จับตาธุรกิจ ‘ผู้บริโภคชาวจีน’ พร้อมตอบสนองปี 2564 (จบ)

จับตาธุรกิจ ‘ผู้บริโภคชาวจีน’  พร้อมตอบสนองปี 2564 (จบ)

นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดการเลือกบริโภคจากบ้านครอบคลุมสินค้าแทบทุกประเภท

จากฉบับที่แล้วได้พูดถึงแนวโน้มธุรกิจที่คาดว่าน่าจะตอบสนองผู้บริโภคชาวจีนไปแล้ว 5 ธุรกิจ ประกอบไปด้วย กลุ่มธุรกิจกลางคืน, ธุรกิจสัตว์เลี้ยง, ธุรกิจด้านการเงิน การลงทุน, ธุรกิจเกี่ยวกับการนอนหลับ และธุรกิจฟิตเนส 

มาต่อกันว่าในปีนี้ยังมีกลุ่มธุรกิจประเภทใดที่พร้อมตอบสนองชาวจีนและมีโอกาสกลายเป็นกระแสจนสร้างรายได้และผลกำไรให้แบบคุ้มค่าที่สุด มาดูไปพร้อมกันได้เลย

6.ธุรกิจด้านแพทย์ความงาม ขนาดของตลาดแพทย์ความงามเติบโตขึ้นจาก 64.8 พันล้านหยวน ในปี 2558 เป็น 176.9 พันล้านหยวน ในปี 2019 อัตราการเติบโตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 28.7% 

ส่งผลให้ จีนกลายเป็นตลาดธุรกิจเกี่ยวกับแพทย์ความงามที่เติบโตเร็วสุดในโลกอันดับ 2 รองจากสหรัฐ เมื่อช่วงปี 2560 และพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นตลาดขนาดใหญ่สุดของโลกในปี 2564 

เพราะปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวกับความงามโดยแพทย์ของชาวจีนมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นกว่ายุคก่อนพอควร โดยเฉพาะการเสริมความงามแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ถูกคาดการณ์ว่าน่าจะยิ่งเติบโตเร็วขึ้นไปอีก และในปี 2566 คาดว่าขนาดของตลาดจะโตขึ้นไปแตะในระดับ 311.5 พันล้านหยวน

7.ธุรกิจสำหรับคนอยู่บ้าน ต้องยอมรับว่าธุรกิจสำหรับคนอยู่บ้านในประเทศจีนมีความหลากหลายมาก แต่สิ่งหนึ่งที่มีความเหมือนกันคือ ผู้บริโภคจะอาศัยอยู่กับบ้าน นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดการเลือกบริโภคจากบ้านของตนเองกลายเป็นสิ่งที่ครอบคลุมประเภทของสินค้าแทบทุกอย่าง

เช่น การซื้อของออนไลน์, ความบันเทิงออนไลน์, โซเชียลมีเดีย, บริการจัดส่งสินค้า, การศึกษาออนไลน์, การออกกำลังกายออนไลน์, แพทย์ทางไกล และการทำงานที่บ้าน 

การเปลี่ยนแปลงในวงกว้างของระบบดิจิทัลในจีน บวกกับการใช้วิธีชำระเงินผ่านมือถือส่งผลให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินไปกับบริการต่างๆ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน ยิ่งช่วงโรคระบาดที่ผ่านมาชาวจีนมักอยู่กับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การบริโภคออนไลน์จึงเพิ่มขึ้น 

ตัวอย่างเช่น เกมออนไลน์อย่าง Honor of Kings มีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนต่อวัน เมื่อเดือนมิถุนายน 2020 หรืออย่าง KEEP ซึ่งเป็นธุรกิจฟิตเนสรายใหญ่ในประเทศก็มีอัตราผู้คนกดติดตามเพิ่มขึ้นถึง 185%

8.ธุรกิจสำหรับคนโสด มีสถิติแสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนโสดของจีนมีสูงถึง 280 ล้านคน เมื่อปี 2561 โดยมีถึง 77 ล้านคนที่อาศัยเพียงลำพัง ด้านคนที่เหลืออาศัยอยู่กับพ่อแม่เพราะวัฒนธรรมนี้ยังถือเป็นเรื่องปกติในจีน มีคาดการณ์ออกมาว่าจำนวนคนโสดจะเพิ่มมากแตะระดับ 99 ล้านคน ที่จะอาศัยเพียงลำพังในปี 2021 

คนกลุ่มนี้นับว่าสำคัญมาก ไม่ใช่แค่การเลี้ยงชีพด้วยตนเองได้เท่านั้น แต่ยังมีรายได้และการจับจ่ายใช้สอยสูงตามไปด้วย พร้อมทั้งคาดหวังอยากให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้น พวกเขายินดีใช้จ่ายเงินอย่างเต็มที่หากพบว่านั่นคือสิ่งที่ชอบหรือทำให้ชีวิตดีขึ้น ตัวอย่างชัดๆ คือ อพาร์ทเม้นท์สำหรับการอยู่อาศัยคนเดียวคิดเป็นอัตรา 51% ของตลาดให้เช่าที่พักอาศัย 

ขณะที่มีผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น เตาอบไมโครเวฟขนาดเล็ก, เครื่องซักผ้าขนาดเล็ก, เตาไฟฟ้าขนาดเล็ก ฯลฯ อีกทั้งด้วยภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากส่งผลให้คนกลุ่มนี้ยินดีจ่ายเงินเพื่อทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความหรูหรา ทันสมัยขึ้น รวมถึงยังยินดีจ่ายให้กับบริการต่าง ๆ เช่น การส่งอาหาร, ผู้ช่วยทำงานบ้าน เป็นต้น

9.ธุรกิจสำหรับผู้หญิง ผู้หญิงกำลังกลายเป็นกลุ่มคนสำคัญอย่างมากในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่, ผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงาม, สินค้าแฟชั่น, เครื่องใช้ภายในบ้าน เฉลี่ยแล้วสาวๆ ชาวจีนซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซประมาณ 7.2 ครั้งต่อเดือน 

ขณะที่ผู้ชายเพียงแค่ 5.5 ครั้งต่อเดือน ด้านระยะเวลาเฉลี่ยที่อยู่บนหน้าเว็บอีคอมเมิร์ซก็เพิ่มขึ้นจาก 257 นาที เป็น 416 นาที ทั้งนี้ผู้หญิงจะมีพฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้าต่างกันเนื่องจาก อายุ เมืองที่อยู่อาศัย ระดับการศึกษา รายได้ สถานภาพ ฯลฯ ซึ่งโดยทั่วไปมองว่ากลุ่มหญิงสาวที่เกิดหลังยุค 1975 จะนิยมซื้ออาหารสด และมองหาข้อเสนอดีๆ

หลังยุค 1985 มักแชร์ประสบการณ์ซื้อของตนเองและเทียบราคาออนไลน์ ส่วนคนเกิดหลังยุค 1995 นิยมซื้อแบบ CBEC แต่ทั้ง 3 กลุ่มยังจัดเป็นผู้บริโภคที่มีอิทธิพลสูงมาก

นี่คือทั้งหมดของแนวโน้มธุรกิจซึ่งถูกคาดการณ์ว่าพร้อมตอบสนองต่อชาวจีนได้ในปีนี้ แม้โรคระบาดยังคงอยู่ แต่ในมุมมองการใช้ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ใครที่สนใจอยากลงทุนกับกลุ่มลูกค้าในประเทศจีน ลองเอาธุรกิจเหล่านี้ไปเป็นแนวทางกันได้เลยครับ