ปรากฏการณ์ศัพท์ใหม่ กระตุ้นกระแสแต่อาจไม่เกิดจริง

ปรากฏการณ์ศัพท์ใหม่ กระตุ้นกระแสแต่อาจไม่เกิดจริง

ผมทำงานอยู่ในวงการไอทีมานาน และติดตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมาสม่ำเสมอ จึงมักเห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาสู่วงการ การเปลี่ยนแปลงในช่วงหลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว จนเริ่มรู้สึกว่าแม้แต่ตัวเองที่อยู่ในวงการนี้ก็ตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน

วงการไอทีมักจะมีคำศัพท์ใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่เสมอ  บางคำก็เป็นเรื่องใหม่จริงในเชิงวิชาการ แต่บางคำก็เป็นการบัญญัติศัพท์เพื่อใช้ในการตลาด หรือแม้แต่เรื่องเดิมๆ ก็อาจแต่งคำใหม่ขึ้นมาให้ดูน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น เช่น จากคำว่า Cloud Computing ก็เริ่มใช้คำว่า Fog Computing หรือคำว่า Internet of Things ก็เริ่มมีคำว่า Internet of Behavior ในฐานะนักวิชาการวงการไอทีก็ต้องพยายามตอบคำถามให้ได้ว่า คำศัพท์เหล่านี้หมายความว่าอะไร ทั้งๆ ที่อาจไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากมาย 

ผมคิดว่าไอทีน่าจะเป็นหนึ่งในวงการที่มีทีมนักการตลาดที่เก่งที่สุด ออกโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกคำศัพท์ใหม่ๆ ให้คนตื่นเต้นได้เสมอ ยิ่งระยะหลังเทคโนโลยีไอทีเป็นเรื่องสำคัญ ผู้คนเห็นความจำของ Digital Transformation  คนส่วนใหญ่ก็จะคล้อยตามกระแสการตลาดของวงการไอที ซึ่งโดยมากมักจะมีเม็ดเงินโฆษณาจำนวนมหาศาลของบริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีมาทำให้กระแสดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ใครตามไม่ทันก็กลัวจะตกกระแส 

 

ดังนั้นผู้บริหารจึงต้องพูดถึงคำศัพท์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคำว่า เอไอ บิ๊กดาต้า ไอโอที บล็อกเชน หรือล่าสุดแม้แต่คำว่า Metaverse โดยที่อาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง แต่การใช้คำศัพท์เหล่านั้น ทำให้ดูเหมือนจะตามกระแสโลกทัน

ผมเองมักจะถูกถามเสมอถึงคำศัพท์ต่างๆ ว่าคืออะไร หรือถามถึงผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีใหม่ๆว่าจะมาเมื่อไร และจะมีประโยชน์อย่างไร ซึ่งก็อาจตอบไม่ได้ทั้งหมด เพราะวงการไอทีมีการบัญญติศัพท์ใหม่ๆ ออกมาจนตามไม่ทัน ยิ่งถ้าถูกถามว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ก็ยิ่งไม่มั่นใจว่าจะคาดการณ์ได้แม่นยำ เพราะหลายๆ อย่างเป็นเรื่องการตลาด เพื่อสร้างกระแสให้ตื่นเต้นและอาจจะเกินจริง ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องรีบตามกระแสการตลาดไปทุกเรื่อง 

หากย้อนไปดูอดีตที่ผ่านมาวงการไอทีจะมีคำศัพท์หรือผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ออกโฆษณามา และสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คน แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่ประสบความสำเร็จ บางอย่างถึงขั้นใช้งานไม่ได้เลย หลายคนมีประสบการณ์กับระบบปฏิบัติการ Windows Vista ที่ไมโครซอฟต์นำออกมาแทน Windows XP ในปี 2007 คนจำนวนมากตื่นเต้นกับและรอคอยกับการที่จะมีเวอร์ชันใหม่ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าใช้งานยากกว่าเวอร์ชันเดิม ทำให้คนจำนวนมากต้องถอยกลับไปใช้ของเดิม

บริษัทไอทียักษ์ใหญ่แทบทุกรายมักจะมีประสบการณ์ความล้มเหลวของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เสมอ ตัวอย่างเช่น Google เคยทำโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ชื่อ Google Plus ตั้งแต่ปี 2011 ด้วยความคาดหวังที่ว่าจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Facebook แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และสุดท้ายก็ต้องปิดตัวลง แม้แต่ Facebook เองก็เคยออกผลิตภัณฑ์ Facebook Home ในปี 2013 ทำหน้าเป็นหน้าจอหลักของสมาร์ทโฟนแทนการล็อกหน้าจอแบบเดิม โดยจะแทนที่ด้วยข้อความต่างๆ ที่ถูกป้อนมาจาก Facebook ของตัวเอง แต่สุดท้ายผู้ใช้โทรศัพท์ก็ยังพึงพอใจด้วยการเปิดแอป Facebook โดยตรงแบบเดิม

ผมเองก็เคยลงทุนหาซื้อผลิตภัณฑ์ไอทีใหม่ๆ ที่คิดว่าจะมาเป็นเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น Google Glass ที่ออกมาเมื่อปี 2014 ซึ่งตอนนั้นคิดว่าจะเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่เราใส่แล้วจะเห็นข้อมูลทุกอย่างเหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์ และมีความชาญฉลาดตอบคำถามของเราได้ แต่สุดท้ายแว่นตานี้ก็มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัว จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ต้องถูกยกเลิกไป

ช่วงนี้หลายคนกำลังตื่นเต้นกับคำว่า Metaverse ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก แต่อดสงสัยไม่ได้ว่า เทคโนโลยีต่างๆ ที่จะนำมาใช้พร้อมแค่ไหน ซึ่งก็คงไม่น่าจะออกมาได้เร็วๆนี้ แต่ถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่บริษัทไอทีต่างๆ ประสบความสำเร็จในด้านการตลาดอย่างมาก ทำให้คนมาสนใจคำศัพท์นี้ และพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่หลายอย่างอาจไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะเราเคยมีแพลตฟอร์มที่ชื่อ Second Life และเราก็เคยเห็นบริษัท Google ที่ออกผลิตภัณฑ์สร้างโลกเสมือนในปี 2008 ชื่อ Google Lively แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ

ครั้งนี้ก็มีการพยายามจะบอกว่า “มันมีอะไรมากกว่าเดิม” ไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างโลกเสมือน แต่จะมีเทคโนโลยีอื่นๆ อย่างบล็อกเชน คริปโตฯ เข้ามาผสมผสานทำให้ Metaverse มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงทำให้คนจำนวนมากเริ่มให้ความสนใจ Metaverse ตามกระแส 

ส่วนตัวผมเองก็เริ่มสนใจเล่นเกมส์ออนไลน์ Roblox เพื่อให้ทันสมัยไม่ตกยุค แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างที่หลายคนคาดการณ์ หรือจะเป็นกระแสการตลาดที่เกินจริงของวงการไอทีอีกครั้ง  กระแสทุกเรื่องเราไม่จำเป็นต้องรีบ หากรอให้ “พร้อมใช้” อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า