"พลัสฯ" ถอดบทเรียนป้องกันเหตุ ก่อนเกิดไฟไหม้ วางมาตรฐานที่วางใจได้

"พลัสฯ" ถอดบทเรียนป้องกันเหตุ ก่อนเกิดไฟไหม้ วางมาตรฐานที่วางใจได้

ถอดบทเรียน "พลัส พร็อพเพอร์ตี้" กับมาตรฐานป้องกันไฟไหม้ ด้วยหลัก "Preventive Maintenance" หรือการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ทั้งการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในพื้นที่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการวางมาตรการป้องกันอัคคีภัยอย่างรัดกุม

ในช่วงนี้ข่าวไฟไหม้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ใจกลางกรุงเทพฯ ถึง 3 ครั้ง ในเวลาใกล้เคียงกัน ตั้งแต่เหตุการณ์ที่สีลมซอย 2 บ่อนไก่ ไปจนถึงสำเพ็ง ที่ล้วนได้รับความเสียหายทั้งทรัพย์สิน และมีผู้เสียชีวิต เป็นความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้

จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพ พบว่า ปี 2565 เพียงครึ่งปีแรก เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในกรุงเทพฯ มากถึง 131 ครั้งแล้ว ทำให้มีกระแสความตื่นตัวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ โดยสาเหตุส่วนใหญ่ อันดับแรก เกิดจากการไหม้ของหญ้าและการเผาขยะ รองมาคือ ไฟฟ้าลัดวงจร และสถานที่เสี่ยงเกิดเพลิงไหม้ในกรุงเทพฯ ส่วนมาก อยู่ในพื้นที่ชุมชนหนาแน่น อาคารขนาดใหญ่ อาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์การค้า สถานบันเทิง ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามักเป็นสถานที่มีการใช้ไฟฟ้า หรือเชื้อเพลิงจำนวนมาก และช่วงเวลาที่เกิดจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน ฤดูแล้ง และในเทศกาลสำคัญที่มีวันหยุดยาว ดังนั้น การอยู่อาศัยจึงควรมีแผนในการป้องกันอย่างรัดกุม

\"พลัสฯ\" ถอดบทเรียนป้องกันเหตุ ก่อนเกิดไฟไหม้ วางมาตรฐานที่วางใจได้

พลัส พร็อพเพอร์ตี้  ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท โครงการคอนโดมิเนียม โครงการบ้านเดี่ยว และโครงการเพื่อการพาณิชย์ ล้วนมีมาตรฐานในการดูแล และการป้องกันการเกิดไฟไหม้ ด้วย Preventive Maintenance ที่มีการวางแผนดูแลและซ่อมบำรุงระบบวิศวกรรม แบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ มีแนวทางปฏิบัติตรวจสอบระบบไฟฟ้าในพื้นที่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงถ้าพบความผิดปกติก็จะได้รับการแก้ไขทันที ที่สำคัญมีการวางมาตรการป้องกันอัคคีภัยอย่างรัดกุม ด้วยมีการฝึกซ้อมหนีไฟทั้งทีมงาน และผู้อยู่อาศัยเป็นประจำทุก 6 เดือน ตลอดจนให้ความรู้และเทคนิคต่างๆ หากเกิดเหตุเพลิงไหม้

นอกจากนั้น ยังมีการจัดทำบอร์ดให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ลูกบ้านมั่นใจได้ถ้าเกิดสถานการณ์จริง โดยสิ่งปลูกสร้าง บ้านหรืออาคารส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่มีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไปมักที่มีความเสี่ยงในเรื่องของไฟฟ้าลัดวงจร หรือเหตุการณ์ไฟไหม้ได้เนื่องจากระบบต่างๆ ถูกใช้งานมานาน จึงจำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบ ปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ให้ใช้งานได้ตามปกติ  โดยอาจจะทำการปรึกษาหรือให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในเรื่องของระบบวิศวกรรมมาช่วยจัดการระบบให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม

\"พลัสฯ\" ถอดบทเรียนป้องกันเหตุ ก่อนเกิดไฟไหม้ วางมาตรฐานที่วางใจได้

อาคารขนาดใหญ่ในปัจจุบันมีกฎหมายบังคับให้ออกแบบและวางระบบป้องกัน แจ้งเตือนดับเพลิงได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เหตุที่บางอาคารเกิดเหตุและไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทัน เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบหรือดูแลระบบแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) และระบบระงับเหตุเพลิงไหม้ (Sprinkler) อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดความบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบการแจ้งเตือนเหตุ ระบบสัญญาณเตือนภัยและท่อน้ำดับเพลิง เป็นต้น

ผู้ดูแลระบบเป็นอีกส่วนที่สำคัญ ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบและดูแลบำรุงรักษาให้ระบบมีความพร้อมต่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงการมีแผนการอพยพหนีไฟและการฝึกซ้อมเป็นประจำ และเตรียมให้บุคคลมีความสามารถในการทำหน้าที่ช่วยเหลือและดับเพลิงได้อย่างทันท่วงที รวมถึง พลัสฯ มีการพัฒนานำเทคโนโลยี LIV-24 ระบบสังเกตการณ์อัจฉริยะในการเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับระบบควบคุมอาคาร มายังศูนย์ควบคุม Smart Command Centre ให้ดูแลได้อย่างครบวงจรทำงานแบบไร้รอยต่อ เมื่อเกิดเหตุพบสัญญาณแจ้งเตือนเหตุอัคคีภัย ระบบจะตรวจสอบทำให้ทราบว่าต้นเพลิงมาจากที่ใด และประสานไปยังโครงการ และผู้เชี่ยวชาญเข้าระงับเหตุและแก้ไขได้อย่างทันเวลา  

\"พลัสฯ\" ถอดบทเรียนป้องกันเหตุ ก่อนเกิดไฟไหม้ วางมาตรฐานที่วางใจได้

นอกจากนี้ การส่งต่อข้อมูลอาคารเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอาคาร เช่นการกั้นผนังอาคาร แต่จะต้องแจ้งข้อมูลแก่ผู้ออกแบบอาคาร เพื่อให้ระบบป้องกันอัคคีภัยที่ออกแบบไว้สำหรับรูปแบบอาคารเดิมได้รับการเปลี่ยนแปลงและสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เช่น ระบบหัวจ่ายน้ำสปริงเกอร์ที่ถูกติดตั้งไว้ในตำแหน่งเดิม แต่เมื่อมีการกั้นผนังอาคารเพิ่ม แต่ไม่มีการปรับปรุงระบบหัวจ่ายน้ำสปริงเกอร์ให้สอดคล้องกับสภาพภายในที่เปลี่ยนไป เมื่อเกิดเพลิงไหม้ก็จะทำให้ระบบป้องกันอัคคีภัยทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

การดูแลในเรื่องความปลอดภัยสำหรับที่อยู่อาศัย การบำรุงรักษาและตรวจสอบเป็นสิ่งที่สำคัญ เหมือนกับการดูแลสุขภาพกายและใจของเรา จะเห็นได้ว่า เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงเหตุไม่คาดฝันได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การวางแผนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่กระบวนการป้องกัน การบริหารจัดการ การให้บริการระหว่างเกิดสถานการณ์ และหลังสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

พลัสฯ มีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 25 ปี ในการดูแลมากถึง 300 โครงการ ด้วยมาตรฐานระดับสากล ให้การอยู่อาศัยทุกตารางเมตรมีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ทุกคนรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งในการดำเนินชีวิต

\"พลัสฯ\" ถอดบทเรียนป้องกันเหตุ ก่อนเกิดไฟไหม้ วางมาตรฐานที่วางใจได้