โลกการศึกษาแห่งอนาคต ใบปริญญาจะยังสำคัญอยู่จริงหรือ?

โลกการศึกษาแห่งอนาคต  ใบปริญญาจะยังสำคัญอยู่จริงหรือ?

แต่ไหนแต่ไรมา เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ใบปริญญา” คือตัวแทนความสำเร็จของเราสำหรับการสมัครงาน ถ้าเรามีใบปริญญาที่จบมาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก หรือมหาวิทยาลัยชื่อดัง ก็ย่อมเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่จะรับเราเข้าทำงาน

แต่ทว่าในปี 2021 ยุคที่ทุกคนใฝ่หาความรู้ได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ถ้าคนเราอยากรู้เรื่องอะไรก็จะถาม Google ถ้าอยากศึกษาเพิ่มเติมก็จะดู YouTube หรือถ้าอยากจะเข้าใจมากขึ้นก็ไปเรียนเป็นคอร์สออนไลน์ตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Coursera, edX, Newsela หรือ MasterClass เราอยู่ในยุคที่มีเครื่องมือความรู้ ความรู้อยู่บนคลาวด์ แล้วเราจำเป็นต้องมีใบปริญญาเพื่อเป็นใบเบิกทางในการสมัครงาน อีกหรือไม่

ใบปริญญา ยังมีความสำคัญจริงหรือ ?

แม้ว่าทุกวันนี้ ประเทศไทย “ปริญญา” ยังถือว่าสำคัญเพราะเป็นบรรทัดฐานที่สังคมกำหนด สำหรับการเลือกบุคคลเข้าทำงานในองค์กร คนที่จบมาในสาขาต่าง ๆ ถ้ามีใบปริญญาด้านไหนที่ตลาดแรงงานกำลังให้ความสนใจค่าตอบแทนก็จะมากกว่าคนอื่น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นเด็ก ๆ หลายคนเรียนในสาขาวิชาที่ตัวเองไม่ชอบเพราะต้องการใบปริญญาเพื่อเป็นแค่ใบเบิกทางในวิชาชีพนั้นเอง

หลายคนคงเห็นมาบ้างว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน แม้ว่าคนเหล่านั้น จะไม่ได้จบมหาวิทยาลัยและไม่มีแม้แต่ใบปริญญา จริง ๆ แล้ว หากเราไม่ต้องการใบปริญญาเราก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน อาจเป็นนายตัวเอง ออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ประกอบอาชีพที่สุจริต ก็มีหลายตัวอย่างให้เราได้ศึกษา แม้กระทั่งบุคคลรอบ ๆ ตัวเราบางคนไม่ได้จบปริญญาก็ยังมีแนวคิดก็ยังมีงานทำที่มั่นคง

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า การศึกษาหรือใบปริญญานั้น จะไม่มีความสำคัญเพราะในความเป็นจริงแล้ว ก็ยังมีงานจำนวนหนึ่ง ที่ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของการศึกษาและใบปริญญาบางสายอาชีพ เช่น งานทางด้านวิศวกรรม แพทย์ หรืองานสายกฎหมาย ในตอนที่ประกาศรับสมัครนั้น มักจะประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องมีวุฒิการศึกษา ใบปริญญา หรือวุฒิบัตรเพื่อใช้เป็นสิ่งที่การันตี หรือยืนยันว่าคนคนนั้นได้ศึกษา ผ่านการอบรม จนมีความรู้ความสามารถในสาขาอาชีพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถและได้รับโอกาสที่ดี ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะบางบริษัทให้ความสำคัญกับทักษะความสามารถมากกว่า

บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Google และ Apple เองก็เริ่มรับพนักงานโดยดูจากทักษะและความสามารถที่ทำงานได้ ถึงแม้จะไม่มีใบปริญญาก็ตาม โดยให้เหตุผลว่าไม่มีมหาวิทยาลัยไหนที่สอนทักษะที่ผู้บริหารมองหา รวมถึงในบางอาชีพที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปริญญา อย่างการค้าขายที่ถือว่าไม่ได้จำเป็นนัก ดูได้จากคนสมัยก่อนที่ประสบความสำเร็จเป็นเจ้าของกิจการใหญ่ ๆ แม้ไม่ได้เรียนสูง หรือบางสายงานใช้ใบ Certificate หรือประกาศนียบัตรหลักสูตรฝึกอบรมในด้านนั้นแทนได้ เช่น เชฟทำอาหาร งานด้านไอที รวมถึงงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง เช่น งานช่างเทคนิค หรืองานดูแลระบบต่าง ๆ

โลกการศึกษาแห่งอนาคต

Education Technology (EdTech) เทคโนโลยีการศึกษาจะมีความสำคัญมากขึ้น EdTech จะช่วยให้การบริการครอบคลุมทุกส่วนของการเรียนรู้เชื่อมโยงกัน ทั้งคอร์สเรียน แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลการเรียน การวัดผล การสื่อสาร และการรายงานผลการเรียน และมีการร่วมมือกันระหว่างผู้เล่นรายใหญ่กับบริษัทชั้นนำ เพื่อสร้าง solution การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ทักษะการทำงาน การพัฒนาการเรียนการสอนก็จะเป็นแบบ data-driven และ personalized มากขึ้น เพราะมีชุดข้อมูลที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น ข้อมูลการเรียนแบบ real-time ส่งให้พ่อแม่และคุณครู ทำให้ช่วยสอนได้ถูกจุด

การใช้ smartphone ผสานกับบทเรียนขนาดสั้น micro-learning จะทำให้การเรียนรู้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้เรียนเองก็มีทางเลือกใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น แทนที่จะต้องไปนั่งเรียนทุกอย่างในหลักสูตร สามารถแตกย่อยเลือกเรียนแค่หัวข้อที่ต้องใช้ในการทำงานได้ ผู้เรียนเลือกเรียนเก็บสะสมไปเป็น module ย่อยจากหลาย ๆ ผู้สอนได้ จุดนี้จะกดดันให้สถาบันการศึกษาต้องปรับโครงสร้างหลักสูตรให้เป็นหน่วยย่อยมากขึ้น การเรียนปริญญาตรีอาจไม่จำเป็นต้องเรียน 3-4 ปีอีกต่อไปในเมื่อผู้เรียนมีทางเลือกใหม่ สามารถทยอยเรียนหน่วยย่อยสะสมไปและทำงานไปด้วยก็ได้ ซึ่งข้อมูลการเรียนนี้จะถูกเก็บสะสมบน blockchain

สถาบันการศึกษาจะยังคงเป็นแหล่งหลักในการเรียนรู้เหมือนดังเช่นทุกวันนี้ แต่ก็ต้องเผชิญความท้าทายเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมสูงวัย และการที่ต้อง reskill สาขาอาชีพที่เสี่ยงตกงานตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในตลาดแรงงาน ดังนั้น สถาบันการศึกษาจะต้องปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน ให้เป็นสถาบันการเรียนรู้ที่เน้นทักษะอาชีพโดยเฉพาะ โดยอาจเป็นในรูปแบบของการร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ภาคเอกชน เพื่อสร้างหลักสูตรเน้นทักษะที่นำไปใช้ในการทำงานได้จริง ไม่เน้นทฤษฎี จบหลักสูตรก็สมัครงานตำแหน่งนั้น ๆ ได้เลย การเรียนนี้ไม่ได้จำกัดแค่นิสิต นักศึกษา แต่คนทั่วไปที่ต้องการเปลี่ยนสายงาน reskill ตัวเอง ก็มาเรียนได้

การเรียนในโลกแห่งความเป็นจริง

การเรียนในมิติที่หลากหลายนี้ไม่ต่างกับโลกแห่งความเป็นจริง การเรียนในรูปแบบใหม่ผ่านการเรียนแบบปฏิบัติจริง hands-on learning จะทำให้ผู้เรียนมีความเชี่ยวชาญในอาชีพอนาคต สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยแนวคิดนวัตกรรม และแน่นอนว่าการที่ผู้เรียนได้คุ้นชินกับโลกออนไลน์ตั้งแต่ในวัยเรียน ทำให้ผู้เรียนปรับตัวกับการทำงานที่ถูกดิสรัปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็ว