหารจัดการรถขนส่งไม่ให้บรรทุกถังเปล่า โดยจัดระบบรถบรรทุกส่งของที่วิ่งไปยังปลายทางแล้วพอกลับมาต้นทางเป็นรถเปล่าก็สามารถเรียกใช้บริการได้ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกทาง

เปิดแผนความยั่งยืน แบบฉบับ PTG ลดคาร์บอน สร้างทุกชุมชน อยู่ดีมีสุข

4. การลงทุนท่อขนส่งน้ำมัน เนื่องจากการขนส่งทางถนนโดยยานยนต์มีความเสี่ยงสูงทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงต้องปรับเปลี่ยนมาขนส่งทางท่อให้มากขึ้น ดังนั้นการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว นอกจากจะมีภาคเอกชนที่ร่วมมือกันแล้ว ภาครัฐผู้มีส่วนในการกำหนดนโยบายด้านพลังงาน จะต้องเข้ามาให้การสนับสนุน เพราะปัจจุบันค่าใช้จ่ายทางท่อยังสูงอยู่และใช้เวลาคืนทุนยาวนาน รัฐควรมองว่าการจะลดต้นทุนโลจิสติกส์โดยมี 3 ฝ่ายร่วมมือกันเพื่อการเปลี่ยนแปลง

5. แผนเพิ่มสัดส่วนสถานีชาร์จรถ EV ในสถานีบริการ PT สถานีชาร์จอีวียังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เพราะจำนวน รถอีวี ยังไม่มาก โดยมองยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ว่า ถ้าขายได้ 1 หมื่นคันขึ้นไป จะต้องขยับตัวเร็วขึ้น ซึ่งตอนนี้ถือเป็นช่วงเก็บข้อมูล จากการร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ติดตั้งแล้ว 44 สาขา ซึ่งมีการเก็บข้อมูลในทุกพื้นที่ของประเทศไทยว่าจุดไหนควรขยาย จากบทวิจัยทั่วโลก จุดที่เหมาะสมสุดคือบ้านหรือที่ทำงานอย่างละ 30% เพราะคนส่วนใหญ่ที่ใช้คือคนเมือง

"การใช้รถอีวีในต่างจังหวัดยังมีข้อจำกัด ยังไม่สะดวกเหมือนรถยนต์สันดาป เราจึงอยากให้บริการในจุดที่จำเป็นก่อน จากข้อมูลที่รวบรวมคือ ระหว่างเมืองกับท่องเที่ยว เมื่อก่อนมีการชาร์จวันละ 1 คัน ตอนนี้เฉลี่ยวันละ 7-8 คัน เราจึงตั้งเป้าติดตั้งระยะทางทุก 150-200 กิโลเมตร อีกทั้งการติดตั้งสถานีชาร์จปัจจุบันไม่ยาก เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไว สามารถประกอบสำเร็จจากโรงงานได้เลยเพียงแค่เดินสายไฟเข้าตู้จ่ายก็ใช้งานได้ทันที มองว่าปีหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเยอะขึ้น"

เปิดแผนความยั่งยืน แบบฉบับ PTG ลดคาร์บอน สร้างทุกชุมชน อยู่ดีมีสุข

สำหรับนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐ นายรังสรรค์ มองว่า ไม่ต้องส่งเสริมอะไรมากนัก เพราะเป็นไปตามเทรนด์ที่ทุกคนรักโลกมากขึ้น รัฐควรสนับสนุนในเรื่องของการออกใบอนุญาตที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการให้คนสนใจ ยานยนต์ไฟฟ้า ต้องบูรณาการทั้งระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตที่เพียงพอ รูปลักษณ์ที่เหมาะสมกับคนไทย ราคาก็เป็นปัจจัยหนึ่ง การให้บริการของศูนย์บริการ แบตเตอรี่ ราคาซ่อม การประกันภัย ระยะเวลาการซ่อม และราคาเมื่อต้องขายต่อจะเป็นอย่างไร จุดนี้สำคัญหมด

6. รณรงค์ประหยัดพลังงาน อาทิ ลดการใช้ไฟฟ้า ลดการใช้กระดาษ สู่กิจกรรม 5 ส. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เป็นองค์ประกอบการดูแลองค์กร ขณะที่การเปลี่ยนแปลงนอกองค์กร บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมตามนโยบายผ่านโครงการต่างๆ ในพื้นที่ที่คลังน้ำมันหรือสถานีบริการตั้งอยู่ อาทิ โครงการ "PT ค่ายอาสา ทำจริงไม่ทิ้งกัน" เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุก ชุมชน อยู่ดีมีสุขตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โครงการ "PT ปลูกป่าสร้างปอด ปลูกป่าชายเลน" เพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณชายฝั่งเพื่อป้องกันกัดเซาะของคลื่น โครงการ "PT แยกขยะเปียก ลดขยะโลก" ให้ความรู้กับผู้นำชุมชนและเยาวชน โดยเฉพาะการแยกขยะเปียก เพื่อเปลี่ยนขยะเปียกเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพใช้ในการปลูกต้นไม้ ลดปริมาณขยะและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชน และโครงการ "พีที ชุมชนตาสว่าง" เป็นการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอนามัยพัฒนาด้านความเป็นอยู่ของคนในชุมชน

นายรังสรรค์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากการสร้างชุมชนอยู่ดีมีสุขแล้ว PTG ยังให้ความสำคัญในเรื่องวัตถุดิบของธุรกิจกาแฟ จึงได้จัดตั้งโครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้าบนพื้นที่สูงผ่านการส่งเสริมการปลูกกาแฟและรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้าน รวมถึงส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้นที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับชาวบ้าน เพื่อส่งเสริมเกษตรกรที่มีความมุ่งมั่น เริ่มจากแทนที่จะปลูกข้าวโพดหรือพืชเชิงเดี่ยว โดยการแบ่งพื้นที่ปลูกพืชเกษตรชนิดอื่นเสริมเพื่อให้มีรายได้ ซึ่งตรงนี้หากเอกชนมองเห็น และรัฐบาลมีนโยบายที่ดี มีกลไกเข้าไปช่วยเก็บข้อมูล ทำความเข้าใจกับชาวบ้านจะช่วยให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน PTG มีกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจเพื่อลดการพึ่งพาจากธุรกิจน้ำมันผ่าน 8 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจค้าปลีก 2. กลุ่มธุรกิจจำหน่ายแก๊ส LPG 3. กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและการลงทุน 4. กลุ่มธุรกิจขนส่ง 5. กลุ่มธุรกิจบริหารและจัดการระบบ 6. กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร 7. กลุ่มธุรกิจ Auto Care Services และ 8. กลุ่มธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) เพื่อเข้าถึงทุกการบริการอย่างครบวงจร โดยทุกกลุ่มธุรกิจถือเป็นการปรับพอร์ตธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายองค์กรค์สู่ความยั่งยืน

"ลูกค้าหลัก PTG ยังเป็นยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ การที่ต้องเปลี่ยนมาจับลูกค้าเจน Y หรือเจน Z มากขึ้น PTG เราก็ต้องปรับตัว โดยเพิ่มสถานีบริการในตัวเมืองมากขึ้น ปรับเป็นรูปแบบบริการดิจิทัลที่มากขึ้น เพื่อตอบรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัย โดยเป้าหมายธุรกิจปีนี้จนถึงปีหน้า ยังให้ความสำคัญธุรกิจกลุ่มธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจค้าปลีก โดยสถานีบริการก็ต้องตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกประเภท พยายามเพิ่มเติมความหลากหลาย รวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก PT ตอบสนองครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า" นายรังสรรค์ กล่าวทิ้งท้าย