อังกฤษประกาศลดค่าไฟ ช่วยเหลือประชาชน

อังกฤษประกาศลดค่าไฟ  ช่วยเหลือประชาชน

ถือเป็นความยากลำบากในการทำมาหากินและดำเนินชีวิตช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ อันเป็นผลพวงอย่างต่อเนื่องจากวิกฤติโควิด และปัญหาสู้รบในยูเครน

รัฐบาลประชาธิปไตยในต่างประเทศ หากไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจและยังเมินเฉยต่อปัญหาปากท้องเหล่านี้ ก็มักจะได้รับแรงกระตุ้นจากประชาชนโดยตรง หรือโดยอ้อมผ่านการกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ อาทิ กลุ่มแรงงาน กลุ่มองค์กรอิสระ จึงทำให้เกิดเป็นแพ็กเกจช่วยเหลือต่างๆ ออกมา น้อยบ้างมากบ้างตามกำลัง ตรงจุดบ้างไม่ตรงจุดบ้าง แต่ก็มีให้เห็น

แพ็กเกจช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงวิกฤติการสู้รบในยูเครนนั้น ถูกวางแผน คิดคำนวณอย่างเหมาะสมเกิดเป็นความช่วยเหลือที่เห็นเป็นเนื้อเป็นหนัง และออกเป็นกฎหมายบังคับใช้แล้วทั้งสิ้นในประเทศ

สำคัญที่สุดคือ แพ็กเกจช่วยเหลือนั้นไม่แยกชั้นวรรณะ กล่าวคือ เงินช่วยเหลือที่รัฐบาลจัดสรรนั้นถึงมือประชาชนทุกคนอย่างถ้วนหน้า ถึงแม้จะไม่เท่าเทียมเพราะคนที่มีรายได้น้อยก็จะได้ความช่วยเหลือมากหน่อย แม้ไม่เท่าเทียมแต่ก็ถ้วนหน้า เพราะเงินที่นำมาช่วยเหลือนั้นแท้จริงแล้วก็มาจากภาษีของทุกคน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสังคมเท่านั้น

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ กรณีของ รัฐบาลอังกฤษ ที่เริ่มจัดการปัญหาข้าวของราคาแพงจนเกิดเป็นภาวะเงินเฟ้อ โดยประกาศค่าแรงขั้นต่ำจาก 8.91 เป็น 9.5 ปอนด์ต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 0.6 ปอนด์ต่อชั่วโมง

คิดง่ายๆ ว่า หากทำงานวันละ 8 ชั่วโมง เดือนละ 21 วัน ก็จะได้เงินส่วนเพิ่มประมาณ 100 ปอนด์ (ประมาณ 4,400 บาท) ซึ่งการประกาศปรับค่าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 6.6% นั้นก็สูงกว่าอัตราเงินเฟ้ออังกฤษที่ 3.1%

รัฐบาลอังกฤษยังช่วยเหลือประชาชนในส่วนของค่าไฟ โดยเสนอส่วนลดค่าไฟรวมมูลค่า 200 ปอนด์ (ประมาณ 9,000 บาท) แก่บ้านทุกหลังในสหราชอาณาจักร ไม่ว่าบ้านนั้นจะยากดีมีจน ย้ำอีกครั้ง บ้านทุกหลัง

นอกจากนี้ ยังเสนอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในรูปแบบส่วนลดภาษีมูลค่า 150 ปอนด์ (ประมาณ 6,700 บาท) ซึ่งบ้านกว่า 80% ในสหราชอาณาจักรก็จะได้รับ 150 ปอนด์ส่วนเพิ่มนี้

นโยบายส่วนลดค่าไฟ 200 ปอนด์นี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วง ต.ค.ของปีที่แล้ว ทันท่วงทีกับช่วงที่ข้าวของเริ่มราคาแพงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แพ็กเกจที่ออกมาในช่วง ต.ค. ซึ่งนอกจากจะเป็นปีงบประมาณใหม่แล้ว ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง

อากาศในอังกฤษจะเริ่มหนาวและหนาวขึ้นเรื่อยๆ อีกกว่าหลายเดือน ค่าไฟค่าแก๊สเพื่อทำให้บ้านอบอุ่นจึงมีความสำคัญมาก การช่วยเหลือค่าไฟในช่วงนี้จึงเรียกได้ว่า เป็นจังหวะที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ ครัวเรือนที่มีรายได้จำกัดก็จะได้รับความช่วยเหลือพิเศษเพิ่มเติมจากรัฐอีก อาทิ ส่วนลดโครงการ Warm Home Discount มูลค่า 140 ปอนด์ เพื่อเป็นค่าไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นในบ้านช่วงฤดูหนาว ซึ่งมอบแก่ครัวเรือนรายได้จำกัดจำนวน 2.2 ล้านครัวเรือน

Winter Fuel Payment เป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือที่น่าสนใจ ซึ่งรัฐมอบให้กับครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน โดยรัฐกันเงินส่วนนี้ไว้ถึง 11.4 ล้านปอนด์เพื่อมอบแก่ผู้สูงอายุวัยเกษียณ 200 ปอนด์ และจะเพิ่มเป็น 300 ปอนด์เมื่อสำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 80 ปี เหตุผลก็เพราะผู้สูงอายุเหล่านี้ไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้าน ทำให้เกิดค่าไฟในบ้านมากกว่าบ้านทั่วไป ซึ่งรัฐเข้าใจและก็เข้ามาเกื้อหนุนตรงนี้

ยังมีโปรแกรมการช่วยเหลืออีกมากมายในรูปแบบต่างๆ ที่อังกฤษมอบแก่ประชาชน แต่ใจความสำคัญของนโยบายเหล่านี้คือ ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ และภาระหน้าที่ที่รัฐมีต่อประชาชนในฐานะผู้เสียภาษีและเจ้าของประเทศทุกคน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ความช่วยเหลือที่ถ้วนหน้าถึงแม้จะไม่เท่าเทียม ย่อมดีกว่าความช่วยเหลือแบบเสียเปล่าไร้สติ ไร้ทิศทาง และเต็มไปด้วยอคติ