มิติใหม่ "ช้อปดีมีคืน" 3 ครั้งต่อปีสานต่อแรงจับจ่าย

มิติใหม่ "ช้อปดีมีคืน" 3 ครั้งต่อปีสานต่อแรงจับจ่าย

เพิ่งจบไปหมาดๆ เมื่อเดือนที่แล้ว โครงการ “ช้อปดีมีคืน 2565" ที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565

ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566

โครงการ “ช้อปดีมีคืน” เป็นมาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคเศรษฐกิจจากรัฐบาล ซึ่งเป็นมาตรการการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ (Local Consumption) โดยมีเป้าหมายกลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ อีกทั้ง โครงการ “ช้อปดีมีคืน” ยังเป็นกุญแจสำคัญในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยได้โดยทันที ในขณะที่ภาครัฐใช้งบประมาณน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ

 

ระหว่างวันที่ 10-20 กุมภาพันธ์ 2565 สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ จัดส่งแบบสำรวจโดยผ่านทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมศูนย์การไทย และภาคีเครือข่ายค้าปลีก เพื่อรวบรวมความคิดเห็น ผู้ประกอบการค้าปลีก ต่อ โครงการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2565” มีผู้ประกอบการตอบแบบสำรวจ 919 ราย พบว่า

1.จำนวนลูกค้าเมื่อเทียบเดือนมกราคม 2565 กับ เดือนธันวาคม 2564

- 59.5% จำนวนลูกค้ามาจับจ่าย มากกว่า เดือนธันวาคม 2564

- 20.1% จำนวนลูกค้ามาจับจ่าย เท่าเดิม เดือนธันวาคม 2564

- 20.4% จำนวนลูกค้ามาจับจ่าย น้อยกว่า เดือนธันวาคม 2564

2.ยอดขายเมื่อเทียบเดือนมกราาคม 2565 กับเดือนธันวาคม 2564

- 51.5% ยอดขายเดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้น 1-5%

- 8.9% ยอดขายเดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้น 6-10%

- 17.0% ยอดขายเดือนมกราคม 2565 เท่าเดิม

- 20.6% ยอดขายเดือนมกราคม 2565 ลดลง

3.เมื่อพิจารณาจำนวนใบกำกับภาษี

-  82.7% จำนวนใบกำกับภาษีเพิ่มขึ้น 1-5%

-  11.4% จำนวนใบกำกับภาษีเพิ่มขึ้น 6-10%

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการได้มีข้อเสนออื่นๆ เพิ่มเติมที่น่าสนใจ อาทิ

- ลูกค้าไม่ค่อยทราบเงื่อนไขและประโยชน์การรับสิทธิ์โครงการ

- ลูกค้าบางท่านแจ้งว่าพึ่งรู้ข่าว ระยะเวลาก็ใกล้หมดแล้ว

- การประชาสัมพันธ์ช้อปดีมีคืนสั้นเกินไป

- ระยะเวลาไม่เหมาะสมค่ะควรกระตุ้นปลายปี 3 เดือน

- ควรเพิ่มวงเงินเป็น 100,000 บาท และระยะเวลา ขอเป็น 3 เดือน

- ควรมีช่วงต้นปี กลางปี และ ปลายปี ช่วงต้นปี

จากผลการสำรวจพบว่า โครงการ “ช้อปดีมีคืน” มีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง แม้ว่าในช่วงเวลาที่เริ่มต้นโครงการ “ช้อปดีมีคืน” นั้น เป็นช่วงของการแพร่ระบาดของ โอมิครอนทำให้มู้ดในการจับจ่ายใช้สอยไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็ถือว่ายอดขายเติบโตได้ขนาดนี้ก็เป็นที่น่าพอใจ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการมีความเห็นว่า เป็นโครงการที่ดี แต่ระยะเวลาดำเนินการสั้น และการประชาสัมพันธ์ค่อนข้างน้อย ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรับทราบข่าวสารโครงการ

“ช้อปดีมีคืน” ทำเลย ปีนี้ 3 รอบ เงินสะพัดแสนล้าน

ปรากฏการณ์ช้อปแหลกต่อเนื่อง 1:1, 2:2,…9:9, 10:10, 11:11 และ 12:12 หรือวันช้อปออนไลน์ในประเทศตะวันตกอย่าง Black Friday หรือ Cyber Monday มีเม็ดเงินมหาศาลที่แพร่สะพัดเข้าสู่เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แล้วทำไมเราถึงไม่คิดสร้างกระแส “ช้อปดีมีคืน” เป็นกระแสต่อเนื่องปีละ 3 รอบ!! 

โดยกำหนดเฟสที่หนึ่ง วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ เฟสที่สอง ช่วง Low Season วันที่ 15 กรกฏาคม-31 สิงหาคม และ เฟสที่สาม รอบส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 15 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม จากประมาณการ สำนักเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง โครงการ “ช้อปดีมีคืน 2565 จำกัดวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท และ มีผู้เข้าร่วมโครงการ 1.4 ล้านคน มีเงินสะพัดราว 42,000 ล้านบาท

หากดำเนินการ 3 รอบในปี 2565 คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่าแสนล้านบาท!! ในขณะที่ภาครัฐใช้งบประมาณไม่ถึง หมื่นล้านบาท นับว่า เป็นโครงการที่คุ้มสุดสุด

บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับองค์กรที่สังกัด